น้ำประชิด ศปภ.-โยน “ปู” ชี้ขาดย้ายกลับดอนเมืองหรือไม่

เจ้าหน้าที่เร่งเสริมหินคลุกเชื่อมทางลงดอนเมืองโทลล์เวย์เข้าอาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ ที่ตั้ง ศปภ. หลังน้ำถนนวิภาวดีเคลื่อนประชิดห้าแยกลาดพร้าว “สุกำพล”เร่งกู้สนามบินดอนเมือง สูบน้ำออกคลองรังสิต โยนนายกฯ ตัดสินใจย้าย ศปภ.กลับหรือไม่

ช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) น้ำที่ท่วมบนถนนวิภาวดีรังสิตได้เคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ชั้นในกรุงเทมหานคร โดยล่าสุดฝั่งขาเข้าถึงหน้า สน.วิภาวดี ขณะที่ฝั่งขาออกอยู่บริเวณวัดเสมียนนารี ขณะที่คลองระบายน้ำตลอดเส้นทางน้ำได้เริ่มเอ่อเข้าใกล้ 5 แยกลาดพร้าว

สำหรับบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ด้านหน้ากระทรวงพลังงานซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้มีการนำหินคลุกมาเสริมผิวการจราจรติดทางลงจากทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์เข้าสู่อาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน โดย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทาง ศปภ.ได้ประชุมหารือกันและเห็นชอบที่จะทำทางเชื่อมเข้ามายัง ศปภ. ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้เร่งดำเนินการทำทางเชื่อมเข้ามายังกระทรวงพลังงานแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่จะต้องเดินทางมาปฏิบัติงานใน ศปภ. หากจะมีน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง โดยเส้นทางเชื่อมจะมีความสูง 1.5 เมตร และจะต้องทำก่อนที่น้ำจะท่วมมาถึงบริเวณนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในคืนนี้

พล.อ.อ.สุกำพลยังกล่าวถึงกรณีการกู้ท่าอากาศยานดอนเมืองว่า ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยจะมีการสูบน้ำออกไปทางคลองรังสิต ซึ่งหากสูบน้ำที่ดอนเมืองได้สำเร็จจะย้าย ศปภ.ไปที่ตั้งเดิมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีการซ่อมแซมประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ขณะนี้ จะเร่งอุดช่องว่างวางแนวคันกั้นน้ำ โดยใช้กระสอบทรายยักษ์ หรือบิ๊กแบ็ก ซึ่งหากได้ผลจะทำให้ลดปริมาณน้ำที่จะเข้ามายังถนนวิภาวดีรังสิตและดอนเมืองได้

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทหารจากองทัพเรือได้นำกระสอบทรายมาวางเสริมบริเวณรอบนอกของกระทรวงพลังงาน จนถึงสำนักงาน ปตท.ทั้งหมด โดยวางกระสอบ 4 ชั้น ซึ่งกำแพงโดยรอบสูงกว่าพื้นถนนวิภาวดี 2 เมตร ซึ่งเป็นการป้องกัน 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่น้ำในคลองระบายน้ำตลอดอดเส้นวิภาวดี โดยเฉพาะบริเวณหน้ากระทรวงพลังงานมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและมีการเร่งสูบน้ำโดยสำนักระบายน้ำวิภาวดีรังสิต