“มาร์ค” เสนอ ทอนงบกลาง 1.2 แสนล.แจงรายละเอียดในชั้น กมธ.รับ ไม่เชื่อมือ “ปู” คุมงบกว่า 1 แสนล.ห่วง เงินรั่วไหล-ไม่โปร่งใส ยัน สมัย ปชป.เป็นรัฐบาลไม่เคยมีงบผี อัดกลับรัฐตั้งงบลอยรอโครงการสวม หนีการตรวจสอบของรัฐสภา พร้อมเบรกไม่ซักฟอกสมัยประชุมนี้ เหตุ เปิดทางรัฐแก้วิกฤตน้ำท่วมเพื่อบ้านเมืองก่อน การเมืองไว้ทีหลัง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ให้สัมภาษณ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภา ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ว่า ในขณะนี้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบ ปี 2555 ทั้งในเรื่องการประมาณการเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาน้ำท่วม ที่จะกระทบการจัดเก็บรายได้
ทั้งนี้ เห็นว่า การจัดงบประมาณยังทำในลักษณะเหมือนงบปกติ จึงต้องทบทวนหลายอย่าง ที่สำคัญยอดงบประมาณที่ใช้ในงบน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท โดยไม่มีการตวจสอบจากสภา แต่จัดไว้ในงบกลางนั้น ฝ่ายค้านกังวลเรื่องความโปร่งใส ปัญหาเรื่องการจัดลำดับความสำคัญของโครงการและกฎระเบียบ เพราะการใช้งบกลางจะไม่เหมือนกับการมีงบประมาณของหน่วยงานที่รับผิดชอบตามปกติ ทั้งเรื่องการก่องบผูกพัน และการอนุมัติใช้งบประมาณซึ่งอยู่ในอำนาจของนายกฯ ดังนั้น ตนจะเสนอว่าในขั้นของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ควรมีการทอนงบตัวนี้ออกมา น่าจะมีรายละเอียดที่รัฐบาลสามารถให้รัฐสภาได้ว่าจะแบ่งเงินยอดนี้อย่างไร ส่วนไหนเป็นเงินชดเชยเยียวยา ส่วนไหนเป็นเงินโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละหน่วยงาน ต้องจำแนกรายละเอียดออกมา
ส่วนเงินที่จ่ายประชานตามหักเกณฑ์ เช่น ครัวเรือนละ 5,000 บาท หรือเงินช่วยเหลือเกษตรกรไม่มีปัญหา แต่งบที่จะซ่อมถนน โรงเรียน โรงพยาบาล หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำควรมีการตรวจสอบมากกว่าจะยกเป็นอำนาจของนายกฯ คนเดียว
“ผมยอมรับไม่มีความมั่นใจในการบริหารงบกลางซึ่งเป็นอำนาจของนายกฯ ถือเป็นเรื่องที่น่าห่วงเพราะเรากำลงพูดถึงเงินที่จะใช้ในเวลา 7-8 เดือนเท่านั้น ซึ่งการจัดงบกลางของรัฐบาลนี้แตกต่างจากรัฐบาลประชาธิปัตย์ เราไม่เคยจัดงบผีเหมือนที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาแต่จัดงบปกติ และคราวนี้งบกลางสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนรัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นการตั้งงบสำรองฉุกเฉินที่ทำกันมาตลอด แต่ 1.2 แสนล้านของรัฐบาลเหมือนตั้งลอยๆ ที่สุดก็จะกลายเป็นโครงการ ซึ่งรัฐบาลของผมไม่มีงบกลางอย่างนั้น แต่ให้ทุกหน่วยงานสำรวจรายละเอียดถึงขั้นให้มีการถ่ายภาพสถานที่ที่จะฟื้นฟูให้ ส.ส.ตรวจสอบ และการบริหารของบริจาคของ ศปภ.ก็จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะอภิปรายด้วย”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า จะไม่มีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ เพราะเห็นว่าจะต้องช่วยกันนำชาติผ่านสถานการณ์นี้ให้ได้ก่อน ไม่ได้มองว่าฝ่ายค้านจะเสียโอกาสทางการเมืองที่ไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมนี้ เพราะสมัยหน้าเป็นสมัยนิติบัญญัติไม่สามารถอภิปรายไม่ไววางใจได้ โดยพรรคมองปัญหาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง การสร้างประเด็นการเมืองขึ้นมาอีกเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
