“คำนูณ” แนะจัดเวทีพูดคุยแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง วางแนวทางปฏิรูปควบคู่การทบทวนกฎหมาย เห็นด้วยแก้ไขอัตราโทษ ม.112 และไม่นำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา กล่าวในรายการ “คมชัดลึก” ทางเนชั่นแชนแนล ถึงเรื่องมาตรา 112 ว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขอัตราโทษที่เคยถูกแก้ไขจากจำคุกไม่เกิน 7 ปี เพิ่มโทษเป็นจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ทำให้ผู้ต้องโทษคดีนี้ไม่สามารถรอลงอาญาได้ เพราะโทษที่จะรอลงอาญาได้จะต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี อีกประเด็นคือ ตนไม่เห็นด้วยในการใช้กฎหมายมาตรานี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ควรมีการทบทวนวิธีการดำเนินคดี ไม่ใช่ปล่อยให้มีการกล่าวหากันได้โดยทั่วไป ควรทบทวนดูว่ากระบวนการพิจารณาคดีนี้ ควรจะมีกระบวนการต่างจากปกติหรือไม่ เพราะถ้ากระบวนการพิจารณาคดีเนิ่นนานออกไปจะส่งผลเสียหายต่อผู้ถูกกล่าวหา การทบทวนในการแก้ไขหรือไม่แก้ไขสามารถถกเถียงกันได้ แต่ตนไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกกฎหมายมาตรานี้
อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้พิจารณาเรื่องกฎหมายมาตรานี้เพียงเรื่องเดียว หรืออย่าพูดแต่เรื่องอภัยโทษ นิรโทษกรรม อยากให้พูดถึงเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยครั้งใหญ่ ถ้าอยู่ในเวทีพูดคุยกันอย่างอารยะ น่าจะมีข้อสรุปได้
สำหรับคดีอากง SMS การหยิบเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมาพูด แล้วนำไปสู่การรณรงค์เป็นเรื่องอันตราย เพราะการเป็นผู้สูงอายุ มีความจงรักภักดี ใช้เทคโนโลยีไม่เป็น ประเด็นเหล่านี้สามารถนำมาระดมความเห็นใจได้
ส่วนความเป็นห่วงเรื่องคดีนี้จะขยายวงออกไป นายคำนูณกล่าวว่า การขยายวงมีความเป็นไปได้ ปัจจุบันเรื่องนี้อยู่ในโซเชียลมีเดียซึ่งจำกัดวงอยู่ แต่ถ้าวันหนึ่งคนออกมายืนกลางถนนก็จะเป็นเรื่อง เพราะจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยออกมาเช่นกัน แต่เชื่อว่าปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะรัฐบาลตระหนักว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่ถ้ารัฐบาลจะขับเคลื่อนยื่นแก้ไขกฎหมายนี้เข้ามาก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคงมีเรื่องใหญ่ที่ต้องคิดมากกว่านี้ เพราะรัฐบาลต้องคิดภาพรวม
นายคำนูณกล่าวว่า ตอนนี้มีประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองอื่นๆที่ยังไม่ลงตัว อยากให้มีเวทีที่แต่ละฝ่ายได้มาพูดคุย เพื่อแก้ปัญหาพื้นฐานร่วมกัน แล้วมีแผนของประเทศออกมา