xs
xsm
sm
md
lg

“สุนัย” เลอะ บอกก่อการร้ายในไทยเป็นเรื่องปกติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุนัย จุลพงศธร (แฟ้มภาพ)
“สุนัย” สุดมั่ว บอกก่อการร้ายในไทยเป็นเรื่องปกติ อ้างหลายประเทศเจอเหมือนกัน แขวะยึดสนามบิน-ทำเนียบ กระทบภาพลักษณ์มากกว่า อวย จนท.ทำงานไว พร้อมระบุเขมรถอนทหารส่งสัญญาณบวก

วันนี้ (18 ม.ค.) นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ที่หลายประเทศเตือนภัยก่อการร้ายในประเทศไทย ว่า กรณีที่หลายฝ่ายต้องการให้สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ยกเลิกการออกประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองให้ระวังการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ตรอกข้าวสาร และ ถ.สุขุมวิท 22 นั้น เป็นการวิตกกันเกิดเหตุ เพราะเรื่องการก่อร้ายเป็นเรื่องปกติของโลกไปแล้ว ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส ก็เจอเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ควรจะวิตกมากกว่า คือ การบุกยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศมากกว่า

นายสุนัย กล่าวว่า ตนขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำได้ฉับไว้ ต่อการแก้ไขปัญหา ทั้งในเรื่องสามารถจับได้ทันที สืบสวน และขยายผลได้ทันควัน และที่สำคัญ ออกมาประกาศชัดว่าไทยไม่ใช่เป้าหมายในการก่อการร้าย แต่เพียงใช้เป็นเพียงฐานสะสมสารตั้งต้นเพื่อส่งผ่านไปยังประเทศที่สาม นอกจากนี้ สิ่งที่เราต้องเร่งดำเนินการ คือ การประชาสัมพันธ์ให้นานาประเทศได้เข้าใจว่า ประเทศไทยไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด และวันที่ 19 ม.ค.นี้ กมธ.ต่างประเทศ จะมีการหารือในเรื่องดังกล่าว เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น ส่วนจะบอกให้สหรัฐฯถอนประกาศคำเตือนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นหลักสากลของสหรัฐฯที่จะต้องเตือนพลเมืองของตัวเอง

ส่วนกรณีที่ นายอันเดอร์ จอร์เล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ระบุว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่า นายอาทริส ฮุสเซน ผู้ต้องหาที่พัวพันกับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ซึ่งถูกจับกุมตัวมีสัญชาติสวีเดนหรือไม่นั้น นายสุนัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางได้หมดอายุแล้ว แม้ว่าหนังสือเดินทางที่ปรากฏในสื่อไทย จะระบุว่า หมดอายุในปี 2558 ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น ต้องถามไปยังกระทรวงต่างประเทศของไทย เพื่อสอบถามสถานะที่แท้จริง ก่อนที่จะดำเนินการอะไรต่อไป

นายสุนัย ยังได้กล่าวถึงการที่ประเทศกัมพูชาเดินหน้าปรับกำลังทหารในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ให้เป็นเขตปลอดทหารตามคำสั่งศาลโลกด้วยว่า ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ดังนั้น ประชาชนต้องอดทนต่อกระบวนการที่จะดำเนินการต่อไป

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไทยไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่ปราสาทพระวิหารหลังสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการสอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และได้รับคำชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การที่ไทยไม่ได้ส่งตัวแทนไปร่วมนั้น คือ 1.ผู้ที่เข้ามานั้นเป็นเพียงประเทศสมาชิกยูเอ็น 2.เราพยายามดำเนินการอะไรที่ไม่กระทบต่อคำสั่งของศาลโลก ทั้งนี้ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกทุกประการ
กำลังโหลดความคิดเห็น