อดีตรองนายกฯ ด้านความมั่นคง ปชป.จับตาคดีสังหารหัวคะแนน “แทนคุณ” เตือนตร.ให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่ารับใช้นักการเมือง ชี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ เบรก “เป็ดเหลิม” อย่าดีแต่พล่ามจนคนเบื่อทั้งบ้านทั้งเมือง แนะต้องจับตัวให้ได้เพราะพูดมาตลอดว่ารู้ไปหมด
วันนี้ (13 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าที่ปัญหาส่วนตัวในคดีการเสียชีวิตของคนสนิทของนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ว่าตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ตำรวจต้องทำงานอย่างจริงจัง รวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะคดีนี้เกิดใน กทม. เป็นคดีที่ประชาชนรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง ดังนั้นจะไปบิดเบือนข้อเท็จจริง ละเลยไม่ดำเนินการคงไม่ได้ เพราะผู้ร้ายกระทำการอย่างอุกอาจ ในเวลาที่ยังไม่มืด อยู่ในตลาด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตำรวจต้องดำเนินคดีอย่างเข้มแข็ง ซึ่งพวกตนจะติดตามอย่างใกล้ชิด โดยจะคอยสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าดำเนินคดีไปถึงไหนอย่างไร จะปล่อยให้เป็นคดีอิทธิพลสะเทือนขวัญประชาชนต่อไปไม่ได้ ส่วนที่นายแทนคุณเองก็ออกมาบอกว่าเกรงว่าจะมีการจับแพะ นายสุเทพกล่าวว่า ก็ต้องติดตาม ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ บทบาทของตัว ผบ.ตร.และ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ออกมาประสานเสียงเหมือนกัน ดูเหมือนจะเป็นการชี้นำการทำงานของพนักงานสอบสวน นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่วิจารณ์ ผบ.ตร. แต่กรณีของ ร.ต.อ.เฉลิมที่ออกมาพูดทุกวัน คนก็รำคาญทุกวัน แสดงว่ารู้ไปหมด อย่างนั้นอย่างนี้ ใครทำผิดที่ไหนอย่างไร ผิดก็จับโม้ทำไม ไปดำเนินการจับกุมให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ พูดอยู่นั่น พ่นอยู่ทุกวัน คนก็รำคาญทั้งบ้านทั้งเมือง
เมื่อถามว่าหากมีคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องและอาจจะมีคนของรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องจะทำให้ คดีนี้จะถูกบิดเบือนหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่งทื่พยายามต่อสู้ เรื่องนี้ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่พวกตนจะพยายามให้กฎหมายเป็นหลักของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นคนของรัฐบาลหรือไม่ ถ้าทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งต่างจากแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะตนรู้ดีว่าพื้นที่ดอนเมืองคือพื้นที่อิทธิพล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการ ถ้าไม่ดำเนินการ เราก็จะดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ และถ้ารัฐบาลสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ละเลยเราก็จะต้องดำเนินการต่อรัฐบาลด้วย
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้คอยระมัดระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องกับพรรคในพื้นที่ต่างๆ อยู่แล้ว เพราะเราไม่ไว้ใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเราต้องระมัดระวังตัวเองด้วย ส่วนความปลอดภัยของนายแทนคุณนั้น ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้มีการข่มขู่นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ต้องดูแลทุกฝ่าย ไม่ใช่ดูแลแต่กับพวกของตัวเอง
