ผบก.น.2 เร่งถกล่ามือยิงหัวคะแนน “อี้ แทนคุณ” มุ่งประเด็นขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ไม่ทิ้งปมการเมือง พบผู้ตายเป็นคนกว้างขวางในดอนเมือง มีธุรกิจหลายอย่าง เบื้องต้นรู้เส้นทางหนีคนร้ายแล้วแต่ไม่เปิดเผย แถมมีพยานเห็นตำหนิรูปพรรณสัณฐาน รวมถึงอาวุธปืนที่ใช้ คาดคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน มีความชำนาญและเตรียมการมาอย่างดี
วันนี้ (11 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม บก.น.2 พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.ดอนเมือง ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ประชุมเร่งรัดคดีคนร้ายบุกยิงนายชุติเดช สุวรรณเกิด อายุ 38 ปี หัวคะแนนนายแทนคุณ จิตต์อิสระ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตดอนเมือง เสียชีวิตที่ลานจอดรถตลาดโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง เมื่อช่วงเย็นวานนี้
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์กล่าวก่อนการประชุมว่า หลังเกิดเหตุตนพร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 ได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที โดยเบื้องต้นมีการสอบพยานไปแล้วหลายปาก ก่อนเกิดเหตุมีพยานคนหนึ่งระบุว่าเห็นผู้ตายคุยโทรศัพท์เหมือนมีการทะเลาะกันทางโทรศัพท์ในเรื่องธุรกิจอีกด้วย เพราะผู้ตายนอกจากเป็นหัวคะแนนแล้วยังมีธุรกิจอื่นอีกเป็นจำนวนมาก เช่น มีแผงรับเช่าพระในตลาดโกสุมรวมใจ มีรถบรรทุกให้เช่า และอดีตยังเคยคุมวินจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งถือเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ดอนเมืองอย่างมาก ส่วนปมสังหารได้ตั้งไว้หลายประเด็นรวมทั้งประเด็นทางการเมือง และเรื่องธุรกิจส่วนตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้มุ่งไปประเด็นเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้ตายก่อน แต่อย่างไรก็ตามจะไม่ตัดประเด็นทางการเมืองทิ้ง
พล.ต.ต.ดำรังศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่นายแทนคุณได้พูดที่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ ระบุว่าภายใน 3 วันตำรวจน่าจะมีความชัดเจนในเรื่องคดีนี้นั้น ขณะนี้เราทำงานกันอย่างเต็มที่มีการเรียกประชุมด่วน เวลาประมาณ 4 ทุ่มวานนี้ และแบ่งงานกันทำอย่างเร่งด่วน โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ให้ความสำคัญกับคดีนี้เป็นอย่างมากและต้องการให้เร่งรัดคดีเป็นพิเศษ จึงสั่งการให้ทีมสืบสวน บก.สส.บช.น.เข้าร่วมคลี่คลายคดีนี้ด้วย ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดกำลังตรวจสอบอยู่ คาดว่าการประชุมในวันนี้จะมีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าเดิม
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมโดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชม.ว่า จากการประชุมมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเมื่อปี 2553 ผู้ตายเคยมีเรื่องถูกทำร้ายร่างกายเกี่ยวกับการเช่าพระกับคนนอกพื้นที่ด้วย จึงให้น้ำหนักในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยจะตรวจสอบอย่างละเอียดและไปดูคดีเก่าๆ ของนายชุติเดชมาประกอบเพิ่มเติมด้วยว่ามีเรื่องอะไรบ้าง เพราะอาจนำไปสู่ปมการสังหารในครั้งนี้ได้ ส่วนนายแทนคุณได้โทรศัพท์มาให้ปากคำต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาให้ปากคำที่ สน.ดอนเมือง เมื่อวานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์อย่างมากแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
สำหรับนางณัฐทัย เครื่องสาย อายุ 21 ปี ภรรยาผู้ตาย ได้สอบปากคำเบื้องต้นแล้วแต่ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจส่วนตัวของสามี จึงต้องมุ่งเน้นไปหาข้อมูลที่เพื่อนสนิทของผู้ตายแทน
ผบก.น.2 กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้จะมีการจัดกำลังไปคุ้มครองภรรยาผู้ตายด้วย มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 4 ราย ส่วนที่พยานได้ยินเสียงปืนดัง 5 นัดนั้น คนร้ายยิงถูกผู้ตายเพียง 3 นัด โดยยิงจากทางด้านหลังเข้าท้ายทอยแล้วมาทะลุปาก แล้วยิงที่อกกับท้องอีกอย่างละ 1 นัด ส่วนที่ผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงที่ปากนั้นไม่ได้มีนัยอะไรเป็นพิเศษ ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นการเจาะจงยิงเข้าที่ปาก แต่ยิงมาจากทางด้านหลังแล้วมาทะลุที่ปาก ส่วนอีก 2 นัดนั้นคงเป็นการยิงเพื่อเปิดทางหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนคันก่อเหตุหลบหนีไป
เบื้องต้นภาพจากกล้องวงจรปิดพอทราบเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีแล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผย และยังมีพยานเห็นตำหนิ รูปพรรณสัณฐานคนร้ายและอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุด้วย โดยคนร้ายสวมหมวกไหมพรมแล้วสวมหมวกกันน็อกเต็มใบทับอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ยากต่อการสเกตช์ภาพคนร้าย คาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน คนหนึ่งอาจเป็นคนชี้เป้า ส่วนอีกคนเป็นคนลงมือยิง โดยมีการเตรียมการมาอย่างดีและมีความชำนาญในการใช้อาวุธ เพราะคนร้ายมีการมาดักรอผู้ตายไว้ก่อน พอสบโอกาสที่มีคนอยู่น้อยจึงทำการลงมือสังหารอย่างอุกอาจ ซึ่งคนร้ายทราบว่าผู้ตายออกมาที่แผงพระเป็นวันแรกหลังจากน้ำท่วมเพิ่งลดลง และยังไม่อยากให้คิดว่ามีนัยอะไรเป็นสำคัญมุ่งไปสู่ความรุนแรงทางการเมืองจากเหตุการณ์นี้ เพราะอาจเป็นสาเหตุอื่นได้ต้องรอให้มีหลักฐานชัดเจนก่อน หลังจากกนี้จะให้เจ้าหน้าที่แยกย้ายกันลงพื้นที่ไล่ล่าคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วน โดยขอใช้เวลาในการติดตามคนร้ายและหาข้อมูลต่างๆ เป็นเวลา 2 วัน ก่อนจะกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันอังคารที่ 13 ธ.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ บก.น.2 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคืบหน้าเพิ่มเติมด้วย