อธิบดีทางหลวงเผยระดมสรรพกำลังกู้ถนนสาย 340 เชื่ออีกสองวันซ่อมเสร็จแน่ ขณะที่เส้นทางพระราม 2 ยังรอคำสั่งให้รักษาถนนหรือปล่อยให้เป็นทางน้ำผ่านลงแก้มลิงมหาชัย เชื่อหากท่วมก็ไม่นาน ชี้พื้นที่ต่ำ ใกล้ทะเล มั่นใจไหลลงทะเลเร็ว ส่วนแนวคิดกู้ถนนเพชรเกษมแทนไม่มีปัญหา แต่ต้องคุยชาวบ้านก่อนหลังต้องรับน้ำอีกนาน
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งกู้ถนนสาย 340 อย่างเต็มที่ แต่ยังมีบางจุดที่น้ำท่วมขังอยู่บ้าง อาทิ ถนนกาญจนาภิเษก บริเวณสมบัติบุรี บางบัวทอง ที่กรมทางหลวงสามารถดำเนินการเริ่มเรียงกระสอบทรายครบหมดแล้ว ซึ่งจุดดังกล่าว ถือว่าสำคัญที่สุดเพราะเป็นทางแยกไปถนนสาย 340 ส่วนอีกจุดหนึ่งคือ บริเวณถนนสาย 340 ก่อนเข้า จ.สุพรรณบุรี แล้วแยกไปทาง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อลงถนนมาลัยแมน ลงไปยังภาคใต้ ยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 45 ซม. อยู่ที่ประมาณ 20 กม. โดยกรมทางหลวงเร่งนำสรรพกำลังทั้งหมด ทั้งระดมยางมะตอยจากทั่วประเทศ และเร่งเสริมทรายลงจุดที่เป็นท่อแซนด์แบริเออร์ก็เรียงเสร็จแล้ว ขณะที่เครื่องสูบน้ำก็ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาอยู่บ้างคือเมื่อรถใหญ่วิ่ง จะเกิดคลื่นขนาดใหญ่ ส่งผลกระเทือนต่อท่อใส่ทรายที่เราวางไว้ทำให้ล้มได้ ยังไงก็แล้วแต่ คาดว่าภายในวันอังคารนี้ (15 พ.ย.) น่าจะเสร็จเรียบร้อย
ส่วนการป้องกันน้ำท่วมบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 นั้น อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า แขวงการทางธนบุรี และแขวงการทางสมุทรสาคร ยังเฝ้าระวังอยู่ โดยจุดที่เฝ้าระวัง คือ บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ก่อนเข้าต่างระดับสาย 9 หรือบริเวณหน้าบิ๊กซี และบริเวณ กม.ที่15 ไปจนถึง กม.ที่ 19 ซึ่งอยู่ระหว่างนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ไปถึงสะพานข้ามทางรถไฟ ที่เป็นจุดที่ต่ำที่สุด แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าน้ำจากเพชรเกษมจะไหลมา ก่อนหน้านี้กรมทางหลวงเคยคิดว่าจะป้องกันไว้ก่อน ด้วยการนำแซนด์แบริเออร์ไปวาง และเอาทรายจากราชบุรีมาลงไว้ได้ทันที แต่ในทางกลับกัน หากเราป้องกันถนนพระราม 2 เพียงอย่างเดียว ก็จะขวางทางน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลผ่านไปลงอ่าวไทยด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ ต้องถามไปยังฝ่ายป้องกันและฝ่ายนโยบายว่าต้องการให้น้ำผ่านถนนพระราม 2 ลงไปที่แก้มลิงมหาชัยหรือว่าต้องการรักษาถนนพระราม 2 ไว้ ซึ่งกรมทางหลวงยังรอนโยบายในเรื่องนี้อยู่
“ผมคิดว่าหากน้ำท่วมถนนพระราม 2 จริง คงจะไม่อยู่นาน เนื่องจากพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ต่ำ และอยู่ติดทะเล ซึ่งจะทำให้น้ำไหลได้เร็ว ส่วนข้อเสนอของ กทม.ที่ให้ล้มแบริเออร์ หรือขอบถนน เพื่อให้น้ำผ่านไปนั้น กรมทางหลวงก็สามารถสั่งให้ล้มได้ทันที ในเวลาเพียง 1 หรือ 2 ชม.เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผมจะไม่สั่งให้ล้มจนกว่าน้ำจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ หรือให้น้ำไหลผ่านแล้วเห็นผลจริง” นายวันชัยกล่าว
ขณะที่แนวคิดที่จะให้กู้ถนนสายเพชรเกษม เพื่อเข้าสู่ จ.นครปฐม เพื่อใช้แทน ถ.สายพระราม 2 นั้น นายวันชัยกล่าวว่า หากจะกู้ถนนเพชรเกษมจริง ก็หมายความว่าประชาชนที่อยู่ริมข้างทางต้องรับน้ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง และรอให้น้ำไหลลงคลองเพียงอย่างเดียว ซึ่งเขาอาจจะไม่ยอม แต่ถ้าให้กรมทางหลวงกู้ถนนคืนนั้น เราพร้อมเสมอ เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในบริเวณนั้นให้เรียบร้อยก่อน เพราะมิเช่นนั้น ประชาชนในหมู่บ้านแถบนั้นจะต้องลำบากต่อไปอีกนานนับเดือนอย่างแน่นอน
นายวันชัยยังได้เปิดเผยถึงความเสียหายของถนนสายเอเชีย ภายหลังน้ำเริ่มลดในหลายจุดว่า ไม่น่าจะมีความเสียหายมากเท่าใดนัก หากพิจารณจากวัสดุก่อสร้างและความแข็งแรงของถนน หากน้ำไหลลงไปจนหมด และถ้าไม่มีรถใหญ่ไปกระแทกผิวถนนถี่ๆ ก็คงไม่มีความเสียหายมากนัก อาจมีแค่ปูผิวถนนใหม่อย่างเดียว
