“ยงยุทธ” ไม่หวั่นถูกมองประชุม ครม.สัญจรสิ้นเปลือง เหตุกรุงเทพฯก็เสียเงินเหมือนกัน บอกขอทำงานหนักเพื่อประชาชน ไม่สนใจการเมือง เดินหน้าต่อสัญจรฐานที่มั่นอุดรธานี ก่อนนายกฯทัวร์ค่ำไหนนอนนั่น เลือกจังหวัดพื้นที่น้ำท่วมก่อน หวังฟื้นฟู กางเต็นท์ในป่า ยอมรับภาคใต้อ่อนคะแนนนิยม ไม่เชื่อการเมืองร้อน เหตุความมั่นคง ยกผลโพล ปชช.พอใจ แม้น้ำท่วมก็ยังหนุนรัฐบาล แต่ไม่ฟันรัฐบาลอยู่ครบ โยน ปชช.ตัดสิน
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร) ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ว่า ล่าสุด มี 4 จังหวัดที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และ สงขลา ซึ่งจะว่าด้วยสังคม และเศรษฐกิจ เป็นหลัก ส่วนการเมืองคงไม่ว่ากันอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่พื้นที่ของเรา แต่ก็ต้องพยายาม ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม
ส่วนการประชุม ครม.สัญจรครั้งที่สอง จะเป็นพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งน่าจะเป็นจังหวัดอุดรธานี ประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 3 ภาคใต้ นอกจากนี้ จะลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟูจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม อย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี ส่วนพื้นที่ภาคใต้ที่นายกฯยังไม่ลงไป เราต้องยอมรับอย่างหนึ่ง ว่า น้ำมาเร็วไปเร็ว ซึ่งพื้นที่ภาคใต้ตนลงไปเอง ซึ่งการลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ของนายกรัฐมนตรีในลักษณะค่ำไหนนอนนั้น คงไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าเป็นทัวร์นกขมิ้น ไม่นอนตามวัด แต่อาจจะเป็นลักษณ์นอนแบบกางเต็นท์ในป่า เมื่อจังหวัดนั้นๆ จัดให้มีการประชุม ครม.แล้ว นายกฯก็จะลงอีกรอบหนึ่ง โดยจะไปดำเนินโครงการในลักษณะ เช่น การปลูกป่า หากเลือกไปจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ก็จะได้ทั้งเรื่องของการฟื้นฟูและการปลูกป่า รวมถึงเพื่อได้รับทราบความต้องการของท้องถิ่นด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หวั่นหรือไม่ว่า จะถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณในการจัดการประชุม ครม.สัญจร นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่กลับ ลองเปรียบเทียบถึงค่าใช้จ่าย ประชุมครม.กรุงเทพฯก็มีค่าใช้จ่าย แต่การประชุม ครม.สัญจรทำให้เร็วได้ลงมาในพื้นที่ ได้เยี่ยมประชาชน และได้สานต่อโครงการพระราชดำริ ตนว่าได้มากกว่าเสีย ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายบ้าง
สำหรับสถานการณ์การเมืองในเวลานี้นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า การเมืองเวลานี้ต้องเอาการทำงานเข้าว่า ซึ่งนายกฯเองทำงานหนักมาก อย่างอื่นมันควบคุมไม่ได้ แต่ที่เราควบคุมได้คือการทำงาน สถานการณ์การเมืองไม่น่าจะร้อนอะไร เพราะรัฐบาลทำงานให้กับคนทุกกลุ่ม ฝ่ายความมั่นคงก็พอใจ ประชาชนส่วนใหญ่เองก็พอใจ มีเจตนาดีต่อกัน ทำงานเพื่อประชาชน เราคงจะให้คนมารักทั้งหมดก็คงเป็นไม่ได้ แต่การออกพื้นที่ก็พบว่าประชาชนส่วนใหญ่พอใจ นายกฯเองก็มีภาวะผู้นำ และมั่นใจว่า จะทำงานหนักเพื่อประชาชน
ส่วนเรื่องจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ก็ไม่น่าจะเอามาคิด จะคิดก็แค่ว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนพอใจ และก็เชื่อว่าประชาชนพอใจเยอะ โดยดูได้จากโพลนายกฯที่นำลิ่ว หากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แม้จะเกิดน้ำท่วมประชาชนก็ยังพอใจอยู่