xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ห่วงสภาพน้ำค้างทุ่งนครปฐม คาดน้ำแห้งต้องรอ มี.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผู้นำฝ่ายค้านลงพื้นที่ตรวจภาวะน้ำท่วมนครปฐม ยังเป็นห่วงสภาพน้ำค้างทุ่งอีกกว่า 2 แสนไร่ ชาวบ้านร้องรัฐบริหารจัดการน้ำเป็นปัญหาหลัก จี้ ศปภ.ให้การสนับสนุนเร่งสูบน้ำออก ช่วยให้เกษตรกรทำนาได้ เชื่อหากไม่เร่งสูบน้ำอออก กว่าน้ำแห้งต้องรอเดือน มี.ค.พร้อมแนะรบ.ขยายเวลาโครงการรับจำนำข้าวไปถึงเดือนพ.ค.

วันนี้ (26 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ ต.บางระกำ อ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อตรวจสอบสถานการณ์น้ำค้างทุ่งที่ยังมีอยู่จำนวนมากใน จ.นครปฐม โดยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชาวบ้าน ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่สะท้อนปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาว่านอกจากจะเป็นภัยธรรมชาติแล้วยังมีปัญหาในเรื่องของการบริหารจัดการเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และในปัจจุบันยังมีน้ำค้างทุ่งพระพิมลอยู่กว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้พื้นที่ทำนาของชาวบ้านจมอยู่ในน้ำกว่า 2 แสนไร่ ซึ่งในขณะนี้ได้มีคาวมพยายามที่จะสูบน้ำออกจากพื้นที่เพื่อลงแม่น้ำท่าจีน โดยมีการระดมเครื่องสูบน้ำจาก กทม. และกรมชลประทาน แต่ยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำมันอีกหนึ่ง 10,000 ลิตร และยังขาดเจ้าภาพที่จะออกค่าใช้จ่ายให้กับการไฟฟ้าฯ ทำให้ยังไม่สามารถสูบน้ำออกจากทุ่งพระพิมลได้ โดยนายอภิสิทธิ์ได้รับที่จะให้การสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือในเรื่องนี้ ซึ่งทางพรรคจะให้ทุนประเดิมในการสูบน้ำออก 1 แสนบาท และจะไปช่วยประสานเพื่อหาน้ำมันอีกหนึ่ง 10,000 ลิตรมาใช้ดำเนินการ นอกจากนี้ยังรับที่จะไปเสนอต่อรัฐบาลให้ขยายโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน ก.พ.ให้ไปเป็นสิ้นเดือน พ.ค. เพื่อให้ชาวนาที่เพิ่งเริ่มปลูกข้าวสามารถไปเข้าโครงการรับจำนำได้ โดยในอนาคตจะเสนอให้รัฐบาลไม่ประกาศกรอบเวลา เพราะจะทำให้ชาวนาเสียประโยชน์ในการเข้าโครงการ และยังเป็นห่วงปัญหาการนำข้าวไปจำนำข้ามเขต ซึ่งจะทำให้เกิดความสับสนและไม่ตรงตามเจตนารมณ์ที่กำหนดนโยบายมา

หลังการแลกเปลี่ยนความเห็น นายอภิสิทธิ์เดินทางไปตรวจประตูระบายน้ำสวิตชาต ซึ่งเป็นจุดตั้งเครื่องสูบน้ำในการสูบน้ำออกจากทุ่งพระพิมลไปยังแม่น้ำท่าจีน แต่ขณะนี้ระดับแม่น้ำท่าจีนยังสูงกว่าระดับน้ำในทุ่ง ถ้าไม่มีการระดมสูบน้ำออกกว่าน้ำจะแห้งต้องรอถึงเดือน มี.ค. แต่ถ้าระดมทรัพยากรเข้ามาดำเนินการได้ทันทีก็จะใช้เวลาไม่เกิน 15 ม.ค.พื้นที่ทั้งหมดก็จะแห้ง เกษตรกรก็จะปลูกข้าวได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายระดมความช่วยเหลือในพื้นที่ที่ยังมีน้ำค้างอยู่ อย่างที่ จ.นครปฐม ทางองค์กรปกครองท้องถิ่น และกรมชลประทานเริ่มดำเนินการแล้ว หากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จะทำให้น้ำกลับสู่สภาพปกติได้กลางเดือน ม.ค. แต่ถ้าไม่ดำเนินการก็จะยืดเยื้อและจะกระทบต่อเกษตรกรซึ่งในขณะนี้ไม่มีผลผลิตไปจำนำข้าวในเดือน ก.พ. และเชื่อว่ายังมีพื้นที่ลักษณะนี้ในอีกไม่กี่จังหวัด จึงอยู่ในฐานะที่ระดมทรัพยากรจากทุกแห่งมาได้ โดย ศปภ.ต้องเร่งดูในพื้นที่ที่มีปัญหาตกค้าง ซึ่งมีไม่เยอะแล้วจึงต้องทำหน้าที่ประสานและสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร
กำลังโหลดความคิดเห็น