“พระรักเกียรติ” ย้ำ “ทักษิณ” ต้องเข้าตารางก่อนได้รับอภัยโทษ พร้อมหนุนให้ก้มหน้ารับกรรม แม้จะไม่กี่วันก็ตาม หวังทำให้อดีตนายกฯซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เลิกหนุนขบวนการนอกระบบ ยัน ถ้าเดินหน้านิรโทษฯอีก ก็พร้อมออกมาต่อต้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 พ.ย.) พระรักเกียรติ รักขิตธัมโม หรือ นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกฐานทุจริตรับสินบน และถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่อาจมีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรเข้ามารับโทษจำคุกเข้าไปอยู่ในเรือนจำตามคำตัดสินของศาลเสียก่อน และเข้าใจว่า คงไม่ใช้เข้าคุกเพียง 1-2 วัน แต่ควรจะต้องรับโทษช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาจไม่จำเป็นต้องถึง 1 ใน 3 ของโทษทั้งหมดก็ได้
“อาตมาสนับสนุนให้คุณทักษิณกลับมารับโทษก่อน จึงจะเข้าสู่กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกาที่รัฐบาลจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ดีกว่าปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวนอกระบบข้างนอกที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้ง หรืออาจเป็นที่มาของขบวนการล้มเจ้าต่างๆ อีกทั้งหากคุณทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษจริง ก็หวังว่า จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง และอยู่ต่อสู้คดีอื่นๆ ในประเทศตามกระบวนยุติธรรมต่อไป” พระรักเกียรติ ระบุ
พระรักเกียรติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น การออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ถือเป็นเรื่องปกติที่มีการทำในวโรกาสสำคัญๆ อยู่แล้ว ในปีนี้ถือเป็นการอภัยโทษครั้งใหญ่ เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา ทั้งนี้ ในส่วนของหลักเกณฑ์ที่ว่ากันว่ามีการปรับเพื่อให้เอื้อต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เชื่อว่า คงไม่ได้มีการปรับอะไรจากเดิมมากนัก รวมทั้งรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะกำหนดเงื่อนไขโดยว่าจะจำกัดให้ไม่รวมกับผู้กระทำผิดด้านใดด้วย ดังนั้น ที่มีข่าวว่า รัฐบาลตัดเงื่อนไขเกี่ยวกับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และการทุจริตออกนั้น ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะอย่างน้อยที่กำหนดว่าครอบคลุมผู้ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีนั้น ก็เป็นเพียงผู้ที่กระทำผิดไม่ร้ายแรง ถือว่าไม่ได้แก้หลักการอะไร
พระรักเกียรติ ยังยืนยันด้วยว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น เป็นไปตามข้อเสนอที่ตนเคยเรียกร้องมาก่อนหน้านี้ที่ให้เข้ารับการลงโทษตามคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่ปลุกมวลชนหรือล่าชื่อคน 2-3 ล้านคน เพื่อถวายฎีกาขอนิรโทษกรรมโดยหลีกเลี่ยงไม่รับโทษเลยเหมือนที่เคยมีการเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตนยืนยันว่า หากมีการเรียกร้องให้นิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ อีก ก็พร้อมที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านตามที่เคยประกาศไว้