อดีต ส.ส.ร.แตะเบรก “เพื่อแม้ว” ดึงดันแก้ รธน.50 ดูไม่งามเหตุเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดักคอรัฐตั้ง ส.ส.ร.อาจรับงานมา ติงอย่าทำอะไรขัดกฎหมายสูงสุด-ไม่ควรชี้นำด้วย
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ในฐานะอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยเตรียมผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ว่า ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 244 (3) ระบุอำนาจให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ติดตามประเมินผล และจัดทำข้อเสนอแนะในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้อพิจารณาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในกรณีที่เห็นว่าจำเป็น ดังนั้นประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นตนมองว่ารัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย ควรที่จะมีการสอบถามไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน เพื่อให้เดินตามกลไกที่ถูกออกแบบมาไว้ในรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ในฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
“ผมมองว่ารัฐบาลทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยงามนัก เพราะพรรคเพื่อไทย รวมถึงรัฐบาลเองล้วนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสาระที่นำเสนอแก้ไขจึงออกมาจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย” นายสุรชัยกล่าว
ส่วนในประเด็นที่รัฐบาลจะเสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้ตั้ง ส.ส.ร.3 นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ในทางปฏิบัติผู้ที่มีอำนาจจะเป็นผู้เลือก ส.ส.ร.เข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยผ่าน ส.ส.ร.ต้องเป็นไปตามการชี้นำและโจทย์ที่พรรคเพื่อไทยได้ตั้งไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้ปฏิบัติตามกลไกของรัฐธรรมนูญที่วางไว้ เช่น มาตรา 244 จะถือว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า การนำเสนอประเด็นใดๆ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากฝั่งรัฐบาล ถือว่าเป็นสิทธิ์ทำได้ แต่ไม่ใช่เป็นการชี้นำที่ออกมาจากรัฐบาลเอง ขณะเดียวกัน ทุกคนรวมถึงรัฐบาลอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ 2550 จึงจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามกรอบ
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ในฐานะอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยเตรียมผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ว่า ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 244 (3) ระบุอำนาจให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ติดตามประเมินผล และจัดทำข้อเสนอแนะในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้อพิจารณาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในกรณีที่เห็นว่าจำเป็น ดังนั้นประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นตนมองว่ารัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย ควรที่จะมีการสอบถามไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน เพื่อให้เดินตามกลไกที่ถูกออกแบบมาไว้ในรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ในฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
“ผมมองว่ารัฐบาลทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยงามนัก เพราะพรรคเพื่อไทย รวมถึงรัฐบาลเองล้วนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสาระที่นำเสนอแก้ไขจึงออกมาจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย” นายสุรชัยกล่าว
ส่วนในประเด็นที่รัฐบาลจะเสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้ตั้ง ส.ส.ร.3 นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ในทางปฏิบัติผู้ที่มีอำนาจจะเป็นผู้เลือก ส.ส.ร.เข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยผ่าน ส.ส.ร.ต้องเป็นไปตามการชี้นำและโจทย์ที่พรรคเพื่อไทยได้ตั้งไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้ปฏิบัติตามกลไกของรัฐธรรมนูญที่วางไว้ เช่น มาตรา 244 จะถือว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า การนำเสนอประเด็นใดๆ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากฝั่งรัฐบาล ถือว่าเป็นสิทธิ์ทำได้ แต่ไม่ใช่เป็นการชี้นำที่ออกมาจากรัฐบาลเอง ขณะเดียวกัน ทุกคนรวมถึงรัฐบาลอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ 2550 จึงจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามกรอบ
