xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” แบะท่าร่วมรัฐบาล หลังปล่อยผี111 เชื่อ “ปู” อยู่เกิน 1 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
“สมศักดิ์” ห่วงการเมืองเดือด รัฐบาล-ฝ่ายค้าน เปิดศึกด้วยความเคียดแค้น หวั่นสร้างเงื่อนไขยุ่งยากให้บ้านเมือง แนะเร่งฟื้นฟูเรียกความเชื่อมั่นจากวิกฤตน้ำท่วม ชี้ปีนี้ปรับ ครม.แน่ แต่แค่ปรับภายในพรรคร่วมฯ พร้อมแบะท่าร่วมรัฐบาล หลังบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษ เชื่อ “รัฐบาลปู” อยู่เกิน 1 ปี

วานนี้ (1 ม.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย กลุ่มมัชฌิมา กล่าวถึง สถานการณ์การเมืองในปี 2555 ว่า การเมืองปัจจุบันมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มค้าน และรัฐบาล ที่สู้กันด้วยอารมณ์และความเคียดแค้น แต่การทำการเมืองแบบนี้ไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาของประชาชน แต่เป็นการสร้างเงื่อนไขให้การเมืองยุ่งยากมากขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนต้องการอย่างเร่งด่วน คือ เรื่องการฟื้นฟูหลังจากอุทกภัยใหญ่ทั่วประเทศ การเตรียมการรับภัยในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในปีต่อๆ ไป ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะมีภัยอะไรบ้าง มันอาจจะมีอุทกภัยตามมาอีกก็ได้

รองลงมาคือ ราคาผลผลิตทางการเกษตรที่จะผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจของโลก โดยสหรัฐฯ ยุโรป จีน 3 กลุ่มประเทศมหาอำนาจ จะทำให้ราคาผลิตผลทางการเกษตรผันผวน สืบเนื่องมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภค

อีกประเด็นหนึ่งคือ ความมั่นใจของผู้ประกอบการ นักลงทุนที่เราอาจจะดูได้จากนิคมอุตสาหกรรม ถ้าไม่มั่นใจการลงทุนเพิ่มหรือการแก้ไขปัญหาให้เขารู้สึกมั่นใจกับอุทกภัยที่มันจะตามมาหรือไม่ตามมาในอนาคตข้างหน้า ถ้าเกิดเขาไม่มั่นใจเขาอาจจะหยุดการลงทุนตรงนี้ มันจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทำเขามั่นใจและลงทุ่นต่อเนื่อง

ส่วนกระแสข่าวที่แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ติดต่อให้ ส.ส.กลุ่มมัชฌิมา เข้าร่วมงานกับรัฐบาล นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถ้าถามตนก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้กำลังใจไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลในยามนี้ เมื่อเสียงส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนรัฐบาลก็พร้อมจะให้กำลังใจ ซึ่งไม่เห็นด้วยในเรื่องที่ทำให้สังคมแตกแยกหรือขัดแย้งอย่างรุนแรง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทยทั้งหมดจะเข้าร่วมรัฐบาลในปี 2555 นายสมศักดิ์กล่าวว่า “ผมว่ายังไม่น่าเป็นไปได้ คือถ้ามันจะมีการแบ่งครึ่งร่วมรัฐบาลครึ่งหนึ่ง ร่วมกับฝ่ายค้านครึ่งหนึ่ง อย่างที่มีในอดีต คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้ามีการพูดคุยไปทั้งหมดในเวลาที่พอควร มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

เมื่อถามย้ำว่า แต่ยังไม่ปิดโอกาสใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนวิเคราะห์ให้ฟัง ไม่ใช่เป็นคนตัดสินใจที่จะเปิดหรือปิดโอกาส เพราะตนเป็นพวกบ้านเลขที่ 111 จะไปตัดสินใจทางการเมืองอะไรให้เขาไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีการพูดคุยทาบทามอะไรกันทั้งสิ้น

เมื่อถามว่ามองการปรับ ครม.ของรัฐบาล เพื่อรอรับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อย่างไร แกนนำกลุ่มมัชฌิมากล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลงานหรือความพอใจของประชาชน รวมทั้งความพึงพอใจของผู้บริหารสูงสุด ที่ดูแล้วว่าลูกทีมทำให้เขาพอใจหรือไม่ แต่ก็มีโอกาสที่จะมีการปรับเพื่อทดแทน และขอบคุณผู้คนทั้งหลายมากขึ้น ซึ่งกระแสข่าวที่มีอยู่ก็น่าจะจริง รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียกเสียงศรัทธา และเร่งรัดความเชื่อมั่นด้านต่างๆ ถ้าหากไม่เกิดความมั่นใจเรื่องภัยพิบัติในอนาคตมันจะมีหรือไม่ ถ้าคุณไม่มีแผนอะไรออกมาเขาก็คงเกิดความไม่มั่นใจหรือความศรัทธา และความถดถอยก็จะเกิดขึ้น แต่ปรับครั้งแรกคงเป็นการปรับเฉพาะภายในของกลุ่มรัฐบาลเอง คงไม่มีใครข้างนอกเข้าไปในส่วนตรงนี้

“ผมมั่นใจว่าไม่น่าจะมีคนนอก แต่น่าจะเป็นพรรคที่เป็นรัฐบาลอยู่แล้วมีการปรับ หรือสลับเอาเข้าเอาออก ถ้าจะมีการปรับก็คงเป็นพรรคการเมืองเดิมที่เป็นอยู่แล้ว”

เมื่อถามว่าเมื่อพ้นจากเดือน พ.ค.55 จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษทางการเมือง นายสมศักดิ์กล่าวว่า แน่นอน จะมีบุคลากรทางการเมืองอีก 111 คนที่จะมาทำงานการเมืองตรงนี้ และส่วนใหญ่ก็อยู่ซีกรัฐบาลซึ่งต้องถูกนำมาใช้ เป็นบุคคลกรทางการเมืองในการปรับ ครม.ครั้งที่ 2 ซึ่งตรงนี้คิดว่าสังคมก็รอรับคนกลุ่มนี้พอสมควรเหมือนกัน เพราะจะมีคนออกมาทำการเมือง มีตัวเลือกให้รัฐบาลมากขึ้น เมื่อถามว่าประเมินว่ากระทรวงไหนเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล ที่ต้องปรับเปลี่ยน นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนคงไม่ไปวิเคราะห์ว่ากระทรวงไหนเป็นจุดอ่อน หรือไม่อ่อน แต่เรามองในภาพรวม ถ้าเสียงของรัฐบาลพรรคเดียวมี 265 เสียง มันก็เป็นเสียงมหาชนที่เขายอมรับตรงนี้ ดังนั้นเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้การยอมรับมันต่อเนื่อง หรือมากขึ้น

แต่ที่ผ่านมาก็น่าเห็นใจรัฐบาลที่ยังไม่ได้โชว์ผลงานเท่าไหร่ เพราะมีอุทกภัยใหญ่เข้ามา งบฯส่วนใหญ่ก็ไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการแก้น้ำท่วม แต่ถ้ามีมาอีก ประชาชนคงคาดหวังว่ารัฐบาลต้องทำอะไรให้ได้ฉับไวกว่าที่เป็นอยู่

เมื่อถามว่า ประสบการณ์ของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้ทันทีหรือไม่หากมีการปรับ ครม.ครั้งที่ 2 นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถ้ามันพ้นขีดเส้นที่เขาตัดสิทธิ์แล้วมันก็น่าจะเป็นได้ แต่คนที่จะให้เป็นคือนายกรัฐมนตรี จะให้เขาเป็นหรือไม่ คิดว่าเขามีคนรอคิวกันอยู่ คนที่อยู่ข้างนอกคงจะออกมาเป็นภาคแสดงมากขึ้น คงมีแน่นอน

เมื่อถามว่า บทบาทของแกนนำคนเสื้อแดงที่เรียกร้องการดำเนินการคดี 91 ศพ และบางส่วนก็รอจ่อเก้าอี้รัฐมนตรีอยู่ด้วย จะเป็นปัญหากับรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า การปรับ ครม.หรืออะไรต่างๆ ก็ทำให้คนเสื้อแดงมีความหวังและดีเสียอีกที่เขาจะได้มีโอกาสได้รับรางวัล

นายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปี 2555 จะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ว่า ถ้าเราดูเงื่อนไข อย่างเรื่องการเขียนรัฐธรรมนูญกันใหม่ หรือการแก้ไข พ.ร.บ.ต่างๆ ที่เอามาวิพากษ์วิจารณ์กัน เช่น เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง พ.ร.บ.กลาโหม เรื่องนิรโทษกรรมต่างๆ หรือแม้แต่เรื่องพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีการพูดคุยกัน ซึ่งพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเงื่อนไขที่เอาออกมา แต่ในชั้นเชิงทางการเมืองที่รัฐบาล กับฝ่ายค้านเล่นกันอยู่ เช่นใน ครม.ดูเหมือนว่าจะมีมติออกมานิรโทษกรรมคนที่ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี คดียาเสพติด คดีอาญาทางการเมือง ที่มีข่าวว่าจะนิรโทษกรรมให้หมด ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน จนมีกลุ่มมวลชนเริ่มขยับตัวรุนแรงเพื่อต่อต้าน เรื่องเหล่านี้มันก็หายไป เข้าใจว่ามันเป็นเกมการเมืองระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาลเล่นกันในเงื่อนไขใหม่ๆ แล้วก็ขยับถอย ถึงได้บอกว่าเขาสู้กันด้วยความเคียดแค้น เป็นสิ่งที่สังคมเมืองบริโภคข่าวสารเหล่านี้มาตลอด แต่สังคมชนบทไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้ แต่เขาสนใจเรื่องของสินค้าเกษตรมากกว่า นี้คือสิ่งที่เป็นเงื่อนไข เป็นการโยนหินถามทางไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า คิดว่าเงื่อนไขที่กล่าวมานี้จะนำไปสู่ความรุนแรงได้หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเดินหน้ามันอาจก้าวสู่ความรุนแรงได้ เพราะเป็นการขยับถอยขยับเดิน เป็นก้าวที่ก้าวไปข้างหน้าหรือถอย หรือว่ามันไม่ได้มีการเสนอในครม.ก็ไม่รู้ แต่เป็นการเล่นเชิงกันอยู่

ต่อข้อถามว่า ปัจจัยของกลุ่มมวลชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หรือเหตุสลายการชุมนุม 91 ศพ จะเป็นปัจจัยที่จะทำให้รุนแรงหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า คนที่ไม่ได้รับการเยียวยา เดี๋ยวก็คงได้ แต่ไม่รู้จะช้าหรือเร็ว ถ้าเร็วก็ดี แต่เสื้อแดงตนไม่แน่ใจ เพราะคนเสื้อแดงมันมาจากหลากหลาย และมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน จึงไม่แน่ใจว่าเมื่อนานไปแล้วความกลมเกลียวของเขาจะหายไปหรือไม่ ถ้าไม่กลมเกลียว มันก็มีผลเหมือนกัน

นอกจากนี้ยังจะมีปัจจัยเรื่องใหม่เข้ามาอีก เช่น พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะจุดไฟได้หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับสังคมยอมรับ ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษ มันมาแล้วก็ไป

ส่วนการประเมินอายุรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ 1” นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร อย่างเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พอขยับรัฐบาลก็ออกมาบอกว่าไม่มี มันก็เลยดูเหมือนว่าไม่มีอะไร ทำให้ฝ่ายตรงข้ามจ้องรอดูก่อนว่าจะมีอะไร หรืออาจจะเหนื่อยหน่ายไม่เอาแล้ว ก็ไม่รู้ ถ้าไม่เหนื่อยไม่ท้อ ก็อยู่ได้ ให้มองก็น่าจะเกิน 1 ปี เพราะการทำงานก็ต้องมีทีมงานคอยช่วยอยู่ข้างหลัง

ต่อข้อถามว่า มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนรัฐบาล หรือเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ จะเตือนรัฐบาลไม่ให้ตกหลุมได้อย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่โชว์ตอนนี้ไม่มี นอกจากจะมีปัจจัยใหม่ที่เป็นเงื่อนไขตามมา ยังดูสบายๆ ทั้งนี้ตนดูว่ารัฐบาลระวังพอสมควร, อาจจะเป็นกุนซือแนะนำ หรือเป็นช่วงประเหมาะเคราะห์ดี เราก็ไม่รู้ เหมือนกำลังแข็งแรงมาก ดูแล้วจะมีเรื่อง เขาก็ถอย ถ้าไม่มีเงื่อนไขเอาจริงเอาจัง มันก็ไม่มีเรื่อง

เมื่อถามว่า มองการบริหารงานของนายกฯ คิดว่ามีกุนซือดีหรือไม่ และมีอะไรต้องปรับปรุงอีกบ้าง นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนรู้คุณสมบัติของนายกฯ ตั้งแต่แรกแล้ว ฉะนั้นการวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ ทั้งที่เรารู้ โอกาสและความจำเป็นต่างๆ คงไม่เหมาะที่จะไปพูดให้ฝ่ายค้านไปวิจารณ์กันดีกว่า เขาก็วิเคราะห์วิจารณ์กันทุกวันอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น