เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ถ้ามีการเปรียบเทียบเรื่องแฟชั่น ประเภทเสื้อผ้าหน้าผม มากกว่าเรื่องสติปัญญารับรองว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ ทักษิณ ชินวัตร รับรองว่า ชนะขาดแน่นอน หรือหากรวมเอาเรื่องความ “เต่งตึง” ของเราก็กินขาดว่ามั๊ย เพราะเมื่อมีการถ่ายรูปโชว์ออกมา การโพสต์ท่าก็มีความตั้งใจมากกว่า ตั้งแต่เรื่องการปั้นหน้ายิ้มแย้ม การหันหน้าให้มุมกล้องของเราก็มีความตั้งใจกว่า เอาเป็นว่าถ้าเป็นเรื่อง “ไร้สาระ”ฉาบฉวย ไม่มีปัญหาทิ้งห่างหลายช่วงตัว
00 ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า มองเป็นภัยธรรมชาติ หรือว่าอาถรรพ์ของคนตระกูลนี้ก็สุดจะเหลือเดา เพราะยังไม่ทันไร “สองพี่น้อง” แยกย้ายคล้อยหลังกลับมา ประเภท “ตดไม่ทันหายเหม็น” ก็เกิดแผ่นดินไหวในพม่ารับรู้การสั่นสะเทือนมาถึง อ.แม่สาย เชียงราย พิลึกจริงๆ อ้อ โปรดใช้ดุลพินิจในการรับรู้ด้วยเด้อ !!
00 ในที่สุดก็ต้องจำนนต่อหลักฐาน เมื่อปากแข็งปฏิเสธต่อไปไม่ได้ เพราะมีสื่อต่างประเทศทั้งในพม่าและสื่ออื่นๆรายงานตรงกันว่า ทักษิณ ได้บินไปพม่า เพื่อเจรจากับผู้พม่าเนื้อหาสาระก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “ธุรกิจพลังงาน” ที่ตัวเองจ้องตาเป็นมันมานานแล้ว และเที่ยวนี้ก็น่าจะเข้าไปแบบแพ็กคู่กับ “เชฟรอน” ของสหรัฐฯโดยมีรัฐบาลไทยที่มีน้องสาวเป็น “โคลนนิ่ง” ทำหน้าที่ลงนามเป็นพิธีกรรม อย่างไรก็ดีก่อนที่จะตกลงกันคงต้องเคลียร์กันเรื่องเก่าๆนานหน่อย เพราะก่อนหน้านี้ดันไปจับขั้วผิดทำธุรกิจกับ “ขิ่นยุ้นต์” และยังทำให้ไทยโดยเอ็กซิมแบงก์ต้องเสียเงินกู้ไปถึง 4 พันล้านบาท ไม่รู้ว่าจะได้คืนวันไหน
00 กลายเป็นว่าไม่ว่า “หน้าเหลี่ยม” ก้าวย่างไปทางไหนก็ล้วนแล้วแต่ชวนน่าสงสัย มีแต่เรื่องผลประโยชน์ และคราวนี้ทำท่าจะหนักหนาสาหัสกว่าเดิมเพราะสามารถเคลื่อนไหวแบบใต้ดิน ขณะที่มีรัฐบาลไทย และรัฐมนตรีที่ชี้นิ้วสั่งการให้ทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา เสร็จจากบ่อน้ำมันในพม่าก็ไปเขมร งานนี้ทั้ง “อ้างปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ และ พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงานจัดให้เต็มที่อยู่แล้ว เพราะนี่คือเงื่อนไขก่อนรับตำแหน่งว่าต้องทำงานรับใช้ใคร วันที่ 29-30 ธ.ค.นี้ก็จับคู่บินไปถกกับ ฮุนเซน-ซกอาน เรื่องบ่อน้ำมันในอ่าวไทยตามหลัง ทักษิณ ที่ปูทางเอาไว้แล้วเหมือนกัน เฮ้อ น่าอิจฉาจริงวุ้ย !!
00 ดูตามรูปการแล้วเชื่อว่าในช่วงต้นปีหน้าน่าพรรคเพื่อไทยน่าจะมีการเคลื่อนไหวขอแก้ไข รธน.กันชัดเจนขึ้น หากพิจารณาจากสัญญาณการประชุมพรรคล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็บอกใบ้ไว้แล้วว่า “เอาแน่” เพียงแต่ยังไม่กล้าประกาศให้ชัดว่าเป็นวันไหน สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องการ “รอจังหวะ” เข้าทำ เพราะที่ผ่านมาเริ่มมีแรงต้านมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญเป็นเพราะรัฐบาลน้องสาวตัวเองมัน “ไม่เวิร์ค” ไม่ได้เรื่องได้ราว ทำให้ “แผนกินรวบ” ต้องสะดุดอยู่เรื่อยๆ
00 ถือว่าชัดเจนและได้ใจไม่น้อยสำหรับ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ออกมากร้าวใส่พวก “ล้มเจ้า” ที่ปลุกกระแสแก้ไข ม.112 โดยไล่ให้ไปอยู่ประเทศอื่น หากไม่เอาสถาบันกษัตริย์ ต้องพูดกันอย่างนี้ เพราะเนื้อหาของกม.มาตราดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเสรีภาพแต่อย่างใด เพราะหากคิดจะวิจารณ์รัฐบาล วิจารณ์ใครก็ได้ในประเทศนี้ก็ทำได้เต็มที่ เพียงแต่ว่าให้ระวังถูกฟ้อง “หมิ่นประมาท” เท่านั้น ดังนั้นคนที่ต้องการแก้ไขหรือยกเลิกกม.มาตราดังกล่าวก็ต้องสรุปแบบไม่ต้องลังเลก็คือพวกไม่ต้องการสถาบันฯ อย่างไรก็ดีต้องขอชมเชย เฉลิม อยู่บำรุง เอาไว้หน่อยก็ได้ที่ออกมาคัดค้าน ไม่เอาด้วยกับพวก “ไม่เอาเจ้า” แต่ก็ต้องดูกันไปก่อน เพราะส่วนใหญ่พวกที่เคลื่อนไหวล้วนแล้วแต่คนกันเองใกล้ตัว ขอให้จริงจังเถอะ !!