รองประธานสภาฯ “เจริญ” ร่อนหนังสือถึงค้อนปลอม จี้เรื่องขอย้ายพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ อ้างเหตุผล 6 ข้อ น้ำท่วม ไม่ปลอดภัย ด้านทีม กม.วุฒิฯ เชื่อสาเหตุหลักต้องการย้ายสถานที่ก่อสร้างมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง
วันนี้ (17 ม.ค.) นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ม.ค.ตนได้ทำหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ เพื่อหารือ เรื่อง ขอย้ายพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หลังจากที่คณะกรรมการติดตามฯ มีความเห็นร่วมกันว่าควรย้ายพื้นที่ก่อสร้างใหม่ ทั้งนี้ได้ให้เหตุผลประกอบการหารือ จำนวน 6 ข้อ ได้แก่ 1.ปัญหาน้ำท่วม 2.ปัญหาเรื่องสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร ที่บดบังทัศนียภาพและความปลอดภัย 3.การจราจร ที่คาดว่าเมื่อย้ายรัฐสภาไปอยู่ที่เกียกกาย จะเจอกับสภาพการการจราจรที่ติดขัดและแออัด 4.ระยะเวลาในการส่งมอบพื้นที่ของหน่วยงาน 5.แบบอาคารใหม่ของรัฐสภา ที่มีความเสี่ยงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะชั้นใต้ดิน ที่มีห้องระบบไฟฟ้า ระบบแอร์ และโรงพิมพ์ และ 6.กรณีที่รัฐสภา ต้องเสียเงินค่าเช่าอาคารภายนอก เพื่อใช้เป็นสำนักงาน ปีละ 66 ล้านบาท ซึ่งหากระยะเวลาการก่อสร้างสภาฯ ใหม่ยืดออกไปทำให้รัฐสภา ต้องสูญเสียงบประมาณมากขึ้น แต่หากสร้างสภาฯ ใหม่เสร็จไว จะสามารถลดภาระงบประมาณดังกล่าว
“ผมส่งหนังสือไปแล้วตอนเย็น และหนังสือต้องผ่านตามกระบวนการของรัฐสภา เบื้องต้นหนังสืออาจจะไปถึงมือประธานสภาฯ ช่วงเที่ยง ของวันที่ 18 ม.ค.จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการที่ประธานสภาฯ ให้ความเห็นว่าจะย้ายหรือไม่ หากเห็นว่าย้าย ทางคณะกรรมการจะนำเสนอพื้นที่ที่ใช้ก่อสร้างใหม่ต่อไป” นายเจริญ กล่าว
ทั้งนี้ จากมติของคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดโครงการก่อสร้างสภาฯ ใหม่ดังกล่าวนั้น นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา ฐานะ 1 ในคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายของวุฒิสภา ได้ติดตามประเด็นดังกล่าวว่า เหตุผลใดแอบแฝง หรือมีเรื่องไม่ชอบมาพากลหรือไม่ เบื้องต้นพบข้อมูลเชิงลึก ว่า การเปลี่ยนแปลงสถานที่สร้างอาคารรัฐสภาใหม่นั้น อาจมีเรื่องผลประโยชน์ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หากได้ข้อมูลที่ชัดเจนและแน่นอนแล้ว ทางคณะทำงานจะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะต่อไป
“อำนาจการย้ายหรือไม่ย้ายที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ไม่ใช่อำนาจของประธาน หรือ รองประธานสภาฯ เท่านั้นแม้ว่าจะมีอำนาจก็ตาม เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทั้งสมาชิกรัฐสภา และหน่วยงานที่ได้ทำข้อตกลงว่าจะย้ายออกจากพื้นที่เกียกกาย” นายวันชัย กล่าว
