อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง ปชป. เชื่อปมการเมืองเหตุคนสนิทถูกสังหาร เผยตัวเองและทีมงานอีก 4 คน ตกเป็นเป้า วอนเจ้าหน้าที่คุ้มครอง แฉมือชกปากหนีหัวซุนไปกบดานหนองคาย เจอมัดมือไพล่หลังตีด้วยไม้พาย ด้าน “โฆษก ปชป.” จี้ “เพรียวพันธ์” ลากคอมือยิงมาลงโทษด่วน
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตของนายชุติเดช สุวรรณเกิด คนสนิท โดยเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากปมที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งนายชุติเดชเคยทำงานกับนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย มาก่อนแต่ถูกให้ทำในสิ่งที่ไม่สบายใจจึงมาทำงานกับตน ประกอบกับนายชุติเดชเคยกุมความลับของนายการุณไว้ด้วยส่วนหนึ่งแต่ไม่เคยพูดถึงนายการุณในทางที่ไม่ดี จึงทำให้เชื่อว่าประเด็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองคงไม่มี ทั้งนี้ เหตุที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองเพราะช่วงน้ำท่วมพรรคได้ลงพื้นที่อย่างหนัก ทำให้ประชาชนบางส่วนเริ่มเข้าใจและหันมาเห็นใจมากขึ้น
“ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง คุณชุติเดช เคยเตือนผมตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง สอนแม้แต่การดูมือปืนดูยังไง บอกอีกว่ามีการเคลื่อนไหวของซุ้มมือปืนเพชรบุรี วันเกิดเหตุก็ยังเจอกันและยังช่วยกันเก็บขยะให้ชาวบ้าน ประเด็นนี้ผมไม่อยากให้มองไปที่คุณการุณ ข้อมูลที่ได้มาน่าจะเป็นคนใกล้ชิดที่เคยขัดแย้งกับคุณชุติเดช และเคยบอกว่าสิ่งผิดปกติที่เขตดอนเมืองสามารถมีคนมาเคลียร์คดีให้หายไปได้ ส่วนอีก 4 คนที่อยู่ในอันตรายคือ ผม, ส.ก., ส.ข. และเพื่อนสนิทคุณชุติเดช ซึ่งผมไม่เคยเชื่อว่าจริง แต่ตอนนี้จะเชื่อว่าจริง ผมจะยืนหยัดสู้ต่อไปด้วยสุจริตวิธี เพื่อไม่ให้คนที่ดีคนหนึ่งต้องตายฟรี สำหรับผม คุณชุติเดชเป็นวีรบุรุษคนหนึ่งของเขตดอนเมือง เรื่องนี้จะเกี่ยวกับใครอย่างไรยังไม่ทราบ แต่การที่คุณการุณออกมาปฏิเสธแบบนี้ดูจะไม่ยุติธรรม ผมอยากให้คุณการุณช่วยออกมาพิสูจน์มากกว่า และอยากให้คุณการุณไปขอขมาศพด้วย” นายแทนคุณกล่าว
นายแทนคุณยังเรียกร้องให้นายการุณไปกราบขอขมาศพนายชุติเดชที่กล่าวหาว่าส่งนายชุติเดชมาเป็นสายลับสืบข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถือเป็นการเหยียบย่ำน้ำใจนายชุติเดชอย่างมาก และการสอบปากคำยังมีข้อสังเกตหลายอย่าง เช่น มีการเรียกภรรยาผู้เสียชีวิตไปที่สถานีตำรวจอย่างเร่งด่วน และขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะมีการฆ่าปิดปากพยานเพราะมีคนเห็นรูปพรรรณสัญฐานของคนร้าย ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดในบริเวณที่เกิดขึ้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แต่ไม่มีการดำเนินการอะไรเลย
เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบต่อแนวร่วมของนายแทนคุณหรือไม่ นายแทนคุณกล่าวว่า มีการคุยกันเบื้องต้นกับทีมงานโดยหลายคนมีความไม่สบายใจขอหยุดพัก หรือเลิกทำงานไปเลย สำหรับตนก็มีคนมาเตือนให้ถอยออกมาได้แล้ว การถอยไม่ได้หนี แต่เป็นการฉลาดสู้ เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัด สำหรับตนไม่เคยมีอะไรที่ผิด ไม่จำเป็นต้องมีไส้ศึก การกล่าวหาเท่ากับเป็นการกินปูนร้อนท้อง สิ่งที่ตนห่วงที่สุดตอนนี้คือ ครอบครัวของนายชุติเดชเพราะอยู่เพียงลำพังและเห็นคนร้าย เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจควรเข้ามาดูแล ซึ่งตนจะเข้ามาหารือกับผู้ใหญ่ภายในพรรคถึงเรื่องดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าพูดออกมาให้ชัดเจนเลยได้หรือไม่ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนายการุณโดยตรง เพราะอาจจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่ถูกกล่าวหา นายแทนคุณกล่าวว่า เป็นเรื่องของการเมือง แต่จะเกี่ยวข้องกับนายการุณแค่ไหนต้องดูท่าทีต่อไป แต่จากท่าทีที่ออกมาตนคิดว่าเหมือนกับไม่พอใจมากนัก และออกมากล่าวร้ายต่อนายชุติเดช ตนขอเรียกร้องให้นายการุณออกมาเป็นส่วนหนึ่งในการพิสูจน์ความจริง และไม่ได้กล่าวร้ายนายการุณ แต่ต้องการให้สติเพราะดูจากสิ่งที่นายการุณทำอาจจะขาดสติหรือเสียสติที่ออกมาพูดว่านายชุติเดช และตนไม่เคยมองนายการุณเป็นศัตรูอยู่แล้ว
“จากการสันนิษฐาน และพยายามแวดล้อม เชื่อว่ามือปืนเป็นคนนอกพื้นที่ที่ว่าจ้างมา เพราะจากพฤติกรรมการยิง แม้แต่คดีก่อนหน้านี้ที่มีการทำร้ายร่างกายตอนที่นายการุณขับเจ็ตสกีแล้วทำให้เรือคว่ำ เคยมีการติดตามหรือไม่ว่าหลังจากนั้นคนที่ต่อยนายการุณเป็นอย่างไรบ้าง ผมได้ติดตามพบว่าเขาย้ายไปอยู่หนองคาย แล้วถูกจับมัดมือไพล่หลังแล้วเอาไม้พายตี แต่ก็ต้องพยายามให้ความเป็นธรรมอาจจะมีเรื่องอื่นหรือเรื่องส่วนตัว แต่การยิงเมื่อวานเหมือนตั้งใจให้เกิดภาพข่มขู่คุกคาม ทำให้ทีมงานของผมบางส่วนต้องถอนตัวออกไป แต่ผมจะไปหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคว่าจะมีการปรับกระบวนการทำงานในพื้นที่สุ่มเสี่ยงและวิกฤตบ้านเมืองที่กฎหมู่อยู่เหนือกกหมายอย่างไร”
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคและสมาชิกพรรคขอแสดงความเสียใจต่อคุณชุติเดชและครอบครัว พรรคจะพยายามติดตามเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นถึงความอุกอาจที่คนร้ายใช้อาวุธยิงกลางตลาดโกสุม โดยเป็นการลงมือต่อหน้าครอบครัวของนายชุติเดช ซึ่งนายกรัฐมนตรีเคยพูดหลายครั้งว่าต้องการให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ความสมานฉันท์ จึงเป็นความรับผิดชอบ โดยนายกรัฐมนตรีควรไปที่เกิดเหตุและสั่งการให้ดำเนินการเอาผิดมาลงโทษให้ได้ นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ สน.ดอนเมือง ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ โดยอย่าเกรงกลัวอธิพลใดๆ หากเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจกับการทำความผิดวันหนึ่งในอนาคตท่านก็จะเป็นคนผิดด้วย