สะเก็ดไฟ
ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้ วาระประชุมครม.คงมีอะไรน่าติดตามหลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นก็คือวาระจรที่กระทรวงมหาดไทยจะชงเข้าไปให้ครม.เห็นชอบกับการแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 ของมหาดไทยล็อตสุดท้ายที่จะเป็นการตั้งเพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง เนื่องจากการเกษียณอายุราชการของบิ๊กมหาดไทยเมื่อกันยายนที่ผ่านมา
จึงเป็นการตั้งระดับ 9 ขึ้นระดับ 10 พวกผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่ตอนนี้หลายจังหวัดยังว่างอยู่ อาทิ เชียงราย สุรินทร์ ยะลา สตูล นราธิวาส ลำปาง แพร่ กาญจนบุรี นครปฐม ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม อำนาจเจริญ นครพนม เป็นต้น
เหตุที่เพิ่งจะนำเรื่องเข้าครม.ก็เพราะการพิจารณาปีนี้ล่าช้ามาก เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้โผมหาดไทยเลื่อนการพิจารณามาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคมที่มีการเห็นชอบบัญชีโยกย้ายมหาดไทยไปรอบหนึ่ง ก็เป็นแค่การพิจารณาปรับเปลี่ยนในระดับ 10 ด้วยกันเท่านั้น ส่วนการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งต้องรอผลการสอบคัดสรรผู้มีคุณสมบัติจากระดับ 9 เลื่อนเป็นระดับ 10 ของกระทรวงมหาดไทยที่เพิ่งเสร็จไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
รอบนี้มีระดับ 9 พวกรองผู้ว่าราชการจังหวัดมีคุณสมบัติสอบทั้งสิ้น 73 คนแต่เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่กำหนดให้พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสม 3 คนต่อ 1 ตำแหน่ง จึงมีการตัดให้เหลือเท่ากับจำนวนตำแหน่งที่ว่างอยู่คือ16 ตำแหน่งทำให้ มีการประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติสอบ 48 คน
อย่างไรก็ตาม เรื่องการพิจารณาโผมหาดไทย คนคลองหลอดก็รู้กันดีว่า การสอบคัดเลือกนั้น ก็ทำกันมาแบบนี้ทุกปี ตามระเบียบปฏิบัติเพื่อทำให้ดูดี ว่ามีหลักเกณฑ์การพิจารณาตามความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ผลงาน ความอาวุโส ไม่ได้มีการเล่นเส้นเล่นสาย มีกรรมการพิจารณากลั่นกรอง
แต่ถึงเวลาจริงๆ ก็รู้ๆ กันอยู่ ทุกรายชื่อหลายตำแหน่งล้วนมีการเมืองเกี่ยวข้องทั้งสิ้น พวกระดับ 9 หลายคนเข้าสอบมาหลายปีแล้ว ก็ยังไม่เคยได้เลื่อนเป็นระดับ 10 เพราะไม่มีตั๋ววีไอพีหนุนนำ เลยได้แต่นั่งแช่เก้าอี้เดิม
ที่มาสอบคัดสรรปีนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องมาเป็นธรรมเนียม แต่ลึกๆ ในใจหลายคนก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว ยิ่งหากคนไหนไม่ใช่สาย “เพื่อไทย -เสื้อแดง” ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลและคนในพรรคเพื่อไทย ก็ยากจะได้ดี แถมหากมีข้อมูลส่งไปให้ฝ่ายการเมืองรับรู้ว่าเคยทำงานใกล้ชิดหรือเคยได้ดิบได้ดีในยุคภูมิใจไทยคุมมหาดไทย ก็อย่าหวังได้ผุดได้เกิดเลย
จึงต้องรอดูว่าบัญชีที่ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์จะเสนอเข้าครม.จะขี้เหร่หรือไม่ และรอบนี้ มท.1 คงต้องสนองตอบฝ่ายการเมืองในพรรคเพื่อไทยมากหน่อย หลังเคยถูกส.ส.หลายคน รุมสับกลางที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยมาแล้วเมื่อเร็วๆนี้ ชนิดไม่สนใจว่ายงยุทธเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
โดยมีข่าวว่า พวกส.ส.พากันรุมตำหนิมท.1 ว่า มหาดไทยไม่สนองตอบฝ่ายการเมืองในพรรค ส.ส.ขออะไรไปไม่เคยได้ แต่งตั้งโยกย้ายก็ไม่ยอมเช็คบิลฝ่ายตรงข้าม
จนยงยุทธต้องอ้างเอาตัวรอดกลางที่ประชุมว่า ทั้งหมดมีการเคาะมาจากแดนไกลอีกทีหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่าเป็นใคร
มีข่าวว่าส.ส.อีสานบางคนได้ถ่ายคลิปส.ส.รุมมยำยงยุทธในห้องประชุมดังกล่าว ซึ่งมท.1 โบ้ยว่าทั้งหมดเป็นโผแดนไกลไปให้ทักษิณ ชินวัตรดูคลิปนี้ตอนที่บินไปหาทักษิณที่ต่างประเทศด้วย
ยิ่งอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้ามีแนวโน้มจะมีการปรับครม.โดยอาจมีการเปลี่ยนตัว มท.1 เหลือแค่ให้ยงยุทธเป็นรองนายกรัฐมนตรีตำแหน่งเดียว ข่าวนี้คงทำให้ยงยุทธต้องตอบสนองฝ่ายการเมืองเต็มที่ เพื่อรักษาตำแหน่งมท.1 เอาไว้ ไม่งั้นเก้าอี้กระเด็นสูง
หนึ่งในคนที่มีข่าวว่ารอบนี้อาจได้ดี ก็คือ ฉัตรป้อง ฉัตรภูมิ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ที่เป็นคนดำเนินการเรื่องการจัดซื้อสิ่งของช่วยเหลือน้ำท่วมทั้งถุงยังชีพ เรือ ของศปภ.และปภ. คือออกหน้าแทนนายวิบูลย์ สงวนพงษ์ อธิบดีปภ.มาตลอด ก็มีชื่อจะได้ดิบได้ดีในเก้าอี้ระดับ 10 ด้วยรอบนี้ แต่จะเป็นจังหวัดไหน เห็นข่าวว่าเพิ่งเคาะกันเสร็จเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
โผทั้งหมดมีการส่งให้ทักษิณเห็นชอบก่อนจะนำรายชื่อเข้าครม. แล้ว