หน.พรรคมาตุภูมิ ออกตัวขอเป็นกลาง หลังงดออกเสียงซักฟอก “ประชา” อ้างฟังข้อมูลสองฝ่ายมีเหตุผลทั้งคู่ ยอมรับแตะมือรวมกลุ่ม “ชูวิทย์-ปุระชัย” หวังให้ประเทศเดินหน้าแม้จะโหวตสวนกันก็ตาม ชี้ที่ผ่านมาเคยเข้าร่วมที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน
วันนี้ (29 พ.ย.)ที่รัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ 2 ส.ส.พรรคมาตุภูมิ ลงมติงดออกเสียงในญัตติไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่า เราต้องการวางตัวเป็นกลาง และจะทำในสิ่งใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เพราะในการลงมติต้องคำนึงถึงหลายๆ ปัจจัยด้วย โดยเฉพาะการที่ประเทศจะเดินไปข้างหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการอภิปรายก็ได้รับฟังข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งก็เห็นว่าต่างฝ่ายต่างมีเหตุและผล ทั้งนี้ ในส่วนพรรคมาตุภูมิ พรรครักษ์สันติ และพรรครักประเทศไทยที่มี ส.ส.รวมกัน 7 เสียง ก็จะรวมกลุ่มกันทำหน้าที่ฝ่ายที่เป็นกลางร่วมกันต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้ลงมติในทิศทางเดียวกันก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาระบุว่ามีความลำบากในการทำงานฝ่ายค้าน เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้เกียรติพรรคเล็ก พล.อ.สนธิกล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะที่ผ่านมาทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ให้เกียรติตนเป็นอย่างดี เพียงแต่อาจจะมีแนวทางที่แตกต่างกันบ้าง เนื่องจากตนต้องการทำงานที่มีความเป็นกลาง ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่เคยเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่หากมีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องทางพรรคประชาธิปัตย์ก็จะแจ้งให้ทราบโดยตลอด