ศอส.สรุปสถานการณ์น้ำท่วม พบยอดคนตาย 680 ราย-สูญหาย 3 ราย ขณะที่พื้นที่เกษตรเสียหาย 12 ล้านไร่
วันนี้ (10 ธ.ค.) ฝ่ายเลขานุการสนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสภานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ได้สรุปสถานการณ์ปัจจุบันอุทกภัย ว่าขณะนี้ยังมีมีสถานการณ์อุทกภัยและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ใน 2 พื้นที่ คือ ประเทศไทยตอนบน และภาคใต้บางจังหวัด โดยสถานการณ์อุทกภัยประเทศไทยตอนบน พบว่า ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 10 จังหวัด 83 อำเภอ 579 ตำบล 3,851 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,658,981 ครัวเรือน 4,425,047 คนได้แก่พื้นที่จังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร และ กทม. โดยมีผู้เสียชีวิต 680 ราย สูญหาย 3 คน (จ.แม่ฮ่องสอน 2 ราย จ.อุตรดิตถ์ 1 ราย)
ขณะที่ สถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.54 จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 8 จังหวัด 65 อำเภอ 362 ตำบล 2,057 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 147,092 ครัวเรือน 472,227 คน ได้แก่ จังหวัดพัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช นราธิวาส สงขลา ยะลาและจังหวัดปัตตานี พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 118,358 ไร่ วัด/มัสยิด 7 แห่ง โรงเรียน 30 แห่ง สถานที่ราชการ 10 แห่ง ถนน 783 สาย สะพาน/คอสะพาน 113 แห่ง ฝาย 19 แห่ง ปศุสัตว์ 5,777 ตัว ประมง 1,086 บ่อ เสียชีวิต 9 ราย (จ.พัทลุง 2 จ.สงขลา 2 จ.ยะลา 2 จ.นราธิวาส 3) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างฟื้นฟู (เป็นข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้านความเสียหาย พบว่า ด้านการเกษตรพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 12.61 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าว 9.99 ล้านไร่ พืชไร่ 1.87 ล้านไร่ พืชสวนและอื่นๆ 0.75 ล้านไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย แบ่งเป็น บ่อปลา 215,719 ไร่ บ่อกุ้ง/ปู/หอย 53,567 ไร่ กระชัง/บ่อซีเมนต์ 288,819 ตร.ม. สัตว์ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 30.32 ล้านตัว (เป็นข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
ส่วนความเสียหายด้านการคมนาคม ทางหลวง เส้นทางที่ไม่สามารถสัญจรได้ 4 สายทาง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ทางหลวงชนบท เส้นทางที่ไม่สามารถสัญจรได้ 43 สาย ใน 8 จังหวัด สำหรับการทางรถไฟแห่งประเทศไทย สายเหนือและสายใต้เปิดเดินขบวนรถเป็นปกติ และสายตะวันออกเฉียงเหนือบางขบวนที่ยังต้องเดินรถอ้อมไปใช้เส้นทางตะวันออก อาจใช้ระยะเวลาเดินทางนานกว่าปกติ