“พร้อมพงศ์-เกียรติอุดม” ผวาติดคุกหลังกล่าวหมิ่นประมาท “วสันต์” ดอดส่ง “จารุพงศ์” เจรจายุติคดี ก่อนศาลตัดสิน 29 ธ.ค.นี้
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอเจรจายุติคดีที่นายวสันต์เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ฐานหมิ่นประมาท กรณีนายพร้อมพงศ์กล่าวหาว่านายวสันต์ได้เชิญนายทศพล เพ็งส้ม หนึ่งในทีมทนายสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้นเข้าพบที่ห้องทำงานระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์
นายจารุพงศ์กล่าวว่า ตนมาเจรจาในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และได้รับมอบจากนายพร้อมพงศ์ และนายเกียรติอุดม ให้เป็นผู้เจรจา เพราะทั้ง 2 คนมีความต้องการที่จะให้มีการยุติคดีก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้วันที่ 29 ธ.ค.นี้ ซึ่งเดิมทั้งนายพร้อมพงศ์และนายเกียรติอุดมจะมีการแถลงบางเรื่องเกี่ยวกับคดีนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่เกิดมีข้อขัดข้องบางประการซึ่งเป็นรายละเอียดในเรื่องเงื่อนไขที่จะให้มีการยุติคดียังไม่สามารถที่จะตกลงกันได้จึงทำให้การแถลงข่าวไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถเปิดเผยในเรื่องรายละเอียดที่ไม่สามารถตกลงกันได้ให้สื่อทราบเพราะอาจจะกระทบต่อรูปคดี
“ผมได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เจรจา เจรจาแล้วผลเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายที่ยอมรับกันได้หรือไม่ ผมไม่สามารถตอบแทนใครได้ ซึ่งพ้นจากวันนี้แล้วหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ก็จะเดินไปสู่วันที่ 29 ธ.ค.ซึ่งศาลจะมีคำตัดสิน แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขผมก็อาจจะมาเจรจาอีก ซึ่งแม้ส่วนตัวจะลำบากใจแต่ก็จะต้องทำหน้าที่เลขาธิการพรรคให้ดีที่สุด”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวสันต์ต้องการให้คดีนี้เป็นตัวอย่างเอาผิดคนที่พูดไม่มีหลักฐาน เหตุใดจึงยอมให้มีการเจรจา หรือเพราะว่านายจารุพงศ์มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายวสันต์ใช่หรือไม่ นายจารุพงศ์กล่าวว่า การเจรจาตนทำในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งคิดว่าที่นายวสันต์ยอมให้มีการเจรจาก็เพราะเป็นผู้ใหญ่ เมื่อมีคนต้องการคุยด้วยท่านก็เมตตายอมให้คุย แต่เมื่อคุยแล้วรับได้หรือไม่ได้ก็เป็นเรื่องของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งตนเคารพในความคิดของทุกฝ่าย
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอเจรจายุติคดีที่นายวสันต์เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ฐานหมิ่นประมาท กรณีนายพร้อมพงศ์กล่าวหาว่านายวสันต์ได้เชิญนายทศพล เพ็งส้ม หนึ่งในทีมทนายสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้นเข้าพบที่ห้องทำงานระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์
นายจารุพงศ์กล่าวว่า ตนมาเจรจาในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และได้รับมอบจากนายพร้อมพงศ์ และนายเกียรติอุดม ให้เป็นผู้เจรจา เพราะทั้ง 2 คนมีความต้องการที่จะให้มีการยุติคดีก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้วันที่ 29 ธ.ค.นี้ ซึ่งเดิมทั้งนายพร้อมพงศ์และนายเกียรติอุดมจะมีการแถลงบางเรื่องเกี่ยวกับคดีนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่เกิดมีข้อขัดข้องบางประการซึ่งเป็นรายละเอียดในเรื่องเงื่อนไขที่จะให้มีการยุติคดียังไม่สามารถที่จะตกลงกันได้จึงทำให้การแถลงข่าวไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถเปิดเผยในเรื่องรายละเอียดที่ไม่สามารถตกลงกันได้ให้สื่อทราบเพราะอาจจะกระทบต่อรูปคดี
“ผมได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เจรจา เจรจาแล้วผลเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายที่ยอมรับกันได้หรือไม่ ผมไม่สามารถตอบแทนใครได้ ซึ่งพ้นจากวันนี้แล้วหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ก็จะเดินไปสู่วันที่ 29 ธ.ค.ซึ่งศาลจะมีคำตัดสิน แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขผมก็อาจจะมาเจรจาอีก ซึ่งแม้ส่วนตัวจะลำบากใจแต่ก็จะต้องทำหน้าที่เลขาธิการพรรคให้ดีที่สุด”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวสันต์ต้องการให้คดีนี้เป็นตัวอย่างเอาผิดคนที่พูดไม่มีหลักฐาน เหตุใดจึงยอมให้มีการเจรจา หรือเพราะว่านายจารุพงศ์มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายวสันต์ใช่หรือไม่ นายจารุพงศ์กล่าวว่า การเจรจาตนทำในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งคิดว่าที่นายวสันต์ยอมให้มีการเจรจาก็เพราะเป็นผู้ใหญ่ เมื่อมีคนต้องการคุยด้วยท่านก็เมตตายอมให้คุย แต่เมื่อคุยแล้วรับได้หรือไม่ได้ก็เป็นเรื่องของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งตนเคารพในความคิดของทุกฝ่าย