ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ยันทัพเรือทำหนังสือประท้วงเขมรแล้ว หลังเจอปืนกลไล่ยิง ฮ.ขณะส่งเสบียงทหารทั้ง 2 ชาติ ยันไม่รุกล้ำอาณาเขตเพื่อนบ้าน 100% สุดงง เกิดเหตุได้ไง เผย ผบ.เพื่อนบ้านนัดเคลียร์ใจพรุ่งนี้ เชื่อเข้าใจผิด ย้ำถูกยิงฝ่ายเดียวทำใบพัดเสียหาย
วันนี้ (16 ธ.ค.) พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด เปิดเผยว่า ทางกองทัพเรือได้ทำหนังสือประท้วงไปยังผู้บัญชาการหน่วยภูมิภาคที่ 3 ของกัมพูชาแล้ว หลังจากที่กำลังทหารกัมพูชาได้ใช้ปืนกลขนาดเล็กยิงใส่เฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 ในระหว่างที่กำลังขึ้นบินสำรวจในพื้นที่ และ ส่งเสบียงอาหารให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี ขณะเดียวกัน กองทัพเรือ ยังได้ทำหนังสือประท้วงผ่านไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือไม่ได้มีการบินรุกล้ำเข้าไปในอธิปไตยของกัมพูชา 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม เรากำลังจะบินเพื่อนำเสบียงอาหารไปส่งให้ทหารทหารของไทย และ กัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตรเท่านั้น
“ปกติทหารในพื้นที่ก็มีการส่งเสบียงอาหารให้กันอยู่แล้ว รวมถึงการส่ง เสบียงให้กับทางทหารกัมพูชาด้วย เนื่องจากความสัมพันธ์ทางด้านการทหารของไทย และกัมพูชา อยู่ในขั้นดีมาก มีการทานอาหารร่วมกันตลอดทุกวัน ก็ยังแปลกใจว่า ทำไมถึงได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นมา และในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) ผู้บัญชาการหน่วยของกัมพูชา จะเข้ามาเจรจาต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บัญชาการหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่ และวางมาตรการไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดกัน และไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง อีกทั้งจะมีการเจรจาพูดคุยกันระดับผู้ใหญ่ของทั้งสองกองทัพในเร็วๆ นี้” พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ระบุ
พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ย้ำด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราถูกยิงจากฝ่ายทหารกัมพูชาอย่างเดียว ทหารเราไม่ได้มีการยิงตอบโต้เลย เพราะเป็นเพียงการปฏิบัติภารกิจในการส่งเสบียงเท่านั้น อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 ก็ไม่ได้มีการติดอาวุธปืนแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมื่อนักบินพบว่ามีสิ่งผิดปกติที่เฮลิคอปเตอร์หลังจากได้ยินเสียงปืนจึงได้นำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่บริเวณเขาล้าน อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบสภาพเครื่องพบว่าเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ถูกกระสุนปืนยิงที่บริเวณใบพัดหลัง (เมนโรเตอร์) ซึ่งถือว่าเสี่ยงมากหากนำเครื่องบินต่อไป เกรงว่า จะได้รับอันตราย จึงได้นำเครื่องลงจอด และขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวยังจอดไว้ที่เดิม และจัดเจ้าหน้าที่ไปสำรวจความเสียหาย และซ่อมในเบื้องต้นเพื่อนำกลับมายังหน่วย
วันนี้ (16 ธ.ค.) พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด เปิดเผยว่า ทางกองทัพเรือได้ทำหนังสือประท้วงไปยังผู้บัญชาการหน่วยภูมิภาคที่ 3 ของกัมพูชาแล้ว หลังจากที่กำลังทหารกัมพูชาได้ใช้ปืนกลขนาดเล็กยิงใส่เฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 ในระหว่างที่กำลังขึ้นบินสำรวจในพื้นที่ และ ส่งเสบียงอาหารให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี ขณะเดียวกัน กองทัพเรือ ยังได้ทำหนังสือประท้วงผ่านไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือไม่ได้มีการบินรุกล้ำเข้าไปในอธิปไตยของกัมพูชา 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม เรากำลังจะบินเพื่อนำเสบียงอาหารไปส่งให้ทหารทหารของไทย และ กัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตรเท่านั้น
“ปกติทหารในพื้นที่ก็มีการส่งเสบียงอาหารให้กันอยู่แล้ว รวมถึงการส่ง เสบียงให้กับทางทหารกัมพูชาด้วย เนื่องจากความสัมพันธ์ทางด้านการทหารของไทย และกัมพูชา อยู่ในขั้นดีมาก มีการทานอาหารร่วมกันตลอดทุกวัน ก็ยังแปลกใจว่า ทำไมถึงได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นมา และในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) ผู้บัญชาการหน่วยของกัมพูชา จะเข้ามาเจรจาต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บัญชาการหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่ และวางมาตรการไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดกัน และไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง อีกทั้งจะมีการเจรจาพูดคุยกันระดับผู้ใหญ่ของทั้งสองกองทัพในเร็วๆ นี้” พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ระบุ
พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ย้ำด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราถูกยิงจากฝ่ายทหารกัมพูชาอย่างเดียว ทหารเราไม่ได้มีการยิงตอบโต้เลย เพราะเป็นเพียงการปฏิบัติภารกิจในการส่งเสบียงเท่านั้น อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 ก็ไม่ได้มีการติดอาวุธปืนแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมื่อนักบินพบว่ามีสิ่งผิดปกติที่เฮลิคอปเตอร์หลังจากได้ยินเสียงปืนจึงได้นำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่บริเวณเขาล้าน อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบสภาพเครื่องพบว่าเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ถูกกระสุนปืนยิงที่บริเวณใบพัดหลัง (เมนโรเตอร์) ซึ่งถือว่าเสี่ยงมากหากนำเครื่องบินต่อไป เกรงว่า จะได้รับอันตราย จึงได้นำเครื่องลงจอด และขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวยังจอดไว้ที่เดิม และจัดเจ้าหน้าที่ไปสำรวจความเสียหาย และซ่อมในเบื้องต้นเพื่อนำกลับมายังหน่วย