รองนายกฯ ชี้ “ครรชิต” สละเอกสิทธิ์ เป็นสิทธิส่วนตัว โยนสภาอนุมัติหรือไม่ ยักไหล่ ปชป.ยกมือหนุน ไม่พูดหวังสะท้อนแก๊งแดงสละด้วย-ไม่พูดรวบเลบานอน อ้างอย่าเอาประเทศไปเป็นคู่กรณี ยันคุมสถานการณ์ได้ ระบุ มะกันไม่ถอนเตือนคงฝังใจบึ้มปี 26
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกตำรวจออกหมายจับในคดียิง นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ได้ส่งหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขอสละเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง ว่า ตนเคยแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ไปแล้ว ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอตัวนายครรชิต นั้น ต้องทำสำนวนสรุปให้เรียบร้อยก่อนที่จะมาขอตัวนายครรชิต ส่งไปให้อัยการไต่สวน ซึ่งเอกสิทธิ์นั้นไม่ใช่สิทธิเฉพาะคน แต่เป็นหลักตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า การขอสละเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง เป็นสิทธิส่วนตัวและหลักคิด ของนายครรชิต ที่จะแสดงความจำนงได้ แต่ก็อยู่ที่ประธานสภาฯ ว่า จะบรรจุเป็นระเบียบวาระเมื่อไหร่ และก็จะต้องรอฟังเสียงส่วนใหญ่สภาฯ ว่า จะอนุมัติหรือไม่ ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะยกมือเพื่อให้นายครรชิต ได้สละเอกสิทธิ์ เพราะถือเป็นหลักของพรรคนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวเฉพาะกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกในสภาฯ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ และ นายครรชิต ตัดสินใจขอสละเอกสิทธิ์ เป็นเพราะต้องการสะท้อนมายังพรรคเพื่อไทย เนื่องจากสมาชิกของพรรคเพื่อไทยหลายๆ คน ก็มีคดีความติดตัวหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนขอไม่แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้
ตนได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้แล้วว่าต้องสรุปสำนวนให้ได้ก่อน ซึ่งตนคิดว่าภายในสัปดาห์หน้าสำนวนคดีก็คงจะเสร็จสิ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคิดเห็นส่วนตัวที่ นายครรชิต ขอสละเอกสิทธิ์ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนตัวตนขอดูข้อเท็จจริงจากหลายๆ ฝ่าย เช่น หลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องเป็นไปตามหลักของกฎหมาย ซึ่งอดีต นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.ก็เคยขอขอสละเอกสิทธิ์เช่นกัน แต่เสียงส่วนใหญ่ในสภาฯก็ไม่ให้ไป แต่ในกรณีนี้ตนไม่รู้ว่าจะเหมือนกันหรือไม่
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงแนวทางการดำเนินการกับ นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน สมาชิกขบวนการฮิซบอลเลาะห์ ว่า เรื่องนี้ตนรู้ในรายละเอียดมาตามลำดับ เพราะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด แต่เรื่องแบบนี้คงให้สัมภาษณ์ไม่ได้ ไม่ควรพูด เราอย่าเอาตัวเราไปเป็นคู่กรณีเป้าหมายเขาไม่ใช่เรา ที่ผ่านมา ตนให้สัมภาษณ์เพียงว่าเราควบคุมสถานการณ์ได้ทุกอย่างเรียบร้อย แต่สำหรับขั้นตอนต่อไปจะทำอย่างไร มีหลักฐานอะไรบ้างจะต้องให้สัมภาษณ์น้อยที่สุด ทั้งนี้ วิธีการแก้ปัญหาก่อการร้ายคืออย่าเอาประเทศเราไปเป็นคู่กรณี
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ยังคงประกาศเตือนอยู่จะเป็นปัญหาต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เราต้องยืนยันว่า ควบคุมสถานการณ์ได้ เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2526 ที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน กลุ่มดังกล่าวก็พลีชีพ ทำให้นาวิกโยธินสหรัฐฯเสียชีวิตจำนวนมาก สหรัฐฯก็จำฝังใจซึ่งก็ต้องเห็นใจเขา ส่วนการที่เลือกประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่วิเคราะห์ออกมา ส่วนจะมีการให้ข้อมูลความมั่นใจกับทางสหรัฐฯอีกครั้งหรือไม่ เพื่อให้ถอนประกาศเตือนนั้น มีการพูดคุยกันแล้ว แต่ตนก็ได้มอบให้ ผบ.ตร.ดูแลเรื่องนี้ ฝ่ายการเมืองไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องแบบนี้มาก ทั้งนี้ เป็นสิทธิของสหรัฐฯที่จะประกาศเตือน ส่วนประเทศไทยก็ต้องดูแลบ้านเราเอง