xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งนานยิ่งห่วย เตรียมรับชาวบ้านปิดถนน-จลาจลพังคันกั้นน้ำ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

ต้องบอกว่านอกจากปัดความรับผิดชอบ ลอยตัวหนีปัญหา ปล่อยทุกอย่างไปตามยถากรรม ให้ความทุกข์ท่วมท้นแห้งตายกันไปเอง เหมือนกับสภาพของชาวบ้านเวลานี้ที่บางแห่งถูกน้ำท่วมก่อน และแน่นอนว่าน้ำจะแห้งหลังสุด แต่รวมเวลาแล้วพวกเขาต้องแช่น้ำอยู่นานกว่า 3 เดือนแล้ว

แช่น้ำเน่านะ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยได้กลิ่นหรือไม่ เพราะขนาดเอาลูกอีเอ็มบอลโยนลงน้ำเมื่อหลายวันก่อนแล้วน้ำกระเซ็นใส่ ยังทำหน้าขยะแขยง แต่นี่ชาวบ้านต้องแช่อยู่นานนับเดือน สัมผัสอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีอนาคตว่าน้ำจะแห้งลงเมื่อไหร่ เป็นใครมันก็ต้องเครียด ไหนจะเรื่องขาดรายได้ อาหารการกิน ขาดไปทุกอย่างสารพัด

แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) มีก็เหมือนกับไม่มี เพราะทำราวกับว่าปล่อยให้ระดับท้องถิ่นแก้ปัญหาเผชิญชะตากรรมกันเอง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหนังหน้าไฟ รองรับอารมณ์ชาวบ้านเอาเอง

เหตุการณ์ประท้วงของชาวบ้านที่เกิดขึ้นทั้งในเขตจังหวัดปทุมธานี เขตดอนเมือง และกำลังเกิดขึ้นที่จังหวัดนนทบุรี ประเด็นปัญหาหลักๆ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า ชาวบ้านเหล่านั้น “สุดทน” กับการแก้ปัญหาที่ขาดการประสานงานทั้งตัวบุคคลและข้อมูลข่าวสาร ทั้งรัฐบาล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) และหากเป็นตัวบุคคล ก็ต้องไล่ลงมาตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการศูนย์ฯ รวมไปถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ที่ผ่านมาต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างบริหารจัดการ แล้วไปขัดแข้งขัดขาคนอื่น เล่นเกมการเมืองบนความเดือดร้อนของชาวบ้าน

อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่ต้องตำหนิให้มากที่สุดก็คือ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ และ พล.ต.อ.ประชา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ เพราะที่ผ่านมาได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย มาตรา 31 รวบอำนาจในเรื่องการบริหารจัดการน้ำเข้ามาจัดการแทบทั้งหมด แถมที่ผ่านมายังมีการคณะกรรมการระบายน้ำ กรรมการเปิดประตูระบายน้ำคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล ฯลฯ ขึ้นมาสารพัด ไม่รู้ว่านายกฯยิ่งลักษณ์จำได้หรือไม่ว่าได้เซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการชุดใดและทำหน้าที่อย่างไรไปแล้วบ้าง

แม้อีกมุมหนึ่งย่อมเข้าใจดีว่า การสร้างความสมดุล เอาใจมวลชนที่อยู่ในอารมณ์ไม่ปกติ ล้วนเป็นเรื่องยากเอาการ เพราะถูกขับดันด้วยสารพัดปัญหาที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ถึงอย่างไร ในฐานะที่เป็นรัฐบาลมีอำนาจในการบริหารสูงสุด มีข้าราชการ มีกลไกอำนาจรัฐพร้อมสรรพ ก็ต้องเข้าไปสั่งการจัดการกับปัญหาให้เด็ดขาด มีการรวบรวมวิเคราะห์ปัญหาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย อย่างไหนได้ประโยชน์มากกว่า

แน่นอนว่าการแก้ปัญหาในลักษณะแบบนี้ย่อมต้องมีทั้งคนที่พอใจ เพราะได้รับประโยชน์ ขณะเดียวกันก็ยังไม่อีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องเดือดร้อนและไม่พอใจ ซึ่งก็ต้องประกาศให้ความช่วยเหลือเยียวยาตอบแทนให้ “ถึงขนาด” คุ้มค่า ให้มีความชัดเจน ให้สัญญากันเป็นเรื่องเป็นราว หากต้องการให้อีกฝั่งหนึ่งแห้งอีกฝั่งหนึ่งต้องจมน้ำ ไม่เช่นนั้นมันจะเกิดปัญหาความเดือดร้อน ความไม่พอใจ รวมไปถึงจะเกิดความแตกแยกในชุมชนตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกันในฐานะรัฐบาลก็ต้องมีความเด็ดขาดกล้าตัดสินใจ ยิ่งในสถานการณ์เดือดร้อนฉุกเฉิน ก็ยิ่งต้องกล้าเป็นสองเท่า โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ต้องแสดงภาวะผู้นำออกมาให้เห็นทันที

ไม่ใช่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นไปทะเลาะกับชาวบ้านกันเอง โดยที่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เลย ปัญหาก็ถูกหน่วงเหนี่ยวยื้อเวลาเอาไว้เหมือนกับสร้างแนวบิ๊กแบ็กเอาไว้ชะลอน้ำชั่วคราว แต่เมื่อสถานการณ์ความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ต้องทุกข์ทนอยู่กับน้ำเน่าเสียมากขึ้นทุกวัน แบบไม่มีอนาคตอย่างนี้รับรองว่า “ไม่มีมนุษย์หน้าไหน” ทนได้อย่างแน่นอน

เมื่อประเมินจากอารมณ์ของชาวบ้านที่อยู่ในฝั่งน้ำท่วม หรืออยู่เหนือแนวคันกั้นน้ำในปัจจุบัน เชื่อว่าอารมณ์โกรธจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่หาทางบรรเทาความเดือดร้อนอย่างทันท่วงทีรับรองว่ามีโอกาสที่จะปะทุ “กลายเป็นระเบิด” เป็นไปได้สูงยิ่ง หากไม่อาจระงับยับยั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อย่าได้แปลกใจที่ต่อไปนี้จะต้องเกิดเหตุการปะทะระหว่างชาวบ้านทั้งสองฝ่าย ระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ จะมีการปิดถนนเพื่อกดดันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาก็เริ่มมีให้เห็นถี่ยิบขึ้นมาเรื่อยๆ

สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวมาทั้งหมดล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลว ความไม่เอาไหน ขาดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มวุ่นวายยุ่งเหยิงไปถึงวันข้างหน้า ในตอนแรกเมื่อครั้งที่ต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมใหม่ๆอาจจะพอให้อภัยได้ว่าเป็นเรื่องฉุกละหุก กะทันหัน อาจอ้างว่ารัฐบาลเพิ่งเข้ามายังไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานนับเดือน บางพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังอย่างไร ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น เรื่องระดับน้ำอาจอ้างว่าเป็นเพราะพื้นที่ข้างล่างยังระบายน้ำออกไปไม่ได้ ก็ว่ากันไป แต่การช่วยเหลือเยียวยาก็ยังมั่วเหมือนเดิม ไม่ต่างจากสองสามเดือนก่อนหน้านี้

ดังนั้น ถ้าให้สรุปจากผลที่ออกมาอย่างที่เห็นทั้งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และต่อเนื่องไปถึงอนาคตดูแล้วไม่มีทางดีขึ้นเลย ตรงกันข้ามน่าจะเลวร้ายลงกว่าเดิม เพราะเมื่อพิจารณาจากความสามารถและสติปัญญาของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันช่างไร้อนาคตสิ้นดี ยิ่งอยู่นาน ยิ่งห่วยไม่ได้ดีขึ้นเลย เมื่อมีภาพลบแบบนี้ก็อย่าได้แปลกใจที่ต่อไปจะได้เห็นภาพของการประท้วงของชาวบ้านปิดถนน รวมไปถึงการปะทะก่อจลาจลของชาวบ้านด้วยกันเองก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงได้เห็นถี่ขึ้น หนักหน่วงรุนแรงขึ้น แม้ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นก็ตาม!!
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น