“ส.ว.เจตน์” จี้รัฐทบทวนมาตรฐานรถตู้ คุมความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. แฉน้ำหนักเกินมาตรฐาน แนะรีบดูแลความปลอดภัย หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อย
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่รัฐสภา ในช่วงหารือก่อนการประชุมวุฒิสภา นายเจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา ได้กล่าวช่วงหนึ่งถึงมาตรฐานการดูแลรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งให้บริการระหว่างจังหวัด หลังจากที่พบมีรถตู้ประสบอุบัติเหตุและทำให้ผู้โดยสารต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยล่าสุดเป็นอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสายหมอชิต-ฉะเชิงเทรา ที่ได้ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง จนทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บสาหัส 7 รายว่า เบื้องต้นจึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐบาลทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยของรถตู้โดยสาร เช่น จำนวนที่นั่งในรถ น้ำหนักของรถ และความเร็ว ซึ่งหากเป็นไปได้ อยากให้ควบคุมความเร็วรถอยู่ที่ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นายเจตน์กล่าวต่อว่า สำหรับน้ำหนักของรถตู้นั้น ขณะนี้พบว่ามีน้ำหนักที่เกินกว่ามาตรฐาน เพราะรถตู้ได้ติดตั้งถังแก๊ส จำนวน 2 ถังที่มีน้ำหนักรวม 200 กิโลกรัมไว้บริเวณท้ายรถ ทำให้ลักษณะรถท้ายห้อย หน้าเชิด เมื่อวิ่งด้วยความเร็วรถจะร่อน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้รถตู้โดยสารวิ่งบริการระหว่างจังหวัดนั้น ประชาชนนิยมใช้บริการมากกว่ารถโดยสารประจำทาง เพราะมีความสะดวก และคล่องตัวมากกว่า ดังนั้นรัฐบาลควรที่จะเข้าไปดูแลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยให้เข้มงวด
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่รัฐสภา ในช่วงหารือก่อนการประชุมวุฒิสภา นายเจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา ได้กล่าวช่วงหนึ่งถึงมาตรฐานการดูแลรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งให้บริการระหว่างจังหวัด หลังจากที่พบมีรถตู้ประสบอุบัติเหตุและทำให้ผู้โดยสารต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยล่าสุดเป็นอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสายหมอชิต-ฉะเชิงเทรา ที่ได้ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง จนทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บสาหัส 7 รายว่า เบื้องต้นจึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐบาลทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยของรถตู้โดยสาร เช่น จำนวนที่นั่งในรถ น้ำหนักของรถ และความเร็ว ซึ่งหากเป็นไปได้ อยากให้ควบคุมความเร็วรถอยู่ที่ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นายเจตน์กล่าวต่อว่า สำหรับน้ำหนักของรถตู้นั้น ขณะนี้พบว่ามีน้ำหนักที่เกินกว่ามาตรฐาน เพราะรถตู้ได้ติดตั้งถังแก๊ส จำนวน 2 ถังที่มีน้ำหนักรวม 200 กิโลกรัมไว้บริเวณท้ายรถ ทำให้ลักษณะรถท้ายห้อย หน้าเชิด เมื่อวิ่งด้วยความเร็วรถจะร่อน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้รถตู้โดยสารวิ่งบริการระหว่างจังหวัดนั้น ประชาชนนิยมใช้บริการมากกว่ารถโดยสารประจำทาง เพราะมีความสะดวก และคล่องตัวมากกว่า ดังนั้นรัฐบาลควรที่จะเข้าไปดูแลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยให้เข้มงวด