“ยิ่งลักษณ์” แจงสภา ไม่มีใครคาดคิด ก.ย.-ต.ค. มรสุมจะเข้าไทยหลายลูก ทำให้เขื่อนเต็ม รับไม่เชี่ยวชาญด้านน้ำ แต่ไม่เคยนิ่งนอนใจ ประสานผู้เชี่ยวชาญหาข้อสรุปร่วมกันในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด
วันที่ 12 พ.ย. เวลาประมาณ 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมรัฐสภาเพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงว่า สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในวันที่เข้ามารับตำแหน่งหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 13 จังหวัด และ ปลายเดือนก็ขยายเป็น 33 จังหวัด ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่า เดือน ก.ย.-ต.ค. พบกับมรสุม 3 ลูก ไห่ถาง เนสาด นาลแก รวมกับร่องความกดอากาศในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างกลางตอนบนในให้น้ำเข้ามามากและ เกินขีดความสามารถระบบเขื่อนรองรับ อย่างไม่มีใครคาดคิด และเป็นมหาอุทกภัยที่เกิดกับประเทศไทย
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ผ่านมาสองเดือนรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการแกัไขปัญหา ซึ่งแม้ตนเองจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญการบริหารจัดการน้ำ แต่ก็เป็นคนกลางประสานผู้เชี่ยวชาญมาหารือ หาข้อสรุปร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งมีทางออกร่วมกัน ทั้งการให้กรมชลประทานชะลอการระบายน้ำท้ายเขื่อน การผันน้ำค้างทุ่ง ออกทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก สร้างคันกั้นน้ำ หรือบิ๊กแบ็ก หยุดน้ำเข้าภายในพื้นที่ กทม. หรือเร่งซ่อมอุดรอยแตกแยกคันกั้นน้ำในพระราชดำริ
นายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า นอกจากนี้ปัญหาต่างๆ ที่เราต้องทำงานร่วมกัน ต้องนำบทเรียนประสบการณ์ไปประมวลผลหาทางแก้ไข ซึ่งที่ผ่านมาข้อมูลหลายอย่างยังไม่ตรงกัน ทั้งข้อมูลของกรมชลประทาน กทม. กรมอุทกศาสตร์ แผนที่ดาวเทียม ซึ่งในอนาคต ต้องปรับให้เกิดความเอกภาพ ให้เกิดประโยชน์ในภาวะวิกฤต รวมไปถึงปัญหาเทคนิค ทั้งเรื่องความไม่พร้อมเครื่องจักร การปล่อยปละให้เกิดสิ่งก่อสร้างกีขวางแนวคลองซึ่งจากนี้ต้องตรวจตราให้แน่ใจว่าไม่อุปสรรคการไหลลงทะเล ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาทุกข์ยากของประเทศชาติ
ส่วนการฟื้นฟูเยียวยาก็จะขอคำแนะนำ ความร่วมมือจากสมาชิก ร่วมกันฟื้นฟูเยียวยา จากที่รัฐบาลได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ฟื้นฟูประเทศ จึงเรียนสมาชิกว่า เป็นปัญหาเป็นความทุกข์ยากของประชาชน การทำอย่างไรให้ความเป็นอยู่ของประชาชนกลับมาคืนมา จึงเป็นที่มาของการขอความเห็นของสมาชิกเพื่อกำหนดในการช่วยเหลือประชาชน