xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ตายใจ งดหารือเรื่องน้ำทั้งสัปดาห์ สั่ง รมต.ลงคุยผู้ว่าฯ รายจังหวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
นายกฯ งดหารือเรื่องน้ำตลอดสัปดาห์ อ้างสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว สั่ง รมต.ลงพื้นที่เจาะลึกแผนฟื้นฟูรายจังหวัด โว ต่างชาติชื่นชมไทยแก้อุทกภัยเร็ว จีนสนใจลอจิสติกส์อยากลงทุนรถไฟความเร็วสูง

วันที่ 22 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระบุว่าสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นมาก และตลอดสัปดาห์นี้ จึงจะไม่มีการหารือปัญหาน้ำ ต้องขอบคุณทุกท่านที่ได้ไปช่วยกันทำงานสื่อสารกับพี่น้องโดยตรง จากนี้ไปจะมอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ทำงานเชิงเจาะลึกเป็นรายจังหวัด โดยรัฐมนตรีจะต้องเข้าไปทำงานร่วมกับจังหวัดในเชิงลึกว่าแต่ละจังหวัดต้องการที่จะฟื้นฟูอย่างไร

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้บอกว่าจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซียที่ผ่านมา มีหลายประเทศมาขอดูแผนฟื้นฟูวิกฤติน้ำท่วมของประเทศไทย ว่าทำไมประเทศไทยทำงานแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว อย่างประเทศจีน มีความสนใจในระบบลอจิสติกส์ของไทยและอยากจะมาลงทุนในเรื่องรถไฟความเร็วสูง ซึ่งปัญหาอุทกภัยในประเทศไทยที่ประชาชนมองว่ารัฐบาลทำงานไม่รวดเร็ว ต้องบอกว่าต่างประเทศค่อนข้างที่จะชื่นชมการทำงานของรัฐบาล และเกิดความมั่นใจมาก ซึ่งรัฐบาลมั่นใจว่างบเงินลงทุนเดิมที่นักธุรกิจลงทุนอยู่เดิมนั้น หลังจากได้รับแผนฟื้นฟูแล้วจะไม่ถอนกำลังการผลิตออกจากประเทศไทย และถ้าเราได้โครงการรถไฟความเร็วสูง การขนส่งลอจิสติกส์ระบบราง จะทำให้เป็นการติดเขี้ยวเล็บในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประตูสู่อาเซียน

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังบอกว่าถ้าโครงการในหลายประเทศมาร่วมกันทำงานกับไทยอย่างกันใกล้ชิดจะเป็นการเชื่อมโยงภูมิภาคทั้งภูมิภาค อย่างประเทศจีน หรือญี่ปุ่นที่พร้อมจะสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าเครื่องจักรต่างๆ ทุกประเทศตื่นตัวมากที่จะมาช่วยประเทศไทย อย่างประเทศจีน ที่ต้องการจะเพิ่มการสั่งซื้อสินค้าที่ขาดดุลกับเรา นายกรัฐมนตรีจึงมอบภารกิจว่าต่อไปภาคธุรกิจไม่ใช่การขายของถูกแล้วแต่เป็นในเรื่องของ อาหารสะอาด อุตสาหกรรมปลอดภัย และทุกประเทศได้มอบหมายให้ประเทศไทยเป็นฐานใหญ่ที่จะเป็นครัวของโลก ซึ่งรัฐบาลเตรียมการที่จะรื้อฟื้นการผลิตสินค้าเกษตรให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง พร้อมกันนี้จะพัฒนาระบบสินค้า การจัดซื้อสินค้าเกษตรล่วงหน้าด้วย โดยรัฐบาลได้ใช้โอกาสนี้ทำในเรื่องการป้องกันปัญหาโลกร้อน สิ่งแวดล้อมสีเขียว และมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน โดยบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ไปทำเรื่องปลูกป่าเพิ่มเติม

ทั้งนี้ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอความเห็นในที่ประชุม ครม.ว่า เมื่อครั้งที่ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์สึนามิ ประเทศก็เริ่มต้นการฟื้นฟูจากการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นจากนี้ไปหากนายกรัฐมนตรีจะไปประชุมที่ไหนขอให้แจ้งทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาด้วย เพราะทางกระทรวงจะได้จัดให้นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยพบปะผู้ประกอบการ

นายอนุสรณ์แถลงต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระจายแผ่นพับข้อมูล “การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554” จำนวน 9.5 แสนฉบับกระจายให้ทั่วประเทศ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ รัฐสภาให้ ส.ส.นำไปกระจายให้กับพี่น้องประชาชน รัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ไปทำงานฟื้นฟู หรือกระทรวงมหาดไทยผ่านตัวแทนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

นายอนุสรณ์เปิดเผยอีกว่า นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวต่อที่ประชุม ครม.ว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของประเทศไทย เพราะระบบสาธารณสุขของประเทศแม้ไม่ได้เกิดวิกฤติก็ถือว่าเป็นระบบที่ดีติดระดับโลกจนมีหลายประเทศมาดูงาน หากเราไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การไปหาหมอต้องมีการโทรนัดก่อนเป็นเดือน เป็นปี ซึ่งสหรัฐบอกว่าสาธารสุขของไทยมีความน่าเชื่อมั่นมาก และกรมอนามัยที่ดูแลตรวจสอบคุณภาพก็ระบุว่ากระบวนการสาธารณสุขของเราเป็นกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสากล

เกษตรฯ รายงานน้ำท่วมเสียหายกว่า 11 ล้านไร่

ด้าน นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย จนถึงวันที่ 21 พ.ย. ซึ่งมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวมทั้งหมด 68 จังหวัด และยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 21 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ลพบุรี สระบุรีปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษและสุรินทร์

นายชลิตรัตน์กล่าวว่า เกษตรกรได้รับผลกระทบ 1,160,677 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 11.46 ล้านไร่ แบ่งเป็นข้าว 9.37 ล้านไร่ พืชไร่ 1.54 ล้านไร่ พืชสวนและอื่น 0.54 ล้านไร่ ทางด้านการประมงได้รับความเสียหาย 125,055ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์เสียหาย แบ่งเป็นบ่อปลา 2 แสนไร่เศษ บ่อกุ้ง ปู หอย49,000 ไร่เศษ กระชังและบ่อซีเม็นต์ 230,000 ตารางเมตร ด้านปศุสัตว์ได้รับความเสียหาย 219,193 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 29 ล้านตัว สรุปการช่วยเหลือได้ขออนุมัติจากสำนักงบประมาณเกษตรกร จะได้รับวงเงินช่วยเหลือ 7,865 ล้านบาท สำนักงานงบประมาณอนุมัติงบประมาณให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 325,177 ราย เป็นเงิน 7,776,824 ล้านบาท ธ.ก.ส.โอนเงินให้เกษตรกรแล้วเป็นเงิน 4,225,846 ล้านบาท รวมถึงการสนับสนุนเรื่องเครื่องสูบน้ำ ย้ายสัตว์ที่ประสบอุทกภัย และอุปกรณ์ต่างเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร

นายชลิตรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง มีปริมาณน้ำคิดเป็นร้อยละ 92 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าปี 2553 ส่วนการสูบและการระบายน้ำตั้งแต่จนถึงวันที่ 21 พ.ย.สูบได้ 822 ล้านลูกบาศ์เมตร
กำลังโหลดความคิดเห็น