รมว.กลาโหม ระบุเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่กองสลากปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจโดยทหารไม่ต้องเข้าไปร่วมสอบสวนด้วย เชื่อแค่ฝีมือของกลุ่มก่อกวน แต่ไม่ประมาทการสร้างสถานการณ์รุนแรงช่วงก่อนปีใหม่ย้อนรอนอดีต
วันนี้ (8 ธ.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน ว่ายังไม่ได้รับรายงาน ทราบเพียงมีการวางระเบิด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน โดยฝ่ายพิสูจน์ทราบได้เข้าไปดำเนินการแล้ว มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและผู้ที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ขณะนี้รอผลการสอบสวน ซึ่งทางตำรวจไม่ได้ร้องขอมาทางทหารให้เข้าไปร่วมสอบสวนด้วย จึงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจ และทหารก็ยังไม่ได้มีการนำทหารจากกรมสรรพาวุธเข้าไปร่วมตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม คิดว่าตำรวจมีความสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อกวนมากกว่า เพราะถ้าเป็นผู้ที่ไม่หวังดีจะต้องวางให้มีการระเบิดขึ้น แต่การวางเพื่อให้เห็นว่ามีการวางระเบิดน่าจะสร้างสถานการณ์ ส่วนจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องรอให้ตำรวจสอบสวนและรายงานมาก่อน รวมถึงต้องรอดูตามที่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะจับตัวคนร้ายได้ภายใน 3 วัน ซึ่งกระทรวงกลาโหมและทางทหารก็รอรายงานอันนี้
เมื่อถามว่าจะกำชับเข้มงวดอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ช่วงปีใหม่เคยมีการวางระเบิดในสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า หลังจากเกิดการวางระเบิดในพื้นที่กทม. ทางทหารกำชับว่าให้มีการระมัดระวังในพื้นที่ที่ตั้งและพื้นที่ที่ทหารรับผิดชอบ ช่วงใกล้ถึงปีใหม่ที่เคยมีสถานการณ์รุนแรง ทางทหารได้มีการสั่งการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนจะสั่งกำชับอีกครั้งในวันประชุมสภากลาโหมในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ว่า ต้องให้ทุกหน่วยงาน ที่ตั้งของทหารและบริเวณที่อยู่ในความรับผิดชอบให้ตรวจสอบและระวังด้วย ส่วนปีหน้าที่มีการทำนายว่าจะมีการลอบสังหารนั้น ยังไม่คิดไกลไปถึงขนาดนั้น
เมื่อถามว่า เป็นสัญญาณว่าบ้านเมืองกลับไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ต้องพิสูจน์ให้ทราบก่อนว่าเป็นใคร กลุ่มไหนที่เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเราจะสามารถมองภาพได้ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร รวมถึงต้นสายปลายเหตุ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบจึงไม่สามารถประมาณการลึกซึ้งได้ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าความเข้มงวดของการดูแลความเรียบร้อยความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มมาก ขึ้นรวมถึงทางทหารก็จะดูแลในเรื่องนี้ด้วย แต่คิดว่าเหตุการณ์คงไม่ถึงกับทำให้ประชาชนไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ขอให้สบายใจ
