ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ พ.ร.ป.สตง.-ประกาศ คปค.ที่ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อยู่ในวาระปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีการสรรหาใหม่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เตรียมส่งศาลปกครองวินิจฉัยกลางเดือน ม.ค.นี้ ยังอยู่ในตำแหน่งหรือไม่
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายสมฤทธิ์ ไชยวงศ์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด ส่งคำโต้แย้งของคุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มาตรา 34(2) ที่บัญญัติเรื่อง การพ้นจากตำแหน่งของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ว่านอกจากเป็นไปตามวาระแล้ว (2) พ้นเมื่อมีอายุครบ 65 ปี บริบูรณ์ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2549 มาตรา 36 และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 309 ที่บัญญัติว่า บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2549 ว่า เป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว ไม่ว่าก่อนหรือหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้ หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่า มาตรา 34(2) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินเป็นบทบัญญัติที่ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พ้นจากตำแหน่งเมื่อมีอายุครบ 65 ปี บริบูรณ์ ส่วนประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 20 ก.ย.2549 และฉบับที่ 29 ลงวันที่ 30 ก.ย.2549 ทั้ง 2 ฉบับ เป็นเสมือนบทเฉพาะกาล ซึ่งยังมีผลบังคับใช้ และได้รับการรับรองความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ การมีคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญไม่ได้ก้าวล่วง ว่า คุณหญิง จารุวรรณ ยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าการ สตง.หรือไม่ เพราะเป็นอำนาจของศาลปกครองที่จะพิจารณา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำวินิจฉัยนี้ให้ศาลปกครองสูงสุดภายในกลางเดือน ม.ค.55
“กรณีการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ สตง.ของคุณหญิง จารุวรรณ ตามประกาศ คปค.เป็นกรณีเฉพาะเท่านั้น ซึ่งประกาศ คปค.กำหนดให้อยู่ในตำแหน่งไปจนกว่าจะมีการสรรหาผู้ว่าการ สตง.คนใหม่ ที่หากเมื่อได้ผู้ว่าการ สตง.คนใหม่แล้ว ก็จะอยู่ในวาระได้แค่ 5 ปี หรือพ้นเมื่อมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์เท่านั้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นประกาศ คปค.นี้ก็จะนำมาใช้กับผู้ว่าคนใหม่ไม่ได้แล้ว” นายสมฤทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากมาจากผู้ตรวจการแผ่นดิน และ นายพิศิษฐ์ ลีลาวัชรโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง กรณี คุณหญิง จารุวรรณ มีคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้ง นายพิศิษฐ์ เป็นรักษาการผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นการมีคำสั่งหลังจากที่คุณหญิง จารุวรรณ มีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ซึ่งถือว่าคุณหญิง จารุวรรณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2549 แล้ว และต่อมาวันที่ 19 ต.ค.53 ศาลปกครองกลางก็ได้มีคำพิพากษาว่าคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งนายพิศิษฐ์ เป็นรักษาการผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายและสั่งเพิกถอน เนื่องจากขณะออกคำสั่ง คุณหญิง จารุวรรณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ทำให้ คุณหญิง จารุวรรณ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และขอให้ศาลปกครองสูงสุดส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าว