อดีตโฆษกมาร์ค เชื่อนายใหญ่ สั่งโยก “สุกำพล” นั่งกลาโหม หวังแตกหักกับกองทัพ ที่ยังไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ รู้ทันแนวคิดแก้ระเบียบข้าราชการ กห.ปี พ.ศ.2551 เข้าสู่ กมธ.สภาฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายการเมืองล้วงลูก ข้องใจนักโทษใส่เสื้อม็อบแดง แทนเครื่องแบบคุก
วันนี้ (18 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้ชัดถึงความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะกระชับอำนาจ เพื่อให้การเมืองเดินไปสู่เป้าหมายที่ตัวเองต้องการ และตั้งแต่ที่มีรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมา เครือข่ายของระบอบทักษิณได้เข้าไปแทรกแซงและคุมอำนาจรัฐ ในทุกภาคส่วน ยังคงเหลือแต่เพียงกองทัพที่เครือข่ายระบอบทักษิณไม่สามารถเข้าไปล้วงลูกได้
“การปรับ ครม.โดยเอา พล.อ.อ.สุกำพล (สุวรรณทัต) ซึ่งเป็นนายทหารแนวฮาร์ดคอร์ไปทดแทน พล.อ.ยุทธศักดิ์ (ศศิประภา) ที่มีบุคลิกประนีประนอมสูงนั้น เป็นเพราะที่ผ่านมา มีผลงานไม่เป็นที่ถูกใจนายใหญ่เท่าที่ควร จึงต้องเอา พล.อ.อ.สุกำพล ไปนั่ง รมว.กลาโหม ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ต้องการแตกหักกับกองทัพ และส่งสัญญาณให้ ส.ส.เพื่อไทย นำเอา พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ปี พ.ศ.2551 เข้าสู่ กมธ.กฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ เพื่อพิจารณาสะสางแก้ไขเปิดโอกาสให้ฝ่ายการเมืองล้วงลูกแต่งตั้งนายทหารได้”
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปรับ ครม.ครั้งนี้ นายเทพไท กล่าวว่า นายกฯกำลังพูดจากลบเกลื่อนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะแม้ว่าจะปฏิเสธเพื่อสร้างความชอบธรรมว่าตัวเองมีสถานะเป็นนายกฯ และเป็นผู้ปรับ ครม.เพียงคนเดียว แต่สังคมก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมา ก็มีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้บงการ ครม.ทั้งสิ้น และหลักฐานปรากฏชัดว่า มี ส.ส.เพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ และฮ่องกง และหลายคนที่ได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายราย ก็ออกมายอมรับอย่างความภาคภูมิใจ ว่า ได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง และมีการกำชับมอบนโยบายให้ด้วย
“จึงอยากให้นายกฯ กลับไปดูข้อเท็จจริง และการให้สัมภาษณ์ของลูกพรรคก่อนถึงเบื้องหลังการปรับ ครม.ครั้งนี้ ไม่อยากจะให้พูดไปคนละทิศคนละทาง และถ้าจะพูดในประเด็นเดียวกันก็ควรจะเตี้ยมกันภายในพรรคให้ข้อมูลตรงกันก่อน เพื่อที่สังคมจะได้ไม่ดูถูกว่าพูดจาไม่รู้เรื่องแล้ว ก็ยังพูดบิดเบือนข้อเท็จจริงอีก” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีการย้ายนักโทษการเมืองไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษบางเขน ว่า เมื่อเห็นภาพข่าวการย้ายนักโทษของกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติเหมือนกับการดูแลม็อบของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง มากกว่าดูแลคนเหล่านี้ในฐานะผู้ต้องขัง เพราะระหว่างการควบคุมขนย้ายนักโทษก็มีม็อบมาต้อนรับ ปรบมือ ให้กำลังใจ เยี่ยงการต้องรับวีรบุรุษ และที่ผิดไปจากปกติคือ ระหว่างการควบคุมตัว แทนที่จะใส่ชุดนักโทษ และตีตรวนตามแบบฟอร์มของกรมราชทัณฑ์ แต่กลับใส่ชุดเสื้อยืดคอกลมสีแดง มีรูปหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ บ้าง รูปนายกฯบ้าง และผู้ต้องหาบางคนยังโพกหัวด้วยผ้าสีแดง ซึ่งเป็นการแต่งกายเหมือนการชุมนุมที่เวทีสี่แยกราชประสงค์ทุกอย่าง
“อยากให้ รมต.ยุติธรรม เข้าไปดูแลเรื่องนี้ ว่า มีการกระทำผิดระเบียบหรือไม่ โดยเฉพาะในการใช้ชีวิตประจำวันว่ามีการใส่เครื่องแบบใดแน่ หรือว่ากรมราชทัณฑ์จะเปลี่ยนแบบฟอร์มนักโทษใหม่ ให้เป็นชุดสีแดงแทนสีน้ำตาล แล้วสกรีนคำว่ากลุ่ม นปช.มีหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ และนายกฯยิ่งลักษณ์ เป็นโลโก้แทนแล้ว” นายเทพไท กล่าว