“ชวนนท์” แนะ “สุนัย” เบิกเงินพ่อแม้ว หอบคดี 91 ศพไปฟ้องศาลโลก เตือนอย่าใช้เงินหลวงละลายแม่น้ำ ไม่เช่นนั้นโดนตามเช็กบิลแน่ มั่นใจศาลโลกไม่รับฟ้อง เหตุไม่เข้าเกณฑ์ จี้รัฐบาลเร่งรัดคดีเผาเมือง-ฆ่าทหารด้วย ด้าน กมธ.ต่างประเทศ ปชป.เตรียมขวางในที่ประชุม เย้ยเดินตามรอยทนายตาน้ำข้าวล้วงเงินกระเป๋า “นช.แม้ว” ทำร้ายประเทศ ชี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างชาติเข้าใจสถานการณ์ เพราะขณะ “สุนัย” นำแก๊งแดงบุกสภาฯ ปธ.สมาพันธ์พรรคเสรีนิยมโลก อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุนัย จุลพงศธร ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าจะนำคดี 91 ศพไปศาลโลกว่า ไม่แน่ใจว่านายสุนัยมีเจตนาอย่างไรในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ ขอเตือนว่าอย่าเปลืองงบประมาณหลวง เพราะหลักการดำเนินการไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะนำคดีนี้ไปฟ้องศาลโลก เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคี และเรื่องที่จะเข้าสู่การพิจารณาศาลโลกจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ 4 ข้อ คือ เป็นคดีที่เป็นภัยของมนุษยชาติ สงครามระหว่างประเทศ การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ หรือรุกรานโดยใช้กำลังรุนแรงต่อผู้ไม่มีทางสู้ มีเพียง 4 หลักการนี้เท่านั้นที่ศาลโลกจะรับไว้พิจารณา และหากเป็นคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของประเทศนั้นๆ ก็ไม่เข้าเกณฑ์ที่ศาลโลกจะรับไว้พิจารณา เพราะถือว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศนั้นๆ ยังทำหน้าที่ได้
“ถ้าคุณสุนัยจะไปให้ได้ ผมแนะนำให้เบิกตังค์ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจ้างให้เดินทางรอบโลกทำร้ายประเทศไทย คุณสุนัยอย่าใช้งบหลวง เพราะถ้าท่านใช้งบแผ่นดินไปดำเนินการแล้วศาลโลกไม่รับไว้พิจารณา ผมจะตามเอาผิดกับคนที่นำเงินหลวงไปละเลงทิ้งแม่น้ำ” นายชวนนท์กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจเร่งรัดสำนวนคดี 13 ศพว่า เป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนความล้มเหลวของตัวเอง ด้วยการเร่งรัดคดี 13 ศพที่อยู่ในความรับผิดชอบของนครบาล ผู้บริหารของพรรคพร้อมพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม และขอให้รัฐบาลเร่งรัดทุกคดีให้เหมือนกัน ทั้งการเผาบ้านเผาเมือง ก็ต้องดำเนินการเต็มที่ เช่นเดียวกับการตายของทหาร ก็ต้องหาความจริงและนำคนผิดมาลงโทษด้วย
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ กรรมาธิการการต่างประเทศฯ ตำหนิพฤติกรรมของนายสุนัยว่า เป็นการกระทำโดยพลการ เพราะที่ประชุมไม่เคยมีมติในเรื่องนี้ และในการประชุมกรรมาธิการฯสัปดาห์หน้าจะหยิบยกเรื่องนี้หารือต่อที่ประชุมด้วย แต่ถ้ามีการลงมติแล้วกรรมาธิการฯในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นเสียงข้างน้อย โดยมติเสียงข้างมากอนุญาตให้นายสุนัยเดินทางไปได้ ตนก็จะทำหนังสือคัดค้านและโต้แย้งเพื่อให้ข้อเท็จจริงในทุกเวทีที่นายสุนัยเดินทางไปด้วย
“เราจะให้ข้อเท็จจริงว่า การเดินทางของนายสุนัยเป็นความพยายามบิดเเบือนเหตุการณ์ก่อการร้าย การเสียชีวิตของคนไทยและเจ้าหน้าที่ และแจ้งให้รับทราบว่า เรื่องทั้งหมดเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการภายประเทศอยู่”
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ก็พยายามที่จะร้องเรียนผ่านสมาพันธ์เสรีประชาธิปไตยอาเซียน และสมาพันธ์พรรคเสรีนิยมโลกซึ่งมีสมาชิกกว่า 140 ประเทศ แต่ไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเขารับทราบข้อเท็จจริงว่า รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ได้ดำเนินการเพื่อรักษาความสงบตามหลักสากล และพยายามอย่างที่สุดในการหลีกเลี่ยงความรุนแรง
อีกทั้งประธานสมาพันธ์พรรคเสรีนิยมโลกก็อยู่ในเหตุการณ์ที่นายสุนัยนำคนเสื้อแดงบุกรัฐสภาไทยเมื่อปี 2553 ด้วย จึงเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี และในวันนี้มีการประชุมสมาพันธ์พรรคเสรีประชาธิปไตยอาเซียนก็มีการพูดถึงเรื่องนี้ โดยประเทศสมาชิกต่างก็แสดงความประหลาดใจต่อการเคลื่อนไหวของนายสุนัย ตนคิดว่าพฤติกรรมของนายสุนัยสร้างความเสียหายให้แก่กรรมาธิการฯ เพราะเป็นการทำเพื่อช่วยเหลือคนคนเดียวด้วยการทำลายความน่าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมของไทย
