พรรคประชาธิปไตยใหม่ ขวางแก้มาตรา 112 หวั่นจุดชนวนขัดแย้งในสังคม แต่หนุนให้มีการแก้ไข รธน. โดยเปิดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เพื่อเป็นตัวแทนตามระบบสัดส่วน เบรกแต่งตั้งนักวิชาการที่ไม่ได้เลือกตั้งร่วมร่าง รธน.
วันนี้ (8 ม.ค.) นายวารินทร์ อัฐนาค โฆษกพรรคประชาธิปไตยใหม่ แถลงจุดยืนของพรรคกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลขอเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุดและเห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อให้มีการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นและที่มาของ ส.ส.ร.3 จะต้องมีการเลือกตั้งทั้งหมดโดยยึดสัดส่วนจำนวนประชากรในเขตพื้นที่จังหวัดเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีสัดส่วนประชากร 150,000 คนต่อ ส.ส.ร.1 คน เพื่อให้เป็นตัวแทนของทุกกลุ่มอาชีพและเป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนโดยแท้จริง ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.จังหวัดละ 1 คน และไม่เห็นด้วยที่จะให้มี ส.ส.ร.แต่งตั้งซึ่งมาจากสายนักวิชาการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ สังคมจะต้องไม่ติดใจประเด็นเรื่องจำนวน ส.ส.ร.ว่ามากหรือน้อยแต่ควรให้ความสำคัญกับเนื้อหาและที่มาของ ส.ส.ร.เป็นสำคัญ
นายวารินทร์กล่าวว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขในมาตรา 112 และหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกมาตรา เพราะจะเป็นการปะทุความรุนแรงและขยายความขัดแย้งของประชาชนไม่สิ้นสุด โดยรัฐบาลจะต้องรู้ว่าในสังคมประชาธิปไตยไม่มีกลุ่มผลประโยชน์ใดได้ประโยชน์ไปทั้งหมด และไม่มีใครเสียประโยชน์ไปทั้งหมด จะต้องพบกันครึ่งทางและรู้ว่าอะไรคือเผือกร้อนทางการเมือง อะไรควรแตะอะไรที่ไม่ควรแเตะ และต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยของไทยความฝันและข้อเท็จจริงในสังคมมักสวนทางกันเสมอ
วันนี้ (8 ม.ค.) นายวารินทร์ อัฐนาค โฆษกพรรคประชาธิปไตยใหม่ แถลงจุดยืนของพรรคกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลขอเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุดและเห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อให้มีการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นและที่มาของ ส.ส.ร.3 จะต้องมีการเลือกตั้งทั้งหมดโดยยึดสัดส่วนจำนวนประชากรในเขตพื้นที่จังหวัดเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีสัดส่วนประชากร 150,000 คนต่อ ส.ส.ร.1 คน เพื่อให้เป็นตัวแทนของทุกกลุ่มอาชีพและเป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนโดยแท้จริง ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.จังหวัดละ 1 คน และไม่เห็นด้วยที่จะให้มี ส.ส.ร.แต่งตั้งซึ่งมาจากสายนักวิชาการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ สังคมจะต้องไม่ติดใจประเด็นเรื่องจำนวน ส.ส.ร.ว่ามากหรือน้อยแต่ควรให้ความสำคัญกับเนื้อหาและที่มาของ ส.ส.ร.เป็นสำคัญ
นายวารินทร์กล่าวว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขในมาตรา 112 และหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกมาตรา เพราะจะเป็นการปะทุความรุนแรงและขยายความขัดแย้งของประชาชนไม่สิ้นสุด โดยรัฐบาลจะต้องรู้ว่าในสังคมประชาธิปไตยไม่มีกลุ่มผลประโยชน์ใดได้ประโยชน์ไปทั้งหมด และไม่มีใครเสียประโยชน์ไปทั้งหมด จะต้องพบกันครึ่งทางและรู้ว่าอะไรคือเผือกร้อนทางการเมือง อะไรควรแตะอะไรที่ไม่ควรแเตะ และต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยของไทยความฝันและข้อเท็จจริงในสังคมมักสวนทางกันเสมอ