โฆษกรัฐบาล โวรัฐถูกตรวจสอบมากกว่ายุค “มาร์ค” ชี้ ครม.ทยอยอนุมัติงบเยียวยาน้ำท่วม หวังให้เห็นงบไม่ซ้ำซ้อน แขวะไม่ปล่อยผ่านเป็นก้อนเหมือนไทยเข้มแข็ง รับไม่ถนัดโฆษก บอก “จตุพร” นั่งแทนมันกว่าเยอะ โอ่ ควรยกเก้าอี้ รมต.ให้ด้วย แต่รับยังไม่มีใครส่งซิก เชื่อปรับ ครม.ไม่เกี่ยวรอพวกพ้นโทษแบน ยันไม่น้อยใจพรรค โอดยังสู้ไหวถ้าไม่โดนใส่ความ
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.45 น.นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุสาเหตุที่รัฐบาลอนุมัติงบเพื่อฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายด้านโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิต จำนวน 20,000 ล้านบาท จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 60,000 ล้านบาท ออกมาเป็นขยัก เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ว่า รัฐบาลตรวจสอบมากกว่ารัฐบาลที่แล้ว เพราะสำนักงบประมาณ และสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก็เข้ามาตรวจสอบ และงบประมาณ 20,000 ล้านบาทเศษ ที่ให้แต่ละจังหวัดไปใช้ในโครงการฟื้นฟู ก็มีขั้นตอนการตรวจสอบถึง 5 ขั้น คือ 1.แต่ละจังหวัดต้องหารือกันในจังหวัด 2.ต้องผ่านผู้ตรวจราชการ 3.ผ่าน รมต.ที่กำกับดูแลงานจังหวัดนั้นๆ 4.ผ่านสำนักงบประมาณ และ 5.เสนอโครงการมาที่คณะกรรมการคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ที่ มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน กฟย.ดังนั้น การที่ ครม.ทยอยอนุมัติเพื่อให้เห็นว่าเป็นการออกงบที่ไม่ซ้ำซ้อน ถ้าไม่ตรวจสอบก็จะอนุมัติทีเดียว 60,000 ล้านบาท
“ขอย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้มีมาตรการในการตรวจสอบ ไม่ปล่อยผ่าน และให้มาขอเป็นก้อน เหมือนรัฐบาลชุดที่แล้วที่ปิดกันให้แซด โดยเฉพาะงบประมาณในโครงการไทยเข็มแข้ง 30 เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้ประชาชนสบายใจว่า หน่วยงานราชการ มีการตรวจสอบ จึงขอให้เชื่อมั่น และที่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า รัฐบาลไม่กล้าเสนองบฟื้นฟูน้ำท่วม 20,000 ล้าน เข้าสภา เพราะกลัวถูกตรวจสอบนั้น ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะงบฟื้นฟูน้ำท่วม ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสนอเข้าสภา แต่งบไทยเข้มแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่ต้องเสนอ รัฐบาลนี้ไม่กลัวการตรวจสอบใดๆ” นางฐิติมา กล่าวว่า
นางฐิติมา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถูกวางตัวให้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทน นางฐิติมา ว่า “ก็ดี เพราะมันกว่าพี่เยอะ” เมื่อถามว่า เกรงว่า จะเกิดกระแสต่อต้านหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า จริงๆ นายจตุพร เป็นคนมีความสามารถในการตอบโต้ได้ดีกว่าตน เพราะอยู่ในแวดวงการการพูด ถ้า นายจตุพร ขาดสมาชิกภาพ ส.ส.ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลอาจจะน้อยไป ควรให้เขาเป็นรัฐมนตรีด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคส่งสัญญาณ หรือหารือกับตนเรื่องนี้ เมื่อถามว่า แสดงว่า พรรคมองว่า นายจตุพร อาจจะขาดจากสมาชิกภาพ ส.ส.นางฐิติมา กล่าวว่า ตนไม่รู้ ที่พูดเพราะคิดว่านายจตุพร ไม่น่าจะหลุดจาก ส.ส. เพราะยังไม่รู้เหตุผลที่ชัดเจนว่าเป็นเพราะเขาไปลงคะแนน เนื่องจากติดอยู่ในเรือนจำ หรือเป็นเพราะอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวปรับโฆษกรัฐบาล ถือเป็นการสอดรับการข่าวปรับ ครม.เพื่อรอสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ซึ่งจะพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ในเดือน พ.ค.55 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าสลับครั้งนี้ แล้วอีก 5 เดือนสลับใหม่ คงไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่า จะกระทบภาพลักษณ์ของรัฐบาลที่ให้คนเสื้อแดงเข้ามามีบทบาทในรัฐบาลมากไป นางฐิติมา กล่าวว่า บางคนอาจจะคิดได้ เพราะก่อนหน้านี้ การแต่งตั้งคนเสื้อแดงมาเป็นที่ปรึกษาก็ถูกโจมตีเยอะ และหากจะส่งผลอะไรก็คงเหมือนกับช่วงแรกที่ตั้ง ครม.ใหม่ๆ แต่อยากให้มองที่ความสามารถ ขอให้ทำงานได้ก็ดี เมื่อถามว่า จะเหมาะสมหรือไม่ที่รัฐบาลจะเอาพวกฮาร์ดคอร์มาเป็นกระบอกเสียง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาจจะดีก็ได้ เพราะตนไม่ฮาร์ดคอร์ขนาดนั้น เมื่อถามว่า เป็นสาเหตุที่มีข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกฯเพราะทำงานไม่เข้าตาผู้ใหญ่ในพรรค นางฐิติมา กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ เพราะตนไม่ถนัดงานนี้ตั้งแต่ต้น จะมาพูดเจื้อยแจ้วก็ไม่ใช่ ตนถนัดเรื่องในสภา แต่ไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจเรื่องคะแนนเสียงมากกว่าอีกฝ่าย เมื่อถามว่า รู้สึกท้อใจในการทำงานหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า ไม่ได้ท้อ แต่รู้สึกว่างานตรงนี้มันยากมาก เพราะต้องรู้ทุกเรื่อง โดยที่ไม่รู้ว่าวันหนึ่งๆ นักข่าวจะถามเรื่องอะไรบ้าง
เมื่อถามว่า ในพรรคเพื่อไทยมีใครบ้างที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ นางฐิติมา กล่าวว่า ตนก็ยังคิดถึง นายจตุพร อยู่ เพราะคนอื่นก็เป็น ส.ส.เมื่อถามว่า จะหารือกับนายกฯเพื่อขอเปลี่ยนไปทำหน้าที่อื่นแทนหรือไม่ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ถ้าจะแสดงความต้องการคงต้องบอกตั้งแต่ต้น แต่ตอนนี้มาไกลแล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าพรรคจะพิจารณาอย่างไรก็ไม่น้อยใจ และวันนี้ยังสู้ไหว ถ้าไม่โดนคนใส่ความและเข้าใจผิด ทั้งที่ไม่ใช่ แต่เข้าใจว่าอยู่ตรงไหนก็โดน เพราะก่อนหน้านี้ ถูกขอให้มาทำงานตรงนี้ซึ่งตนก็บอกว่าไม่ถนัด แต่เมื่อให้มาทำก็ต้องศึกษากันไป