xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.งบฯ สภา เล็งสอบงบกิจกรรมงานวันพ่อ ชี้ส่อพิรุธ เชื่อแห้วทวงคืนค่าจ้างแสดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธนิตพล ไชยนันทน์ ประธานกรรมาธิการติดตามงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร (แฟ้มภาพ)
ปธ.กมธ.งบฯ สภา จ่อสอบตัดถอนกิจกรรมงานในหลวง ชี้ส่อพิรุธ ระบุหากโอนงบใช้กิจการอื่นต้องแจ้งล่วงหน้า ไม่เชื่อประหยัดงบจริงเหตุรัฐไม่มีสิทธิ์เรียกคืนค่าจ้างตามสัญญา ถามกลับถ้าตัดลดกิจกรรมจริงระหว่างร้องเพลงกับแสดงพระราชกรณียกิจ แบบไหนควรโดนมากกว่า ด้าน “รังสิมา” เล็งชงสอบการใช้จ่ายงบงานทั้งหมด จวกรัฐยืนยันเองจัดสมพระเกียรติแต่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน

วันนี้ (7 ธ.ค.) นายธนิตพล ไชยนันทน์ ประธานคณะกรรมาธิการติดตามงบประมาณ สภาฯ กล่าวถึงกรณีการลดวันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองครบ 84 พรรษาว่า ตนจะหารือต่อที่ประชุม กมธ.วันนี้เพื่อตรวจสอบกรณีการจัดสรรงบประมาณที่ใช้ในงานเฉลิมพระเกียรติในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากที่รัฐบาลนี้มีการเปลี่ยนแปลงโดยการตัดทอนกิจกรรมแสง สี เสียง และสื่อผสม รวมทั้งการฉายภาพสามมิติที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง โดยอ้างเหตุผลว่าจะนำงบประมาณในส่วนนี้ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลก เนื่องจากการโอนงบประมาณไปใช้ในกิจการอื่นที่แตกต่างจากวัตถุประสงค์เดิมจะต้องมีการทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ล่วงหน้า

นายธนิตพลกล่าวต่อว่า แต่ในกรณีนี้จากคำให้สัมภาษณ์ของนางฐิติมา ฉายแสง โฆษกรัฐบาลที่ระบุว่า มีการประชุมภายในเพื่อของดการจัดกิจกรรมดังกล่าวในวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะสามารถประหยัดงบประมาณในส่วนดังกล่าวได้จริงตามที่มีการกล่าวอ้าง เนื่องจากก่อนที่จะมีการกำหนดกิจกรรมใดๆ ในงานใหญ่เช่นนี้ รัฐบาลย่อมต้องมีการวางแผนและทำสัญญาว่าจ้างกับบริษัทออแกไนเซอร์อย่างชัดเจนถึงกรอบการจัดงานและกิจกรรมและระยะเวลาในการจัดงาน รวมทั้งจำนวนเงินงบประมาณที่จะใช้จัดงานเหล่านี้ทั้งหมด ซึ่งหากทางรัฐบาลมีการตัดทอนลดจำนวนของวันที่จัดกิจกรรมในงานดังกล่าวลง โดยธรรมชาติทางบริษัทออแกไนเซอร์ก็จะไม่มีการคืนเงินค่าจ้างให้ เพราะมีการทำสัญญาไว้แล้วที่สำคัญคือทางบริษัทไม่ได้เป็นผู้ที่ทำผิดสัญญาแต่อย่างใด

“ตอนนี้คณะกรรมาธิการกำลังตรวจสอบเกี่ยวกับการโอนย้ายงบประมาณในทุกกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งยังไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณในส่วนของงานเฉลิมพระเกียรติ จึงอยากดูรายละเอียดทั้งหมดว่าสามารถจะประหยัดงบประมาณในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติได้หลายสิบล้านบาท ตามที่นางฐิติมากล่าวอ้างจริงหรือไม่ และมีการนำเงินงบประมาณไปใช้ในส่วนใด ปฏิบัติถูกระเบียบราชการหรือไม่ รวมทั้งวงเงินอยู่ในอำนาจการอนุมัติของบุคคลใด ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะทุกอย่างกะทันหันไปหมด แม้แต่บริษัทออแกไนเซอร์เองก็ระบุเองว่า ถูกลดจำนวนวันจัดงานลงกลางคัน ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะกิจกรรมเช่นนี้จะคิดว่าเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองงบประมาณไม่ได้ เพราะเป็นการเฉลิมฉลองพระเกียรติและรัฐบาลเองก็ระบุมาก่อนหน้านี้แล้วว่า มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเน้นย้ำว่า จะจัดงานครั้งนี้อย่างสมพระเกียรติ ซึ่งหากคิดที่จะตัดทอนกิจกรรมจริงๆ เรื่องของการร้องรำทำเพลงต่างๆ กับการกิจกรรม แสง สี เสียง สื่อผสมและการฉายพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านอย่างไหนควรที่จะตัดทอนลงมากกว่ากัน ซึ่งหลังจากที่มีการพิจารณาในเรื่องนี้แล้ว และเห็นว่ามีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด หรือแม้แต่นายกฯ เองก็อาจจะต้องมีการเชิญมาชี้แจงต่อ กมธ.เช่นกัน” นายธนิตพลกล่าว

ขณะที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ในฐานะกรรมาธิการติดตามงบประมาณ สภาฯ กล่าวว่า จะเสนอต่อที่ประชุมให้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสครบ 84 พรรษา เนื่องจากเห็นว่ามีพิรุธในหลายจุด ซึ่งในฐานะที่เป็นคนไทยเชื่อว่าคงไม่มีใครขัดข้องในการจัดสรรงบประมาณเพื่อเทิดพระเกียรติในโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ อีกทั้งก่อนหน้านี้พระองค์ก็ทรงมีรับสั่งตั้งแต่แรกว่า ให้จัดงานอย่างเรียบง่าย เนื่องจากประเทศไทยกำลังประสบภาวะน้ำท่วม แต่รัฐบาลโดยนายกฯก็เป็นผู้ยืนยันเองว่าจะจัดงานอย่างสมพระเกียรติให้สอดคล้องกับสถานการณ์จนกระทั่งมีการอนุมัติงบประมาณออกมา แสดงว่ามีการหารือใคร่ครวญอย่างรอบคอบแล้ว แต่ทำไมจึงมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนต่างสงสัยในฐานะที่เป็น กมธ.ติดตามงบประมาณจึงเห็นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำเอกสารทั้งหมดนำมาชี้แจง เพราะตนไม่เชื่อว่าจะมีบริษัทเอกชนรายใดที่จะยอมคืนเงินให้แก่ผู้ว่าจ้างที่สั่งลดการจัดงานลง หลังจากที่ได้ทำสัญญาและจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น