xs
xsm
sm
md
lg

นายโง่ ลูกน้องก็โง่ด้วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
กรณีรัฐบาลสั่งยกเลิกการจัดแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม “วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษามหาราช” ณ เวทีท้องสนามหลวงและการฉายภาพยนตร์พาโนรามาเฉลิมพระเกียรติ “84 ปี แห่งความรุ่งเรืองของกรุงรัตนโกสินทร์” บริเวณกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านถนนหน้าพระลาน ในงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 84 พรรษาอย่างกระทันหัน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากเปิดแสดงมาได้เพียง 2 คืน จากกำหนดการเดิมที่จะแสดง 7 วัน ไปสิ้นสุดเอาคืนวันที่ 9 ธันวาคม

เรื่องนี้จะไม่บานปลายกลายเป็นข้อสงสัยของประชาชนว่ามีเบื้องหลังอะไรหรือไม่ และเป็นคำถามที่รัฐบาลไม่มีคำตอบหากรัฐบาลมีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับประชาชนและมีความเป็นแอกภาพในการชี้แจง

การพูดถึงสาเหตุที่แท้จริงอย่างตรงไปตรงมาพูดยากหรือพูดไม่ได้ แต่ถ้าไม่คิดอย่างจริงจังอย่างให้ความสำคัญว่าจะชี้แจงต่อประชาชนอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ คือคนของรัฐบาลพูดกันไปคนละทางสองทาง สุดแท้แต่ว่าจะคิดเหตุผลอะไรขึ้นมาได้

รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ บอกว่า ไม่อยากให้มีงานรื่นเริง เพราะประชาชนกำลังลำบากจากน้ำท่วม ทั้งๆ ที่ตัวเองซึ่งเป็นประธานจัดงานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ เพิ่งแถลงข่าวเมือวันที่ 2 ธันวาคมว่า จะจัดงานครั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นไปตามพระราชประสงค์ โดยมีการแสดงแสง สี เสียง และภาพยนตร์พาโนรามาอยู่ในรายการกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติด้วย

ส่วนโฆษกรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง บอกว่าต้องการลดงบประมาณ เพื่อเอาไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งเป็นเหตุลที่คนด่ากันทั้งเมืองว่าคิดได้อย่างไร

ในขณะที่รองโฆษกรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ชี้แจงไปอีกทางว่า การแสดงสิ้นสุดแค่วันที่ 4 ธันวาคมอยู่แล้ว ซึ่งโกหกชัดๆ เพราะ กำหนดการงานเฉลิมพระเกียรติก็ระบุไว้ชัดเจนว่า มีกิจกรรมอะไรบ้าง แสดงถึงวันไหน เป็นการโกหกตามสัญชาติญาณโดยแท้

เมื่อคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงให้ประชาชนรับรู้ ทั้งรองนายกฯ ในฐานะประธานจัดงาน และโฆษก รองโฆษกรัฐบาล พูดกันคนละอย่าง และสิ่งที่อ้างล้วนแต่ไม่สมเหตุสมผล ฟังไม่ขึ้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่มีใครเชื่อและพลอยสงสัยไปว่ารัฐบาลมีเจตนาอื่นแอบแฝงหรือไม่

รัฐบาลนี้ไล่ตั้งแต่ตัวนายกรัฐมนตรีลงมาจนถึงโฆษกรัฐบาล มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับประชาชน นอกจากตัวนายกฯ จะพูดผิดเป็นปกติทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ พูดโดยไม่มีสคริปต์ไม่ได้ และพูดเกิน 3 นาทีไม่เป็นแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีส่วนใหญ่ พูดจาเชื่อถือไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจาก 1.ความไม่รู้ ไม่ประสีประสาในงานที่กำลังทำอยู่ 2.รัฐบาลนี้ เป็นหุ่นเชิดหน้าฉากของ นช.ทักษิณ ชินวัตร การกระทำทุกอย่างล้วนถูกสั่งการมาจากหลังม่านทั้งสิ้น รองนายกฯ รัฐมนตรีแต่ละคน เวลาพูดกับสื่อจึงพูดแบบนกแก้วนกขุนทอง เพราะไม่รู้ในเรื่องที่ตัวเองกำลังพูดจึงไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้

จุดอ่อนอย่างยิ่งในเรื่องการสื่อสารของรัฐบาลนี้ นอกจากตัวนายกรัฐมนตรีซึ่งคิดไม่ได้พูดไม่เป็นแล้ว ก็คือโฆษกรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง สามเดือนที่ผ่านมาไม่มีบทบาทในการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่เลย เวลาประชุม ครม.ก็เลือกแถลงแต่เรื่องง่ายๆ และต้องมีโพย เรืองไหนไม่มีโพยพูดไม่ได้

โฆษกรัฐบาล นอกจากจะต้องชี้แจงแถลงไขการทำงานของรัฐบาลอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังต้องเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ไปในตัวด้วย ต้องออกหน้ารับแทน แก้ต่าง ในเรื่องที่นายกฯ ไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดได้ หรือพูดไม่ออกเพราะไม่รุ้เรื่อง รวมทั้งคอยตอบโต้ในประเด็นทางการเมืองด้วย

นอกจากเป็นกระบอกเสียงของตัวนายกรัฐมนตรีแล้ว บทบาทที่สำคัญที่สุดของโฆษกรัฐบาล คือการกำหนดทิศทางของข้อมูลข่าวสารที่ออกมาจากรัฐบาลให้มีเอกภาพ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นความจริง

ยิ่งนายกรัฐมนตรีมีสติปัญญาต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไป คนเป็นโฆษกก็ยิ่งต้องรับบทหนัก คอยประคับประคอง คอยแก้คำผิดให้นาย

ใครเคยเห็นฐิติมา ฉายแสงทำหน้าที่แบบนี้บ้าง


กรณีเฟซบุ๊กยิ่งลักษณ์โพสต์รูปในหลวงผิดรัชกาล จะด้วยเหตุอันใดก็ตามแต่ ปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านไปหลายวันโดยไม่มีการดำเนินการอะไรเพื่อแสดงว่านายกฯ สำนึกผิด มีแต่โยนความผิดไปให้ทีมงานและบอกให้เลขาธิการนายกฯ ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษแทนนายกฯ จนเมื่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงขึ้น ในที่สุดโฆษกรัฐบาลก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงหน้าที่ได้ ต้องแถลงว่านายกฯ ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว และได้ปลดทีมงานนอมินียิ่งลักษณ์ในเฟซบุ๊ก แต่ก็สายไปแล้วฐิติมา

นายกฯ ยิ่งลักษณ์คิดเองไม่ได้อยู่แล้ว ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องแบบนี้ จะตอบสื่อว่าอะไร คนเป็นโฆษกรัฐบาลต้องช่วยคิดช่วยเสนอแนะทางออก ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ให้เรื่องเงียบไปเอง

สามเดือนที่ผ่านมา โฆษกรัฐบาล ฐิติมา ฉายแสง ล้มเหลวในการทำหน้าที่โดยสิ้นเชิง ถ้านายโง่แต่ลูกน้องฉลาดก็ยังพอจะถูลู่ถูกังกันไปได้ ถ้านายก็โง่ลูกน้องก็โง่ก็ต้องค้นหาว่าใครโง่กว่ากัน
นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กำลังโหลดความคิดเห็น