“ศปภ.” ตัดช่องเอาตัวรอด อ้างเขตม๊อบรื้อบิ๊กแบ็กอยู่ในความรับผิดชอบของ กทม. โยน “สุขุมพันธุ์” แก้ปัญหาก่อนน้ำทะลักเข้า กทม.ชั้นใน ด้านผู้ว่าฯ อึ้ง! สั่งมาตอน 4 ทุ่ม แต่พร้อมทำตามคำสั่งเรียกทีมงานถกด่วน พร้อมตัดสินใจใน 10 นาที สั่งนครบาลเข้าดูแลความเรียบร้อยสกัดคนทำลายแนวบิ๊กแบ็กด่วน ก่อนตัดพ้อจะมีคำสั่งอะไรขอให้แจ้งล่วงหน้า สั่งยามวิกาลเตรียมตัวไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก กทม.ทำหนังสือคัดค้านการเอาบิ๊กแบ็กออกเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 พ.ย. ต่อมาเมื่อเวลา 22.13 น. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ทำหนังสือฉบับที่ 299/2554 ตอบกลับมายัง กทม. ความว่า “ด้วยได้รับข่าวสารว่าจะมีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มีบ้านพักอยู่บริเวณสนามบินดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จะเข้าทำการรื้อถอนกระสอบทราย ที่กั้นน้ำอยู่ ณ บริเวณวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะเป็นเหตุให้มวลน้ำจากด้านทิศเหนือไหลบ่าเข้ากรุงเทพฯชั้นใน ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บริเวณดังกล่าวเป็นเขตรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร จึงให้ท่านได้ดำเนินการยับยั้งการกระทำดังกล่าวโดยรีบด่วนที่สุด มิฉะนั้นแล้วจะเกิดความเสียหายแก่กรุงเทพมหานครชั้นใน ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ ด้วยคำสั่งด่วนลงมาดังกล่าว ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องเรียกทีมงานประชุมด่วน โดยใช้เวลาในการตัดสินใจประมาณ 10 นาที จึงมีคำสั่งกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 4266/2554 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 37 วรรคสอง ประกอบมาตรา 21 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 สังการให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปทำลายแนวบิ๊กแบ็กกั้นน้ำ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของ กทม. และจากหน่วยงานอื่นที่จะเข้าไปซ่อมแซมกระสอบทรายโดยด่วนที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างการแถลงข่าว ผู้ว่าฯ กทม.ได้ตัดพ้อไปยัง ศปภ.ว่า เรื่องสำคัญอย่างนี้ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่ใช่ส่งหนังสือมาในยามวิกาล เคราะห์ดีที่ตนเข้าใจชีวิต มิฉะนั้นคงขัดคำสั่ง คราวหน้าขอให้ประสานงานในเวลาที่ศิวิไลซ์กว่านี้ เพราะปัญหาดังกล่าวนั้นรู้มานานแล้วว่าจะเกิดเรื่องขึ้น แต่ทาง ศปภ.กลับประสานงานมาถึง กทม.ในเวลา 4 ทุ่ม ซึ่งเราก็จะทำหน้าที่ต่อไปตามกฎหมาย ตามที่ ศปภ.สั่งมา เหตุการณ์นี้คงไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมืองอะไร แต่ตนมองว่าเขาคงลืมดูนาฬิกา
