xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.เชื่อโกงถุงยังชีพ แต่สอบสวนเหลว “ปภ.-เอกชน” แถลูกเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สอบซื้อถุงยังชีพดุเดือด อธิบดี ปภ.ส่งลูกน้อง เล่นบทอ้างเหตุผลทางธุรกิจ บอกสถานที่ซื้อไม่ได้ ด้านเอกชนแก้ตัวเป็นตุเป็นตะ ไม่เคยใต้โต๊ะ ไม่รู้จักใครใน ปภ.เป็นการส่วนตัว ขณะที่ กมธ.ชี้ พบพิรุธอื้อ เชื่อ ปภ.-ผู้ส่งสินค้า สมรู้ร่วมคิดทุจริตแน่นอน เล็งประชุมอีก 2 นัดทำเรื่องส่ง ป.ป.ช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ธ.ค.) ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธาน กมธ.เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งได้มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการจัดซื้อสิ่งของอุปโภค บริโภค และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทุกภัย ประจำปี 2554 โดยเชิญบริษัทเอกชนที่เป็นผู้จัดหาถุงยังชีพ เรือ และสุขา ให้กับผู้ประสบภัยให้ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด พูนเจริญพาณิชย์ ร้านเอื้อธนพัฒน์ บริษัท เติมคอร์ปอเรชั่น (2008) จำกัด และบริษัท พีเออร์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด รวมไปถึง นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แต่ นายวิบูลย์ ไม่ได้เดินทางมา ส่งตัวแทน คือ นายปิยะ วงศ์ลือชา ผู้อำนวยการกองคลัง ปภ.และ นายคูณ ควรกระโทก หัวหน้างานฝ่ายพัสดุ ปภ.มาเป็นตัวแทน

จากนั้น กมธ.ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กรงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.พยายามสอบถามถึงรายละเอียดในการจัดซื้อสินค้า และความสัมพันธ์ระหว่าง นายบุญเติม กับเจ้าหน้าที่ ปภ.เนื่องจากเห็นว่าการจัดซื้อวิธีพิเศษไม่ใช่การประมูล แต่เป็นการสอบราคา บริษัทที่มีโอกาสเข้ามาให้บริการจะต้องทราบข้อมูลภายใน และต้องมีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่จึงได้รับเลือกให้มาเป็นผู้ให้บริการ รวมทั้งขั้นตอนการอนุมัติออกใบสั่งซื้อภายใน 19 ต.ค.54 เพราะพบว่าบริษัทเอกชนได้ยื่นเสนอราคาในวันนั้น แต่กลับมีการทำใบสั่งซื้อและอนุมัติสั่งซื้อภายในวันเดียวกันซึ่งถือว่ารวดเร็วผิดปกติ

“มีการยื่นใบเสนอราคาวันที่ 19 ต.ค.แต่มีการอนุมัติและออกใบสั่งซื้อวันที่ 19 ต.ค.เหมือนกัน โดยมีการส่งของวันที่ 25 ต.ค.จึงอยากรู้ว่า ไปสั่งของตั้งแต่เมื่อใด เฉพาะปลากระป๋อง 240,000 กระป๋อง นายบุญเติม ไปเอาของจากที่ไหน สั่งซื้อจากโรงงานโดยตรงหรือไม่ อย่างไร เช่นเดียวกับการสั่งซื้อสุขากระดาษ พบว่า ปภ.มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมของวันที่ 25 ก.ย.ที่ให้ซื้อจากเอสซีจีด้วยต้นทุน 111 บาทต่อชิ้น แต่กลับเปลี่ยนเป็นมาซื้อกับบริษัทนี้ด้วยต้นทุนต่อชิ้น 245 บาท” นายวิลาศ ระบุ

นายปิยะ ชี้แจงว่า การจัดซื้อได้ประสานงานไปยังฝ่ายพัสดุของกรม และพบว่า บริษัทดังกล่าวมีขีดความสามารถในการจัดหาถุงยังชีพให้กับทางราชการได้ตามที่ต้องการภายใต้งบประมาณ 800 บาทต่อถุง นอกจากนี้ ในการตรวจสอบมีคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษจากสำนักช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำหรับการทำใบสั่งซื้อในวันที่ 19 ต.ค.เริ่มจากการเสนอราคาได้พิจารณาต่อจากกองพัสดุได้ตรวจสอบใบเสนอราคาและความเหมาะสมภายในช่วงเที่ยงวันของวันที่ 19 ต.ค.จากนั้นได้เรียนอธิบดี ปภ.ให้เพื่อพิจารณาสั่งซื้อและลงนามในใบสั่งซื้อไปในคราวเดียวกัน

ด้าน นายคูณ กล่าวเสริมว่า บริษัทของนายบุญเติม เคยเสนองานให้กับ ปภ.มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่การขายถุงยังชีพของบริษัทนี้ ถือว่า ปี 2554 เป็นครั้งแรกที่ขายให้กับ ปภ.ดังนั้น เมื่อพบว่าบริษัทนี้เคยเสนองานกับ ปภ.มาก่อนแล้ว ทำให้มั่นใจว่าบริษัทนี้จะสามารถจัดหาถุงยังชีพได้ตามที่ ปภ.ต้องการได้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักนายบุญเติมเป็นการส่วนตัว

ขณะที่ นายบุญเติม โนนจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เติมคอร์ปอเรชั่น (2008) จำกัด และผู้จัดการบริษัท พูนเจริญพาณิชย์ ชี้แจงว่า การเข้ามารับงานจัดซื้อสินค้าให้หน่วยราชการเป็นเพราะได้ติดตามความเคลื่อนไหวความต้องการจัดซื้อของหน่วยราชการมาโดยตลอด โดยหากเห็นว่า งานใดที่ตนมีความสามารถตรงกับความต้องการก็จะเสนอตัว ทั้งนี้ เคยเป็นผู้จัดซื้อสินค้าให้ ปภ.มาเป็นเวลา 4-5 ปี แต่สำหรับการจัดหาถุงยังชีพให้กับ ปภ.ถือเป็นครั้งแรก โดยกระบวนการสั่งซื้อเป็นการสั่งของโดยตรงจากโรงงานทุกรายการ เนื่องจากซัปพลายเออร์ทุกเจ้าไม่มีของ ส่วนโรงงานมาส่งของให้ในวันที่ 19 ต.ค.ทันทีได้อย่างไรไม่ทราบ และเมื่อบริษัททำงานให้ครบแล้วถึงเอาใบส่งของไปทำเรื่องขอเบิกเงินที่ ปภ.รับเงินเป็นเช็คหลังจากนั้น 7 วัน

“การซื้อของนั้นซื้อจาก 2-3 แหล่งเมื่อซื้อมาได้บรรจุที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม แล้วส่งไปที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ดอนเมืองเลย โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจในการอำนวยความสะดวกในการส่งของช่วงน้ำท่วม ส่วนใครจะผู้ลงนามรับของไม่ทราบ สำหรับการจัดซื้อสุขามือถือได้ดำเนินการซื้อจากบริษัทผลิตกระดาษที่ อ.พนัสนิคม ชลบุรี และสามารถผลิตกระดาษทำสุขาได้แข็งแรงจึงไม่ติดใจต้นทุนสูงกว่าบริษัทเอสซีจี ในที่นี้ยืนยันผมไม่เคยจ่ายใต้โต๊ะใคร ไม่เคยรู้จักนายฉัตรป้อง (นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองอธิบดี ปภ.) รู้จักเพียงฝ่ายพัสดุ ชื่อคูณ และหนุ่ม นายสรพงศ์ และ ผอ.สำนักช่วยเหลือฯ นายพิพัฒน์ ทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันและไมได้เป็นญาติ” นายบุญเติม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างดุเดือด เนื่องจาก กมธ.พยายามสอบถามนายบุญเติมถึงเจ้าหน้าที่ ปภ.ที่ติดต่อให้มาเสนอราคา แต่นายบุญเติมไม่ยอมระบุชื่อ และพยายามบ่ายเยี่ยงโดยตลอด โดยอ้างว่า ไม่อยากพาดพิงบุคคลภายนอก จนทำให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ ต้องถามย้ำ พร้อมระบุหากตอบไม่ตรงคำถามไม่ตรงและพยายามบ่ายเบี่ยงจะมีความผิดได้ แต่นายบุญเติมยังยืนกรานที่จะไม่ระบุชื่อ เช่นเดียวกับประเด็นการจัดหาข้าวสารและสุขาที่ กมธ.สอบถามถึงแหล่งที่มา เพราะเห็นว่าสามารถจัดหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว นายบุญเติมก็ไม่ยอมระบุสถานที่จัดซื้อ ตอบเพียงว่า ซื้อจาก 2-3 แหล่ง โดยขอไม่บอกชื่อ เนื่องจากเป็นเหตุผลทางธุรกิจ

จากนั้นได้มี กมธ.ถามจี้ถึงต้นทุนของสุขาที่สูงกว่าราคาที่บริษัทเอสซีจีจำหน่าย นายบุญเติม กลับตอบว่า “ขออภัยท่านประธานผมไม่เคยจ่ายใต้โต๊ะใคร เงินยังอยู่ครบ” เมื่อถึงตรงนี้ นายวิลาศกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “เรื่องแบบนนี้ไม่มีใครบอกหรอก คนที่ไปยิงหัวคน ก็ยังไม่เคยบอกว่ายิง”

เมื่อบรรยากาศในห้องประชุมยังคงดุเดือด และนายบุญเติม มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ กมธ.หลายคนพยายามโน้มน้าวให้นายบุญเติม ตอบคำถามของ กมธ.เพื่อลดความเครียด แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ และปฏิเสธความสัมพันธ์ส่วนตัวกับข้าราชใน ปภ.จนในที่สุด นายวิลาศ จึงกล่าวว่า ต้องขอบคุณ นายบุญเติม แม้ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย ตนก็มั่นใจการซื้อครั้งนี้ไม่ใช่วิธีพิเศษ แต่เป็นวิธีพิสดาร

ทั้งนี้ สรุปผลการประชุม นายวิลาศ กล่าวว่า การประชุม กมธ.ในครั้งหน้ามีความจำเป็นต้องเชิญ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดี ปภ.มาชี้แจงต่อไป และขอความร่วมมือให้มาชี้แจงด้วยเพราะการเชิญบุคคลมาชี้แจงต่อ กมธ.เป็นไปตามอำนาจของ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 พร้อมเปิดเผยว่า การสอบถามนายบุญเติม ถือว่าได้รับความจริงน้อยมาก และพบพิรุธมากเช่นกัน ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ กมธ.มีอยู่ ยืนยันว่า การจัดซื้อถุงยังชีพดังกล่าวเป็นการสมรู้ร่วมคิดทุจริต ระหว่างผู้ส่งสินค้า และเจ้าหน้าที่ ปภ.แน่นอน

“ต่อไปจะเชิญอธิบดี ปภ.มาชี้แจงอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ส่งตัวแทนมาชี้แจงโดยตลอด และคาดว่าจะมีการประชุมอีก 2 ครั้ง จึงจะสรุปผลและส่งรายงานให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้” นายวิลาศ ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น