xs
xsm
sm
md
lg

แก้ กม.112 เจตนาล้มเจ้า คนไทย-กองทัพทนไม่ได้ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดก็โผล่หน้าออกมาให้เห็นชัดเจนแล้วว่าความเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาท ให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ เริ่มเดินเครื่องกันอย่างเต็มตัว เนื่องจากมีการกำหนดตารางเวลาเป็นขั้นเป็นตอน

ล่าสุดที่เห็นตัวตนก็คือ “กลุ่มนิติราษฎร์” ที่ส่วนใหญ่เป็น “พวกสอนวิชากฎหมาย” ตามมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เป็นพวก “เด็กๆ” ที่รวมตัวกัน โดยประสานกับกลุ่มคนที่เรียกว่าเป็นนักเขียน ที่เขียนเรื่องสั้น บทความ หรือไม่ก็มีพวกที่ทำตัวเป็นนักเขียน นักคิด ทำตัวให้ดูแปลกไปจากคนอื่นอีกนับร้อยคน ต่างเคยร่วมกันลงชื่อเป็นหางว่าวแสดงเจตนาให้แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยอ้างว่าการมีกฎหมายมาตราดังกล่าวกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือบางทีไปไกลว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความล้าหลัง ไม่เป็นสากล ฯลฯ โดยคนพวกนี้ย้ำว่าจะต้องแก้ไข หรือยกเลิกกฎหมายดังกล่าวโดยเร็ว

ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีกลุ่ม “ไม่เอาเจ้า” หรือต้องการ “ล้มเจ้า” เคลื่อนไหวกันอย่างต่อเนื่องทั้งที่มาในรูปแบบของ “โซเชียลมีเดีย” มีเวปไซต์ที่จงใจให้ร้ายสถาบันฯผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด โดยเฉพาะต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคที่ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลจนถึงปัจจุบัน ข้อสังเกตส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่ามีคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งที่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมขบวนเคลื่อนไหวมากับการชุมนุมของคนเสื้อแดงของ ทักษิณ ด้วย และที่ผ่านมาหลายคนก็ถูกดำเนินคดี ถูกขังคุก

กรณีของชายคนหนึ่งอายุ 61 ปี ที่ส่ง เอสเอ็มเอส จาบจ้วงสถาบัน ต่างกรรมต่างวาระถึง 4 ครั้งถูกศาลสั่งจำคุก 20 ปี กำลังถูกนำไปขยายความให้กลายเป็นดรามาต่อสังคมว่า “อากง” ราวกับว่าชายแก่กำลังถูกทำร้าย ทั้งที่เป็นการพิจารณาความผิดแต่ละกระทงตามการพิจารณาความผิดในกฎหมายอาญาทั่วไป

ขณะเดียวกันเมื่อย้อนกลับไปพิจารณาแบ็กกราวด์ของ ชายดังกล่าวก็มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของตำรวจสันติบาล เป็นพวก “แดงฮาร์ทคอร์” ในย่านปากน้ำ สมุทรปราการ ที่ผ่านมามักเดินแจกใบปลิวโจมตีสถาบันฯระหว่างการร่วมชุมนุมของคนเสื้อแดงมาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นการที่มีการรณรงค์โดยพยายามใช้ชายคนนี้เป็นเครื่องมือทำให้เป็นดรามาว่าเป็นกากงถูกรังแก เพื่อบิดเบือน บางคนถึงกับฉวยโอกาส “โชว์นมหมดอายุ” สร้างกระแสไปกับเขาด้วย จนสร้างความสมเพชชวนสะอิดสะเอียน

หากย้อนกลับมาอธิบายแบบทำความเข้าใจเนื้อหามาตรา 112 ที่ระบุว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย (1) พระมหากษัตริย์ (2) พระราชินี (3) รัชทายาท หรือ (4) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี”

ถามว่าข้อความดังกล่าวในมาตรา 112 ที่ระบุดังกล่าวมันไปปิดกั้นเสรีภาพตรงไหน ไปปิดกั้นไม่ให้คนพวกนี้ต้องเดือดร้อนตรงไหน

เพราะในความเป็นจริงแล้วการวิพากษ์วิจารณ์ การเสนอความเห็นทางวิชาการสามารถทำได้อย่างเสรี ยกเว้นไปหมิ่นประมาทคนอื่น ซึ่งก็อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาอีกมาตราหนึ่งที่แยกแยะออกไป ดังนั้นเจตนาของพวกที่ต้องการให้แก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 มองได้อย่างเดียวก็คือ “เจตนาล้มเจ้า” เพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ดีคนพวกนี้ก็ยังเดินหน้า โดยมีการกำหนดตารางเวลาออกมาชัดเจนแล้ว มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อยกร่างแก้ไข ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็เริ่มมีสัญญาณตอบโต้กลับมาชัดเจนขึ้นเช่นเดียวกัน จากภาคประชาชนว่าจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขหรือแตะต้องกับมาตราดังกล่าวอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงคำรามจากฝ่ายกองทัพที่นำโดย ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า “ให้ลองดู” มันก็ย่อมเพิ่มอุณหภูมิขึ้นมาอย่างแน่นอน และเชื่อว่าคนไทยไม่ยอมแน่นอน

ดังนั้นหากจะให้ประเมินสถานการณ์หลังปีใหม่นอกจากประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลบล้างความผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร กับพวกแล้ว ยังมีเรื่องความพยายามแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีเจตนาจาบจ้วงและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ของบางกลุ่ม จะเป็นชนวนให้เกิดความวุ่นวาย และเชื่อว่ากรณีหลังนี่แหละน่าจะเป็นชนวนสำคัญ และร้อนแรงไม่น้อยกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียอีก !!
กำลังโหลดความคิดเห็น