“เอแบคโพลล์” เผยชาวบ้าน 91.5% ชูปกครองประชาธิปไตยดีกว่าแบบอื่น 38.4% ค้านย้อนใช้ รธน.40 ขณะ 35.2% อยากกลับไปใช้ 72.2% เชื่อพรรครัฐซื้อเสียง ส่วน 66.5% เชื่อฝ่ายค้านก็ทำ 43.2% คาดเลือกตั้งงวดที่แล้วแจกเยอะกว่าก่อน 90% ฟันธงบ้านนักการเมืองมีซุกเงินอีกเพียบ
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า จากผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญและการลดแลกแจกแถมช่วงเลือกตั้ง ในหมู่ประชาชนกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 17 จังหวัดของประเทศ พบว่า ประชาชน 89.7% มองว่าการมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยในประเทศเป็นเรื่องค่อนข้างดีถึงดีมาก มีเพียง 10.3%ที่คิดว่าไม่ค่อยดีถึงไม่ดีเลย นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ 91.5% เห็นด้วยว่าการปกครองแบบประชาธิปไตยยังดีกว่าการปกครองในรูปแบบอื่นถึงแม้มีปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นและความไม่เป็นธรรมในสังคม
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้แทนรัฐธรรมนูญปี2550 พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 38.4%ไม่เห็นด้วยแต่จะไม่ชักชวนคนอื่นให้ออกมาคัดค้าน ขณะที่ 9.2% ไม่เห็นด้วยและจะชักชวนคนอื่นออกมาคัดค้าน ส่วนอีก 35.2% เห็นด้วยแต่จะไม่ชัดชวนคนอื่นให้ออกมาเรียกร้อง และ 17.2% เห็นด้วยและจะชักชวนคนอื่นออกมาเรียกร้องให้แก้ไข
“ประเด็นที่น่าเป็นห่วงต่อความคิดเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญก็คือ กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยและเห็นด้วยมีสัดส่วนมากพอๆ กัน จนเกรงว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกรุนแรงของคนในชาติได้” นายนพดลกล่าว
โดยผลสำรวจยังพบด้วยว่า กลุ่มตัวอย่าง 72.2% คิดว่าพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลมีการแจกเงินให้สิ่งของบางอย่างแก่ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในช่วงหาเสียง เช่น เงิน ของใช้ และทรัพย์สินอื่นๆ โดยแยกเป็น 24.4% คิดว่ามีการให้มาก และ 47.8% คิดว่ามีการให้บ้างตามลำดับ ขณะที่ 66.5% ระบุว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านก็มีการแจกเงินให้สิ่งของบางอย่างแก่ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในช่วงหาเสียงเช่นกัน โดย 16.4%คิดว่ามีการให้มาก และ 50.1% คิดว่ามีการให้บ้าง
นายนพดลกล่าวอีกว่า กลุ่มตัวอย่าง 43.2% คิดว่าการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมามีการแจกเงินให้สิ่งของบางอย่างแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2551 ในขณะที่ 28.7% คิดว่าเท่าเดิมและ 28.1% คิดว่าน้อยกว่า นอกจากนี้ ที่น่าสนใจคือ กรณีข่าวปล้นบ้านปลัดกระทรวงคมนาคมและพบเงินสดจำนวนมากนั้น ผลสำรวจพบว่า ประชาชนกว่า 90% คิดว่ามีการซุกซ่อนเงินสดที่บ้านพักของกลุ่มนักการเมืองและข้าราชการคนอื่นๆ อีก ในขณะที่ 8.3% เท่านั้นที่ไม่คิดว่ามี