นายกรัฐมนตรีเปิดโครงการศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์ หน้าโครงการทางด่วนนี้ดีจัง ใต้ทางด่วนเพลินจิต เผยรู้สึกดีใจและยินดีกับชุมชนที่ได้รับส่งมอบศูนย์ เพราะถือเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงการ รัฐบาลมีความตั้งใจให้โครงการเช่นนี้ เกิดขึ้นหลายๆ โครงการในทุกๆ ชุมชน เป็นศูนย์รวมของทุกคนเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกัน
วันนี้ (21 ม.ค.) เวลา 08.45 น. ณ บริเวณใต้ทางด่วนถนนสุขุมวิท (เพลินจิต) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์” โดยความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคีเครือข่ายกว่า 10 องค์กร จัดขึ้นเพื่อเปิดพื้นใต้ทางด่วน และพื้นที่ต่างๆ ให้เป็น “พื้นที่ชุมชนสร้างสรรค์” เสริมสร้างการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างคนในชุมชน เช่น เกิดกิจกรรมเรียนรู้ ศิลปะ เทคโนโลยีไอทีสำหรับเด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัว แหล่งให้ปรึกษาด้านสุขภาพ จัดฝึกทักษะอาชีพสร้างรายได้ จัดกิจกรรมออกกำลังกายของชุมชน โดยมีนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เด็กไทยมีรูปแบบการดำรงชีวิตเปลี่ยนไป มีสภาพแวดล้อมที่เสี่ยง ขาดทางเลือกในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ สถาบันทางสังคมและครอบครัวอ่อนแอลง โดยผลสำรวจสุขภาพในปี 2551-2552 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน เป็นเด็ก 1.6 ล้านคน ผู้ใหญ่ 17.6 ล้านคน และคนอ้วนลงพุง 16.2 ล้านคน นอกจากนี้พบคนไทยสูบบุหรี่ 12 ล้านคน ดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 23 ล้านคน ด้านสติปัญญาและพัฒนาการพบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 ใน 5 มีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไป ดังนั้นศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นดำรินายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้เกิดการระดมความคิดและการสนับสนุนจากภาครัฐ และภาคประชาชน ในการพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางในการทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชน สตรีและครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลอบายมุขและยาเสพติด รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวรายงานการส่งมอบพื้นที่ใต้ทางด่วนว่า ยินดีอย่างยิ่งที่เกิดพื้นที่สร้างสรรค์ขึ้นจริง และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน ซึ่งกระทรวงคมนาคมพร้อมจะร่วมมือกับ สสส. และทุกหน่วยงาน เพื่อขยายพื้นที่ชุมชนสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย โดยต้องการดึงเยาวชนเข้ามายังพื้นที่ศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์ เพื่อให้เยาวชนเหล่านั้นห่างไกลจากยาเสพติด และเสริมสร้างความรู้ในด้านต่าง ๆ ให้เยาวชนได้เกิดประโยชน์มากที่สุด และกระทรวงคมนาคมพร้อมบูรณาการอีกหลายพื้นที่ที่ว่างเปล่า เพื่ออีกหลายชุมชนได้มีสถานที่ที่ร่วมทำกิจกรรม
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีกับประชาชนที่ได้รับการส่งมอบโครงการ “ศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์” จากรัฐบาล ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งเด็กและเยาวชนต้องเติบโตและเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์ ผู้หญิงต้องมีโอกาสใช้ศักยภาพและบทบาทอย่างเต็มที่ ทุกคนในฐานะสมาชิกของครอบครัวมีสุขภาวะที่ดี ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้เกิดศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์ กระจายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใต้ทางด่วน พื้นที่สาธารณะในชุมชน โดยอยู่บนหลักการว่า ชุมชนต้องเป็นผู้กำหนดและมีส่วนร่วม พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมมือในการทำงานร่วมกันผลักดันโครงการจนเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมาในระยะเวลาไม่ถึงเดือน และร่วมกันบูรณาการความพร้อมในทุกด้าน เพื่อที่จะมาต่อเติมเสริมทักษะให้กับคนในชุมชนได้อย่างมีประโยชน์
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีทำพิธีรับมอบพื้นที่ใต้ทางด่วนบริเวณนนสุขุมวิท (เพลินจิต) จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และห้องสมุด E - Library จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อส่งมอบไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดป้ายอาคาร “ศูนย์ชุมชนสร้างสรรค์” โดยการกดปุ่ม และได้เดินชมกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ เช่น ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (E - Library) โครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนเพื่อพ่อหลวง การสอนการทำครัว เช่น การประกอบอาหารที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก (นายกฯ ทำแซนด์วิชเพื่อสุขภาพ) และมีลานออกกำลังกาย สนามเด็กเล่น (นายกฯ วาดภาพปูแดงลงบนโต๊ะ) สนามฟุตซอล ห้องเรียนรู้สร้างสรรค์ (เขียนบอร์ดว่า ชวนเด็กไทยรักการอ่าน) เป็นต้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับมอบต้นไม้กระถางแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีจากตัวแทนเด็กและเยาวชนในชุมชน และรับมอบบัตร Easy Pass จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ก่อนเดินทางกลับ