ข้าราชการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขอเป็นผู้อพยพเข้าพักพิงในศูนย์พักพิง เหตุทำลำบากเดินทางมาทำงานไม่ไหว ทำยอดผู้อพยพพุ่ง 4 พันคน พัฒนาสังคมฯ ต้องขอขยายพื้นที่เพิ่ม
วันนี้ (16 พ.ย.) ว่าที่ ร.ต.ศรัณย์ สมานพันธุ์ ผอ.สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงการดูแลประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่เข้าพักอาศัยชั่วคราวในศูนย์พักพิงที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะว่า ภายหลัง พม.ประกาศปิดรับผู้พักพิงภายในอาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีจำนวนเต็มพื้นที่ 2,540 คน แต่ล่าสุดข้าราชการ และพนักงานบริษัทที่ทำงานในย่านแจ้งวัฒนะ หลักสี่ และดอนเมือง มาขอเข้าพักอาศัยเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน
ดังนั้น จึงต้องขยายพื้นที่รองรับเพิ่มเติมโดยใช้บริเวณของศูนย์ราชการ อาคารบี ส่งผลให้ยอดผู้พักพิงเพิ่มขึ้นกว่า 4,000 คน ซึ่งแม้จะมียอดผู้เข้าพักพิงจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่ พม.ยังคงยึดมาตรฐานการดูแลให้เป็นไปตามสุขอนามัยที่ถูกต้อง โดยคำนึงถึงพื้นที่พักต้องไม่แออัดระบบสาธารณูปโภคเช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และพื้นที่กิจกรรมต้องเพียงพอ รวมถึงระบบการดูแลความปลอดภัยที่ได้รับความร่วมมือจากตำรวจนครบาลและหน่วยอรินทราชซึ่งจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรดูแลพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ว่าที่ ร.ต.ศรัณย์กล่าวด้วยว่า การที่ประชาชนจำนวนมากเข้ามาอยู่รวมกันเป็นเวลานาน ดังนั้น นอกจากกิจกรรมสันทนาการเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดแล้ว พม.ยังมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงทุกด้านของประชาชน โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทให้ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนเหล่านี้สามารถมีกำลังใจกลับไปต่อสู้ชีวิตได้อีกครั้ง เมื่อต้องกลับไปยังภูมิลำเนาของตัวเอง เช่น การฝึกอาชีพโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และการเปิดตลาดนัดแรงงานเพื่อรับสมัครผู้ประสบภัยที่ต้องการงานทำ
ทั้งนี้ แม้หน่วยงานราชการจะเปิดทำการตามปกติแล้ว แต่ศูนย์พักพิงฯ ยังไม่มีกำหนดการที่จะปิดบริการประชาชน เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนไปจนกว่าจะไม่มีประชาชนตกค้างอยู่ ซึ่งในส่วนของความช่วยเหลือที่ยังต้องการให้สนับสนุนเพิ่มเติม คือ พาหนะในการเดินทาง เบื้องต้นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้อนุเคราะห์รถประจำทางสาย 166 เข้ามาประจำการที่ศูนย์พักพิงเพื่อใช้ในภารกิจของศูนย์และอำนวยความสะดวกประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกจากศูนย์ฯ ฟรีตลอดสาย
วันนี้ (16 พ.ย.) ว่าที่ ร.ต.ศรัณย์ สมานพันธุ์ ผอ.สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงการดูแลประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่เข้าพักอาศัยชั่วคราวในศูนย์พักพิงที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะว่า ภายหลัง พม.ประกาศปิดรับผู้พักพิงภายในอาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีจำนวนเต็มพื้นที่ 2,540 คน แต่ล่าสุดข้าราชการ และพนักงานบริษัทที่ทำงานในย่านแจ้งวัฒนะ หลักสี่ และดอนเมือง มาขอเข้าพักอาศัยเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน
ดังนั้น จึงต้องขยายพื้นที่รองรับเพิ่มเติมโดยใช้บริเวณของศูนย์ราชการ อาคารบี ส่งผลให้ยอดผู้พักพิงเพิ่มขึ้นกว่า 4,000 คน ซึ่งแม้จะมียอดผู้เข้าพักพิงจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่ พม.ยังคงยึดมาตรฐานการดูแลให้เป็นไปตามสุขอนามัยที่ถูกต้อง โดยคำนึงถึงพื้นที่พักต้องไม่แออัดระบบสาธารณูปโภคเช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และพื้นที่กิจกรรมต้องเพียงพอ รวมถึงระบบการดูแลความปลอดภัยที่ได้รับความร่วมมือจากตำรวจนครบาลและหน่วยอรินทราชซึ่งจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรดูแลพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ว่าที่ ร.ต.ศรัณย์กล่าวด้วยว่า การที่ประชาชนจำนวนมากเข้ามาอยู่รวมกันเป็นเวลานาน ดังนั้น นอกจากกิจกรรมสันทนาการเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดแล้ว พม.ยังมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงทุกด้านของประชาชน โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทให้ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนเหล่านี้สามารถมีกำลังใจกลับไปต่อสู้ชีวิตได้อีกครั้ง เมื่อต้องกลับไปยังภูมิลำเนาของตัวเอง เช่น การฝึกอาชีพโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และการเปิดตลาดนัดแรงงานเพื่อรับสมัครผู้ประสบภัยที่ต้องการงานทำ
ทั้งนี้ แม้หน่วยงานราชการจะเปิดทำการตามปกติแล้ว แต่ศูนย์พักพิงฯ ยังไม่มีกำหนดการที่จะปิดบริการประชาชน เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนไปจนกว่าจะไม่มีประชาชนตกค้างอยู่ ซึ่งในส่วนของความช่วยเหลือที่ยังต้องการให้สนับสนุนเพิ่มเติม คือ พาหนะในการเดินทาง เบื้องต้นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้อนุเคราะห์รถประจำทางสาย 166 เข้ามาประจำการที่ศูนย์พักพิงเพื่อใช้ในภารกิจของศูนย์และอำนวยความสะดวกประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกจากศูนย์ฯ ฟรีตลอดสาย