xs
xsm
sm
md
lg

ทุกอย่างมันอยู่ที่ผู้นำ-กรรมการอีกร้อยชุดก็ไร้ความหมาย !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ และชุดรองขึ้นมาอีกอย่างน้อยสองชุด นั่นคือคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.)ที่มี วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ(กยน.) มี กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และเพื่อเพิ่มเครดิตน่าเชื่อถือก็ตั้ง สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นที่ปรึกษา

นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการที่แต่งตั้งไปก่อนหน้านี้อีกหลายชุด เช่น ชุดฟื้นฟูเยียวยา ชุดบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างฟื้นฐาน ชุดต่อมาเป็นชุดฟื้นฟูเยียวยาด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ชุดเยียวยาดูแลคุณภาพชีวิต และ ชุดดูแลความปลอดภัย ซึ่งก็มี ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กิตติรัตน์ ณ ระนอง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานตามลำดับ

นี่ยังไม่นับตัวประธาน และกรรมการที่เข้าไปมีชื่อซ้ำซ้อนอยู่ในคณะกรรมการชุดอื่นโยกไปโยกมาไขว้กันแบบใยแมงมุมจนเวียนหัว มีมากมายจนไม่รู้ว่ากี่ชุดต่อกี่ชุด และเชื่อเหลือเกินว่า นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ลงนามแต่งตั้งจะ “ท่องจำ”ได้หรือเปล่า

อย่างไรก็ดีในคำแถลงของทั้ง นายกรัฐมนตรี และตัวประธานยุทธศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ก็ไม่ได้พูดถึงจำนวนงบประมาณว่าจะต้องใช้จำนวนเท่าไหร่กันแน่ รวมทั้งจะหาเงินมาสำหรับยุทธศาสตร์สร้างอนาคตประเทศครั้งนี้จำนวนมากกี่แสนล้านกันแน่ เพียงแต่ได้ฟังคำพูดของ วีรพงษ์ ที่ย้ำว่าจะใช้งบประมาณจำนวนมากเท่าไรก็ต้องยอม โดยใช้เวลาในการดำเนินการ “สร้างอนาคตประเทศ” ตั้งแต่ 1ปี และให้สำเร็จภายใน 5 ปี

ขณะเดียวกันก่อนจะพิจารณากันในภาพรวมก็ต้องมาตรวจสอบรายชื่อคณะกรรมการทั้งหมด ดังนี้ 1.วีรพงษ์ รามางกูร 2.นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี 3.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองประธานกรรมการ ส่วน กรรมการประกอบด้วย 4.นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รมว.คลัง 5.นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ 6.นายกิจจา ผลภาษี 7.นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ 8.นายวิษณุ เครืองาม 9.นายศุภวุฒิ สายเชื้อ 10.เลขาธิการนายกรัฐมนตรี 11.ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 12.ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 13.ประธานสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย 14.เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 15.เลขาธิการคณะ รัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ

ที่ต้องโฟกัสไปที่คณะกรรมการชุดนี้ เนื่องจากเป็นกรรมการที่ประกาศว่าต้องการวางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างอนาคตประเทศ และเมื่อไล่เรียงพิจารณารายชื่อแต่ละคนก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะล้วนแล้วแต่คนกันเอง คุ้นเคยกันในระบอบทักษิณ แทบทั้งสิ้น บางคนแทบจะกลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน นึกอะไรไม่ออกก็ต้องไปคว้าคนพวกนี้เอาไว้ก่อน ซึ่งก็รวมถึง วีรพงษ์ พันศักดิ์ รวมไปถึง วิษณุ เครืองาม เป็นต้น

เมื่อเห็นรายชื่อครบถ้วนแล้วรวมไปถึงการประกาศแนวทางยุทธศาสตร์ มันก็ยิ่งพอมองเห็นแววแล้วว่าน่าจะเป็นแค่ “เปลือก” หรือ “แก่น” แนวโน้มจึงต้องออกมาในลักษณะการสร้างภาพ โรดโชว์ เสียมากกว่า

อย่างไรก็ดีความหมายก็คือไม่ว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกกี่ชุดก็ตาม ทุกอย่างมันก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้นำว่าสามารถสร้างสรรค์ผลงาน เป็นที่พึ่งที่หวังของชาวบ้านได้แค่ไหน และที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์ได้อย่างดีว่าเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันการตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ขึ้นมาเพื่อสร้างอนาคตประเทศพร้อมประกาศว่าจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมานั้นมันก็เกิดคำถามสวนขึ้นมาทันทีว่าชาวบ้านจะสามารถฝากอนาคตเอาไว้กับคนพวกนี้ได้หรือ และที่สำคัญไม่ได้มีภาคประชาชน ไม่มีส่วนร่วมจากภายนอก เพราะมีแต่คนกันเองครื้นเครงกันเองเท่านั้น

ขณะเดียวกันการประกาศตั้งสารพัดคณะกรรมการ โดยส่วนใหญ่เน้นไปที่การแก้ปัญหาในระยะกลางระยะยาวเป็นหลัก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่มีใครขัดคอ เพราะมองว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาฉับไวรองรับอนาคตได้อย่างทันใจ แต่ขณะเดียวกันเวลานี้สิ่งที่ชาวบ้านกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกันแบบเฉพาะหน้า เพราะชาวบ้านกำลังแช่น้ำ ยังไม่รู้อนาคตว่าน้ำจะลดลงเมื่อไหร่กันแน่ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่รัฐบาลจะต้องเข้ามาดูแลแก้ไขเยียวยา บรรเทาความทุกข์ร้อนเฉพาะหน้าให้ได้เสียก่อน เพราะหากไม่สามารถแก้ไขได้ หรือมีความล้มเหลวแล้ว ก็อย่าไปพูดถึงการวางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างอนาคตเลย เพราะเสียเวลาและเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์

ที่สำคัญไม่ว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกกี่ร้อยชุดก็ตาม มันก็ไร้ความหมายถ้าผู้นำสูงสุดคือ นายกรัฐมนตรีไร้กึ๋นไร้ความสามารถ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ไม่เอาไหน” จริงๆ
  วีรพงษ์ รามางกูร
กำลังโหลดความคิดเห็น