xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ชำแหละ “ทักษิณ-พวก” ตัวการแก้ผังเมืองขวางทางน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ชำแหละตัวการกว้านซื้อที่ดินขวางทางน้ำด้านตะวันออก ล้วนแต่เป็นกลุ่มทุนสนิท “ทักษิณ” อย่าง “วิชาญ” วิ่งเต้นแก้ผังเมือง จนมีที่เป็นพันไร่ โดยมี “วิษณุ” ช่วยให้เรื่องผ่านฉลุย อีกทั้งอดีตนายกฯ เองก็เคยถึงขั้นจะให้ผุดนครสุวรรณภูมิ เลยเปลี่ยนฟลัดเวย์เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเพียบ พร้อมระบุ “ปลอดประสพ” เคยให้สัมภาษณ์เองว่าตัดสินใจพลาดเรื่องเขื่อน จี้ต้องสอบให้ชัดเอาคนผิดมาลงโทษ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนเคาะข่าว”  

วันนี้ 7 พ.ย. เมื่อเวลา 20.30 น. ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถ้าเราตัดเรื่องภัยพิบัติทิ้ง มันพิสูจน์ชัดว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ควรจะมีอุตสาหกรรมเป็นฐาน ประเทศไทยควรจะเป็นประเทศที่มีเกษตรกรรมเป็นฐาน อันนั้นเขามองในลักษณะที่เป็นภาพรวม

แต่ถ้ามองในแง่ของการบริหารจัดการแล้ว ตนต้องพูดว่าตราบใดถ้าเรายังมีนักการเมือง พรรคการเมือง การแก้ปัญหาวิกฤตของชาติ ไม่สามารถทำงานโดยเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้งได้

ภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ บอกให้เรารู้ว่า ประเทศไทยมันสโลปลง จุดต่ำที่สุดของประเทศไทย คือ สมุทรปราการ หรือกรุงเทพฯ นั้นต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เพราะฉะนั้น เมื่อมันสโลป เวลาฝนตกน้ำ เหมือนชั้นใต้ดิน ประกอบกับความอวดดีของคนไทย โดยไม่คำนึงถึงประวัติศาสตร์ ไม่คำนึงถึงภูมิศาสตร์ ไม่คำนึงถึงเรื่องอะไร ทีนี้พอมาเจอการบริหารจัดการที่นักการเมืองมาบริหารจัดการ ที่พังทลายทุกวันนี้ก็เพราะว่านักการเมืองเล่นการเมือง เอาการเมืองมาเล่นกับน้ำ แล้วก็เล่นการเมืองซึ่งกันและกัน โดยจับประชาชนเป็นตัวประกัน นั่นคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดขณะนี้

นายสนธิกล่าวต่อว่า ที่ตนกลัวมากอีกเรื่องหนึ่ง คือ สึนามิขนาดยักษ์ เพราะถ้าไปดูข่าวย้อนหลังในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา จะเห็นภาวะการณ์แผ่นดินไหวย่านอินโดนีเซียนี่ไม่หยุดเลย ประเดี๋ยว 6 ริกเตอร์ 5.2 ริกเตอร์ คือย่านอินโดนีเซียที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสึนามิครั้งที่แล้วมันกำลังเริ่มขยับกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นมันเหมือนบ้านที่โครงสร้างไม่ดี พอมันยืด โยกไป 2-3 ที เดี๋ยวโยกมาอีกแล้ว พอโครงสร้างจะพังมันก็โยกมากขึ้น ความถี่การโยกก็มากขึ้น

ลักษณะแผ่นดินไหวของอินโดฯ นี่ ความถี่ของจำนวนที่ไหว และปริมาณริกเตอร์ เฉลี่ยแล้วสูงกว่า 5 หมด แต่ไม่ถึง 7 แต่ว่าก็คล้ายๆ กับว่าโครงสร้างกำลังจะพังแล้ว ตนยังกลัวว่าแผ่นดินจะแยกอีกครั้งหนึ่งในใต้ทะเล แถวอินโดนีเซีย แล้วจะเกิดสึนามิที่ใหญ่ยิ่งกว่าสมัยที่เกิดกับภูเก็ตสมัยนั้น และค่อนข้างที่จะมั่นใจว่ามันจะต้องเกิดแน่นอน

อย่างอยู่คอนโดฯ ชั้นสูงๆ สมัยก่อน 6 เดือนสั่นที สมัยนี้ ปีที่แล้วสั่นเดือนละครั้ง เดี๋ยวนี้เดือนละ 3 ครั้ง มันแปลว่าอะไร บางสิ่งบางอย่างมันกำลังจะเกิดขึ้น

อีกเรื่องซึ่งเป็นห่วง คือ ความโลภของคน และความไม่รู้จักพอ ต้องตำหนินักอุตสาหกรรมและรัฐบาล กลุ่มคนพวกนี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัว อุตสาหกรรมไม่ควรจะอยู่ในอยุธยา หรืออุตสาหกรรมบางชัน ก็อยู่ลาดกระบังไม่ได้ เพราะลาดกระบังคือฟลัดเวย์ เป็นที่ที่น้ำจะต้องผ่าน แต่ความโลภของคน มีความรู้สึกว่าที่มันถูก น้ำท่วมไม่เป็นไรก็ทำทางกั้นน้ำ แต่เขาไม่ได้นึกว่า ความร้ายแรงของน้ำท่วมจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนี้จะทำให้มันรุนแรง และถี่มากกว่า

แล้วมาเจอความโง่เขลา ไม่มีสติปัญญาของผู้บริหารชาติที่เป็นนักการเมือง ก็เลยทำให้พังพินาศฉิบหายไป ฉะนั้นแล้วอุตสาหกรรมตรงนี้ต้องเปลี่ยนแนวความคิดใหม่

นายสนธิกล่าวอีกว่า คิดว่าประเทศไทยเพี้ยนหรือไม่ ที่ดอน คือดอนเมืองน้ำท่วม แต่ที่หนอง คือหนองงูเห่า กลับไม่มีน้ำ มันกลับตาลปัตร เพราะเป็นการบริหารจัดการที่ผิด เราไม่มีทางห้ามน้ำได้ พวกนี้นอกจากโง่เขลาเบาปัญญาแล้วยังอวดดี ยะโสโอหัง

ตนคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว น่าจะทรงแนะนำให้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงนั้นควรจะแก้อย่างไร คิดว่าเดาไม่ผิด พระองค์ท่านแนะปัญหาเมื่อปี 2538 ปัญหายังเหมือนเดิม ตนยังไม่เข้าใจจนวันนี้ว่าทำไมฝั่งตะวันออกยังแห้ง ตอบมาสิ ทำไมน้ำถูกผันมาฝั่งตะวันตก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจะเล่นการเมือง หรือต้องการจะเซฟกรุงเทพฯ แต่คุณเซฟกรุงเทพฯ แล้วให้คนฝั่งธนฯ ฝั่งตะวันตกต้องจมน้ำกันทั้งเมืองเลยได้อย่างไร

นายสนธิกล่าวอีกว่า เบื้องหลังสนามบินสุวรรณภูมินี่ต้องให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจ มันเกิดขึ้นเพราะความโง่ของคนไทยที่ไปเชื่อฝรั่ง เพราะฝรั่งมันก็โง่ เพราะมันรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สมัยจอมพลถนอม จอมพลประภาส มีความคิดว่าต้องสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ขึ้นมา หมอนี่เก่งในเรื่องของสนามบิน ก็ขอขึ้นเครื่องบินดูกรุงเทพมหานคร ดูไปดูมา ฝั่งตะวันออกมันว่างนี่หว่า แล้วถ้าสร้างตรงฝั่งตะวันออกมันห่างจากกรุงเทพฯ 30 กิโลฯ มันเพอร์เฟกต์ สมบูรณ์แบบมาก ก็เอามาเสนอว่าต้องอยู่ตรงนี้ แต่ว่าฝรั่งมันขาดความรู้ทางประวัติศาสตร์เมืองไทย ว่านี่คือทางน้ำ

ทุกคนก็บอกว่าไม่ได้ เดี๋ยวมันจะท่วมสุวรรณภูมิ สำหรับตนแล้ว ถ้ามันจะต้องท่วมสุวรรณภูมิ แล้วให้น้ำฝั่งธนฯ แห้ง แล้วกลับไปใช้ดอนเมือง ยังคุ้มกว่าที่จะมาปกป้องสุวรรณภูมิ แล้วให้กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลาง เมืองหลวง ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ตลอดจนธนบุรี พังพินาศฉิบหายไป

แล้วอีกประการหนึ่ง ที่พวกนี้สมัยก่อนพื้นที่ทางการเกษตรเพื่อรองรับน้ำ ดูสิมีบ้านจัดสรร มีโน่น มีนี่ มีนิคมอุตสาหกรรม มีหมด แล้วตนจะเปิดเผยข้อมูลอันหนึ่ง

“ไอ้พื้นที่ตรงนี้สมัยก่อนตามผังเมืองของ กทม.เขากำลังทำผังเมืองใหม่ วันที่ 19 ธ.ค.2547 มีการวิ่งเต้นระหว่างผู้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และนักการเมือง นักการเมืองคนหนึ่ง นักการเมืองพรรคไทยรักไทย ชื่อ คุณวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.มีนบุรี คุณวิชาญและครอบครัว มีที่อยู่ที่ฟลัดเวย์เป็นพันไร่ ที่พวกนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นจากพวกนี้วิ่งเต้นเพื่อให้ทำผังเมืองใหม่ เอาเข้า ครม. คุณวิษณุ เครืองาม ก็ช่วยพวกนี้ บอกว่า กทม.มีอำนาจในการวางผังเมืองมากจนเกินไป พวกนี้กำลังจะบอกว่า ที่ตรงนี้เยอะเหลือเกิน เพราะฉะนั้นแล้วควรทำเป็นบ้านจัดสรร ประเภทบ้านเดี่ยว หรือมีพื้นที่การเกษตร 1-2 ไร่ แต่ละคนจะมีสิทธิไปขอใบอนุญาตทำบ้านจัดสรร

ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เช่น คุณวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.เขตมีนบุรี ครอบครัวมีที่ดินพันกว่าไร่, กลุ่มนายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท เวชธานี กรุ๊ป มีที่ดินพันไร่, นางราศี บัวเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ชาเลนจ์ กรุ๊ป พื้นที่เกือบพันไร่, นายประสงค์ โอฬาร กรรมการบริษัท ฟลอร่าวิลล์, บริษัท พฤกษา จำกัด มีเนื้อที่เกือบ 500 ไร่, เคซีกรุ๊ป มีพื้นที่ 2 พันกว่าไร่ บริเวณคลองสามวา, แลนด์แอนด์เฮ้าส์ นายอนันต์ อัศวโภคิน มีเนื้อที่พันกว่าไร่ นายวันชัย มีเนื้อที่ 100-200 ไร่ นี่เป็นเพียงตัวอย่างไม่กี่คน

คุณไล่ดูที่ที่คนจับจองไว้ พวกเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ ที่น่าสนใจเป็นกลุ่มทุนที่สนิทสนมกับคุณทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น ไม่เชื่อไปลองไปดูชื่อเจ้าของโฉนดที่อยู่แถวนี้ มี 5 หมื่นไร่ เหลือที่เพียง 3 พันไร่สำหรับทำฟลัดเวย์” นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวต่ออีกว่า จำได้หรือเปล่า มีอยู่ช่วงหนึ่งนายทักษิณจะใช้พื้นที่ตรงนี้ ตนเรียกว่านครสุวรรณภูมิ เขาจะให้เป็นนครที่มีเอกสิทธิ์ มีสิทธิเหนือกว่ากรุงเทพมหานคร มีกฎหมายที่คนอื่นเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ โดยที่มีผู้ว่านครเกิดขึ้น เหมือนกับเป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในประเทศไทย และเอานักลงทุนมาลงทุน ช่วงที่ประกาศช่วงนั้นคือปี 48 แต่ช่วงปลายปี 47 เริ่มมีการวิ่งเต้นที่จะทำผังเมืองใหม่ เพราะรู้ว่าจะมีนครสุวรรณภูมิเกิดขึ้น เลยต้องการเปลี่ยนผังเมืองนี้ จากที่เป็นฟลัดเวย์ให้เป็นที่อยู่อาศัย สร้างโรงงานอุตสาหกรรม ทำอะไรก็ได้ เปลี่ยนจากพื้นที่สีเขียวเป็นสีแสด ซึ่งตนเคยพูดเรื่องนี้ไว้ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2548

นายสนธิยังกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังมีเรื่องเลวทราม อย่างเรื่องเขื่อนภูมิพล กับเขื่อนสิริกิติ์ ถ้าอ่านข่าวให้ดีๆ ตอนที่น้ำในเขื่อนทะลัก หนังสือพิมพ์เคยไปสัมภาษณ์คนคนหนึ่ง พูดว่า เขาตัดสินใจผิดพลาดเรื่องเขื่อน คนคนนั้นคือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ข้อเท็จจริงที่เขาตัดสินใจผิดพลาดเพราะว่า ผู้อำนวยการเขื่อนเขาบอกแล้วต้องระบายน้ำเขื่อนออก เพราะน้ำเหนือกำลังมา เขาบอกไม่ให้ระบาย เขาบอกอย่าฟังใครฟังผมคนเดียว เขาพูดอย่างนี้ ตอนหลังพอระบายมาเขารู้ว่าเขาพลาด เขาถึงสารภาพว่าผิด

เขาพูดอย่างนี้เลย เขายอมรับ เพราะฉะนั้นคนที่ทำให้น้ำเขื่อนทะลัก พวกเสื้อแดงทั้งหลายให้รู้ไว้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เที่ยวมาใส่ร้ายเบื้องสูง รู้ไว้ด้วยคนที่สั่งให้เก็บน้ำในเขื่อนเอาไว้ ในที่สุดรับไม่ไหวต้องปล่อยคือพวกคุณเอง ชื่อ นายปลอดประสพ สุรัสวดี

การตัดสินใจไม่ปล่อยน้ำออกมามีเบื้องหลังเป็นการเมืองด้วย ผลประโยชน์ เพราะว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต้องการให้มีการจำนำข้าว เลยต้องการเก็บน้ำไว้เพื่อทำนาปีละ 4 ครั้ง เมื่อทำนาปีละ 4 ครั้ง มีข้าวมากขึ้น จำนำข้าวแล้วโกงกินกัน สรุปทั้งหมดคือ เจตนารมณ์ของการที่จะทำงานล่วงหน้าเพื่อโกงกิน แต่เผอิญน้ำมามากจนเกินกว่าเก็บรักษาได้เลยต้องปล่อยออกมา

ภัยพิบัติวิกฤตแห่งชาติ ใช้นักการเมือง ใช้พรรคการเมืองแก้ไม่ได้ แล้ววันนี้เป็นวันที่เราต้องให้นักการเมืองหยุดเล่นการเมือง 3 ปี 5 ปี เพื่อฟื้นฟูประเทศ ถ้าให้นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็ตามดำรงอยู่ในตำแหน่งต่อไปแล้วมากุมอนาคตของชาติ จะเห็นคนฝั่งธนฯ ผู้เฒ่าผู้แก่ถูกยกขึ้นรถบรรทุก เห็นคนลำบากยากเย็น ทั้งหมดประชาชนคนไทยจะถูกนักการเมืองเลวทรามทั้งหลายไม่ว่าพรรคไหนก็ตามจับเป็นตัวประกัน

นายสนธิกล่าวอีกว่า การฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ที่เรียกว่านิวไทยแลนด์ หรืออะไรก็ตาม เขาเอาตัวเลข 9 แสนล้านมาจากไหน ตนจะบอกให้รู้ เมืองไทยหลังจากพ้นภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ไปแล้ว ฟื้นฟูจริงๆ ให้เบ็ดเสร็จไม่เกิน 150,000 ล้าน ถึง 2 แสนล้านบาทสูงสุด ไม่ถึงต้อง 9 แสนล้าน แล้วทุกอย่างจะไปได้ดี

แต่ต้องไม่ใช่นักการเมืองทำ สิ่งแรกที่เราต้องทำ เราต้องกลับไปสู่คำว่า โอลด์ไทยเลนด์เลย ไม่ใช่นิวไทยแลนด์ คนไทยสมัยโบราณเขาเริ่มกันด้วยความเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนที่จะมาบริหารจัดการ จิตใจต้องมีความเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

เมื่อไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เขาย่อมดูปัญหาออก ว่าต้องจัดการกับฝั่งตะวันออกเรียบร้อย น้ำทางฝั่งตะวันตก จะเคลื่อนมาทางฝั่งตะวันออกได้อย่างไรโดยเร็วที่สุด

“ที่สำคัญถ้าทำแบบโอลด์ไทยแลนด์ เราต้องเดินหน้าหาความจริง ใครเป็นคนสั่งให้กักน้ำในเขื่อน พิสูจน์ออกมาเลย ผอ.เขื่อนสั่งหรือ ถ้าไม่กล้าพูดว่านักการเมืองคนไหนบอก คุณรับผิดชอบติดตารางตาย ถ้าคุณบอกว่าไม่ใช่ผมครับ คุณปลอดประสพ สมมตินะ เป็นคนสั่งผม คุณปลอดประสพต้องชี้แจง ต้องรับผิดชอบ ตั้งคำถามให้สังคมตอบ

และให้คณะกรรมการตอบว่าทำไมอยุธยา อ่างทองล่มทั้งจังหวัด แต่สุพรรณบุรีไม่มีน้ำเลย เพราะอะไร คุณบรรหารต้องตอบแล้วงานนี้ ทำไมประตูแม่น้ำท่าจีนถึงไม่เปิด กรมชลต้องตอบ ไม่อย่างนั้นอธิบดีกรมชลฯ เอาตาย ถ้าอธิบดีกรมชลฯตัดสินใจบอกรัฐมนตรีสั่ง รัฐมนตรีก็ตาย ถ้ารัฐมนตรีบอกคุณบรรหารสั่ง คุณบรรหารก็ตาย ไล่เบี้ยไป

คำถามสุดท้ายทำไมถึงไม่ผันน้ำไปทางตะวันออก ใครสั่ง ใครรับผิดชอบ เพราะน้ำจะไปทางตะวันตกได้ต้องมีคนสั่ง เมื่อกลับไปสู่ความจริงเราจะรู้ว่าใครผิด” นายสนธิกล่าว



คำต่อคำ : รายการคนเคาะข่าว

เติมศักดิ์- สวัสดีครับ คนเคาะข่าว 7 พฤศจิกายน 2554 วันนี้เราจะมาฟังมุมมองว่าสาเหตุ ต้นเหตุสำคัญของการวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ของประเทศไทยครั้งนี้มาจากไหน อย่างไรกันแน่ และวิธีบริหารจัดการปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ รวมไปถึงบทเรียนที่สังคมไทยได้รับร่วมกันจากมหาอุทกภัยในครั้งนี้ หลังจากนี้การเยียวยา การฟื้นฟูประเทศ การวางระบบต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และที่สำคัญก็คือ ยุทธศาสตร์ของประเทศต่อจากนี้ควรจะเป็นอย่างไร ที่พูดๆ กันเรื่องนิวไทยแลนด์ ใช่คำตอบที่แท้จริงของประเทศไทยหลังจากนี้หรือไม่ ไปฟังมุมมองของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล นะครับ สวัสดีครับคุณสนธิครับ

สนธิ - สวัสดีครับคุณเติมศักดิ์

เติมศักดิ์ - คุณสนธิมองอุทกภัยครั้งใหญ่นี้อย่างไรครับ ภาพรวม

สนธิ - มันมองได้หลายแบบ แต่ถ้าจะโดยสรุปรวมแล้ว ผมคิดว่าข้อที่ 1 สังคมไทยเป็นสังคมที่ประมาท สังคมไทยเป็นสังคมที่ ถ้าภัยไม่ถึงตัว ตัวเองจะไม่รู้ว่าตัวเองมีภัย ไม่ป้องกันเอาไว้ก่อน อีกประการหนึ่ง สังคมไทยลืม ละเลยพื้นฐานความเป็นจริงซึ่งเป็นจุดแข็งของสังคมไทย น้ำท่วมครั้งนี้ถ้าเราตัดเรื่องภัยพิบัติทิ้งเสีย ถ้ามองไปให้ดีๆ แล้วมันพิสูจน์ชัด ว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ควรจะมีอุตสาหกรรมเป็นฐาน ประเทศไทยควรจะเป็นประเทศที่มีเกษตรกรรมเป็นฐาน และอุตสาหกรรมทางการเกษตร อุตสาหกรรมเป็นเพียงองค์ประกอบที่ทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจสมบูรณ์เท่านั้นเอง อันนั้นเขามองในลักษณะที่เป็นภาพรวม แต่ถ้ามองในแง่ของการบริหารจัดการแล้ว ผมเสียใจที่ผมต้องพูดว่า ตราบใดถ้าเรายังมีนักการเมือง พรรคการเมือง การแก้ปัญหาวิกฤตของชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หรือการล่มสลายทางเศรษฐกิจแก้ไม่ได้ เพราะว่า ประเดี๋ยวเราจะพูดกันเป็นเรื่องๆว่าการทำงานของนักการเมืองนั้นไม่สามารถทำงานโดยเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ปากเขาพูดเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้งแต่การปฏิบัตินั้นจะมีส่วนตัวเป็น..... ที่ทำให้การแก้ส่วนรวมแก้ไม่ได้

อันสุดท้ายที่ผมอยากจะพูดก็คือว่า สังคมไทยเป็นสังคมไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ คำว่า ประวัติศาสตร์ มันไม่ใช่แค่เรื่องของชาติบ้านเมืองที่ต้องพ้นภัย เพราะว่าเรามีวีรบุรุษ วีรสตรี เรามีบูรพกษัตริย์ หรือกษัตรีย์ เช่น สมเด็จพระศรีสุริโยไท ซึ่งมาปกป้องชาติไทย มันมีมากกว่านั้น

ภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ บอกให้เรารู้ว่า ประเทศไทย ถ้าคุณเติมศักดิ์ดูดีๆ มันสโลบลง จุดต่ำที่สุดของประเทศไทยคือ สมุทรปราการ หรือกรุงเทพฯ นั้นต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เพราะฉนั้นแล้วเมื่อมันสโลบ ในข้อเท็จจริงไม่ใช่ตอนนี้ ในอดีตก่อนกรุงศรีอยุธยาเสียอีก เวลาฝนตกน้ำมันหลาก มันไม่ใช่เพิ่งหลากครั้งนี้ มันหลากมากตั้งแต่สมัยโน้น สมัยเป็นพันปีมาแล้ว มันหลากตามลักษณะกายภาพของภูมิศาสตร์ของประเทศไทย เพราะฉะนั้นน้ำมันจะวิ่งจากเหนือลงมาใต้ แล้วมันก็จะออกทะเล

เติมศักดิ์ - ที่สูงลงที่ต่ำ

สนธิ - แน่นอนครับ อันนี้ไปพิสูจน์อะไร พิสูจน์เมื่อไรก็พิสูจน์ได้ชัด นั่นคือลักษณะวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันประวัติศาสตร์ในช่วงประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ก็พิสูจน์ให้เราเห็นชัดว่าเวลาพม่ามาล้อมกรุง พอหน้าน้ำมาพม่าก็ยกทัพกลับ กรุงศรีอยุธยานี่ พอพม่ามาก็ปกป้องกรุงไม่ให้บุกเข้ามา แล้วก็พูดว่ารอให้น้ำมา พม่าก็จะกลับไป เพราะฉะนั้นน้ำเข้ามาสู่พื้นที่ลุ่มทางภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็นชัยนาท สิงห์บุรี นครสวรรค์ อ่างทอง สุพรรณบุรี เป็นมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว

มาช่วงหลังนี้ เมื่อเมืองหลวงย้ายมาสู่กรุงเทพมหานคร กรุงเทพฯ นี่โดยพื้นฐานทางกายภาพก็ต่ำกว่าน้ำทะเลอยู่แล้ว พอเริ่มมีเมืองเกิดขึ้นมา มีการสูบน้ำบาดาลเป็นจุดๆ เต็มไปหมด มีการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม มีทุกอย่าง มันก็เลยทำให้พื้นที่ดินในกรุงเทพฯ มันทรุดลงไปกว่าเก่า อันนี้พูดถึงในลักษณะภูมิศาสตร์และอุทกศาสตร์ทั่วๆ ไป ที่ยังไม่แปรเปลี่ยนมาเป็นโลกที่ร้อนขึ้น ลักษณะปรากฏการณ์ลานิญญ่าอะไรพวกนี้ยังไม่ได้รวมถึงเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นน้ำจึงท่วมประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา และท่วมเป็นระยะๆ ตั้งแต่ปี 2485 มา ก็ท่วมใหญ่ ปีโน้นปีนี้ท่วมใหญ่ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราได้ดูภาพยนตร์ วีทีอาร์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระองค์ท่านได้เรียกประชุมบรรดาผู้เกี่ยวข้องในเรื่องน้ำ เมื่อ 19 กันยายน 2538

เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อพื้นฐานมันเป็นอยู่เช่นนี้แล้ว การที่เราไม่เข้าใจตรงนี้ ซึ่งจริงๆแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถ้าเราเข้าใจประวัติศาสตร์ เราเข้าใจโคตรเหง้าของเรา เราเข้าใจความเป็นอยู่ของเราเหมือนกับชาวบ้าน ชาวบ้านบางพื้นที่ในบางตำบล พ่อแม่ปู่ย่าตายายเขาสอนไว้ ว่าถ้ามีปรากฏการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แสดงว่าภัยธรรมชาติจะมา มีอันนี้เกิดขึ้นแสดงว่าอันนั้นจะมา คือมันเป็นองค์ความรู้เดิม ดูแค่บ้านก็พอ ทำไมบ้านทรงไทยถึงตั้งใต้ถุนไว้สูง จบ ง่ายนิดเดียว เพราะว่าเขารู้ว่าหน้าน้ำ นอกจากใต้ถุนสูงแล้วเขายังต้องผูกเรือไว้ที่ใต้ถุนอีก พอหน้าร้อนเขาก็เอาเปลญวนมาผูกที่ใต้ถุน ลมเย็นนอน พอหน้าน้ำมาเขาก็ขึ้นบันไดไปอยู่ชั้นบน คือชั้น 1 เขา ใต้ถุนนี่คือชั้นใต้ดิน ลักษณะเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ประกอบกับความอวดดีของคนไทยโดยที่ไม่คำนึงถึงประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ไม่คำนึงถึงเรื่องอะไร ก้เลยไม่ได้พิจารณา มีความรู้สึกว่า ถ้าน้ำมาก็สร้างท่อให้มันลงก็จบ นั่นคือน้ำปกติธรรมดา ถ้าคุณเติมศักดิ์มีแผนที่ เอาแผนที่มาดูกันชัดๆ หรือจะเอาทีหลัง

เติมศักดิ์ - ไว้ตอนหลังก็ได้ครับ

สนธิ - สุดแล้วแต่ นั่นคือภาพรวมที่ผมมอง ทีนี้พอมาเจอการบริหารจัดการที่นักการเมืองมาบริหารจัดการ ที่พังทลายทุกวันนี้ก็เพราะว่า นักการเมืองเล่นการเมือง เอาการเมืองมาเล่นกับน้ำ แล้วก็เล่นการเมืองซึ่งกันและกัน โดยจับประชาชนเป็นตัวประกัน นั่นคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดขณะนี้

เติมศักดิ์ - ก่อนจะไปต่อ อยากจะให้ไปชมวีทีอาร์ ตอนหนึ่งที่คุณสนธิเคยมาพูดที่นี่เมื่อ 14 ก.ย. 2554

สนธิ- ก่อนน้ำมา

เติมศักดิ์ - การคาดการณ์เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไปชมกันแล้วเดี๋ยวกลับมาดูกันต่อครับ


(VTR เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2554)


เติมศักดิ์ - นั่นคือคำเตือนเมื่อเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา 14 ก.ย. 2554

สนธิ - ซึ่งตอนนั้นน้ำยังไม่ท่วม เพราะว่าผมรู้แล้วผมใช้องค์ความรู้ที่ดูว่า อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติด้านอากาศมาแน่นอน แล้ว 2-3 วันที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญทางอากาศยืนยันว่า ภาวะโลกร้อน จะทำให้ประเทศไทยมีน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องไปอีกนาน

ถ้าคุณดูภูมิศาสตร์ให้ดีๆ แล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศที่เสี่ยง เพราะด้ามขวานลงทะเลหมด ในขณะซึ่งพม่ากับเวียดนาม เขาไม่มีอะไรยื่นออกมาในทะเล ที่จะมีปัญหาในอนาคตถ้าน้ำท่วมโลก จะมีทางใต้ของไทย จะมีทางฝั่งตะวันออกของไทย อ่าวไทย แล้วฝั่งตะวันตกที่ติดกับพม่า และตลอดลงไปจนถึงมาเลเซีย และสิงคโปร์ เขาคาดการณ์ว่า ถ้ามีน้ำท่วมโลก บรรดาเกาะต่างๆ จะหายหมด ภูเก็ตก็หาย สมุยก็หาย สิงคโปร์ก็หาย มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาบอกว่า โอ๊ย อีกนาน มันค่อยๆ มาทีละนิดๆๆ

ผมเคยพูดในรายการนี้หลายครั้งแล้ว ผมบอกว่า เมื่อใดก็ตามถ้าเราหันไปดูสถิติให้ดีๆ เราจะเห็นว่าภัยพิบัติระดับนี้ ในช่วง 10 ปีให้หลัง ความถี่มันเกิดขึ้นมากกว่าสมัยก่อนเยอะ สมัยก่อน 30 ปีเกิดครั้งหนึ่ง 20 ปีเกิดครั้งหนึ่ง 10 ปีเกิดครั้งหนึ่ง เดี๋ยวนี้ปีหนึ่งเกิด 3 ครั้ง 5 ครั้ง 6 ครั้ง

และคุณเติมศักดิ์ ขอให้เชื่อคำพูดผมไปเลย ที่ผมกลัวมากอีกเรื่องหนึ่ง คือผมกลัวสึนามิขนาดยักษ์ เพราะถ้าคุณไปดูข่าวย้อนหลังในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา คุณจะเห็นภาวการณ์แผ่นดินไหวย่านอินโดนีเซียนี่ไม่หยุดเลย ประเดี๋ยว 6 ริกเตอร์ 5.2 ริกเตอร์ คือย่านอินโดนีเซียที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสึนามิครั้งที่แล้วมันกำลังเริ่มขยับกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นมันเหมือนบ้านที่โครงสร้างไม่ดี พอมันยืด โยกไป 2-3 ที เดี๋ยวโยกมาอีกแล้ว พอโครงสร้างจะพังมันก็โยกมากขึ้น ความถี่การโยกก็มากขึ้น

ลักษณะแผ่นดินไหวของอินโดฯ นี่ ความถี่ของจำนวนที่ไหว และปริมาณริกเตอร์ เฉลี่ยแล้วสูงกว่า 5 หมด แต่ไม่ถึง 7 แต่ว่าก็คล้ายๆ กับว่าโครงสร้างกำลังจะพังแล้ว ผมยังกลัวว่าแผ่นดินจะแยกอีกครั้งหนึ่งในใต้ทะเล แถวอินโดนีเซีย แล้วจะเกิดสึนามิที่ใหญ่ยิ่งกว่าสมัยที่เกิดกับภูเก็ตสมัยนั้น ผมคิดของผมนะครับ และผมไม่ไว้ใจ และผมค่อนข้างที่จะมั่นใจว่ามันจะต้องเกิดแน่นอน เป็นเพียงแต่ว่าเรากำหนดเวลาไม่ได้ ผมไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ก็กำหนดเวลาไม่ได้ แต่ว่าดูจากปรากฏการณ์ สามารถจะคำนวณได้ว่าเฮ้ย มันไม่ดีแล้วนะ เหมือนคุณอยู่บนที่สูง คุณเคยยืนอยู่อย่างมั่นคง จู่ๆ เดี๋ยวนี้คุณขึ้นไปที่บ้านคุณ สมมุติว่าคุณอยู่คอนโด ชั้น 14 เอ๊ะทำไมสั่นบ่อยจัง สมัยก่อน 6 เดือนสั่นที สมัยนี้ ปีที่แล้วสั่นเดือนละครั้ง เดี๋ยวนี้เดือนละ 3 ครั้ง มันแปลว่าอะไรคุณเติมศักดิ์ มันแปลว่า บางสิ่งบางอย่างมันกำลังจะเกิดขึ้น

เติมศักดิ์ - มันส่งสัญญาณแล้ว

สนธิ - มันส่งสัญญาณบอกเราล่วงหน้า อันนี้คือสิ่งซึ่งผมคาดการณ์ไว้ อีกเรื่องซึ่งผมเป็นห่วง คือ ความโลภของคน และความไม่รู้จักพอ ผมต้องตำหนินักอุตสาหกรรมและรัฐบาล กลุ่มคนพวกนี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัว ตอนที่เราเปิดประตูให้อุตสาหกรรมเข้าประเทศ มันเกิดการตั้งโรงงาน เกิดความคิดเหมือนกับที่ญี่ปุ่นเคยเกิด ไต้หวันเคยเกิด คือ มันต้องมีนิคมอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ไม่ใช่ว่า ต่างชาติจู่ๆ เข้ามาแล้วจะมาเป็นเจ้าของนิคมอุตสาหกรรม ไม่ใช่ มันเป็นคนไทยที่ได้ความคิดตรงนี้ แล้วออกกฎหมาย ขอการส่งเสริมบีโอไอ แล้วก็ไปซื้อที่ ทีนี้การสร้างนิคมอุตสาหกรรม คุณเติมศักดิ์ ที่ยิ่งถูก กำไรยิ่งมากใช่ไหม เพราะฉะนั้นเจ้าของนิยมอุตสาหกรรมก็เลยไปหาที่ที่มันราคาถูก ทำไมที่มันราคาถูกล่ะ เพราะมันเป็นที่ลุ่ม คนขายที่เขารู้ว่าเป็นที่รับน้ำ เมื่อเป็นที่รับน้ำก็ขายถูก ตัวอย่างอุตสาหกรรมก็คือโรจนอุตสาหกรรม อันนี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุด อุตสาหกรรมไม่ควรจะอยู่ในอยุธยา คุณจะอยู่อยุธยาได้อย่างไร หรืออุตสาหกรรมบางชัน ก็อยู่ลาดกระบังไม่ได้ เพราะลาดกระบังคือฟลัดด์เวย์ เป็นที่ที่น้ำจะต้องผ่าน แต่ความโลภของคนมีความรู้สึกว่าที่มันถูก น้ำท่วมไม่เป็นไรก็ทำทางกั้นน้ำ ท่วม 2-3 วันมันก็ไป แต่เขาไม่ได้นึกว่าไอ้ความเข้มข้นหรือความร้ายแรงของน้ำท่วมจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนี้จะทำให้มันเกิดการท่วมอย่างรุนแรง และท่วมถี่มากกว่า แล้วมาเจอความโง่เขลา ไม่มีสติปัญญาของผู้บริหารชาติที่เป็นนักการเมือง ก็เลยทำให้เขาพังพินาศฉิบหายไป ฉะนั้นแล้วอุตสาหกรรมตรงนี้ต้องเปลี่ยนแนวความคิดใหม่

ผมยกตัวอย่าง สมัยที่เขาสร้างอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่มาบตาพุด ทำไมเขาสร้างที่มาบตาพุด เพราะเขาต้องการอยู่ใกล้น้ำ ใกล้ท่าเรือ เพื่อเซฟต้นทุนในการขนส่ง ด้วยความงกต้องการกำไรมาก มันเลยเกิดมลภาวะที่เกิดขึ้นมาที่มาบตาพุด เมื่อเกิดมลภาวะ อากาศสกปรก โรงเรียนต้องปิดหนี ทำลายสิ่งแวดล้อมของระยอง มาบตาพุดหมด จนกระทั่งคุณภาพของสิ่งแวดล้อม คุณภาพความสวยงามของชายทะเล คุณภาพของเมือง มันพังทลายไปหมด เพื่อแลกกับคำว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมิคัล ทั้งๆ ที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมิคัล สามารถย้ายจากริมทะเลเข้าไปอยู่ข้างในได้ 100-150 กิโลเมตร แล้วสร้างรถไฟเป็นคอนเทนเนอร์ตั้งบนรถไฟแล้วขนมาที่ท่าเรือแหลมฉบัง แล้วส่งออก ทำไมไม่ทำ เพราะคำว่า ต้นทุน

เพราะฉะนั้นแล้วอุตสาหกรรมปิโตรเคมิคัล คนลงทุนเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างเหลือร้าย แล้วทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างเลวทรามที่สุด ที่พูดไปจริงๆ ก็พวกไหน ก็ ปตท. ใครก็ตาม เครือซิเมนต์ไทย ที่มีอุตสาหกรรมอยู่ อีสเทิร์นซีบอร์ด คือพวกที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และพวกที่กำลังจะทำให้ชาติบ้านเมืองพังพินาศฉิบหาย ฉันใดฉันนั้น โรจนะ อยุธยาไม่ควรมีนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่สีเขียว ไม่ควรจะมีนิคมอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมมีได้ไหม มีได้ แต่ควรจะมีในที่ๆ สูง และไม่ใช่ที่อุ้มน้ำ

คุณเติมศักดิ์ว่าประเทศไทยเพี้ยนไหม มันเพี้ยนตรงไหนรู้ไหม ที่ดอน คือ ดอนเมืองน้ำท่วม ที่หนอง คือหนองงูเห่า ไม่มีน้ำ คุณว่ามันเพี้ยนไหม

เติมศักดิ์ - มันกลับตาลปัตร ที่ดอนเป็นที่สูง

สนธิ - เพราะเป็นการบริหารจัดการที่ผิด คุณเติมศักดิ์คุณห้ามน้ำได้ไหม ไม่มีทาง พวกนี้นอกจากโง่เขลาเบาปัญญาแล้วยังอวดดี ยโสโอหัง ผมคิดว่าคุณยิ่งลักษณ์ ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ น่าจะแนะนำให้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงนั้นควรจะแก้อย่างไร ผมคิดว่าผมเดาไม่ผิด พระองค์ท่านแนะปัญหาเมื่อปี 2538 ปัญหายังเหมือนเดิม คือน้ำหลากเข้ามา การแก้ปัญหาก็เหมือนเดิม คือ อย่าหยุดน้ำ อย่ากักน้ำ มีอยู่ทางเดียว น้ำยิ่งมาเท่าไหร่ ยิ่งส่งเสริม สนับสนุนให้ยิ่งไหลเร็วขึ้นเพื่อสู่ทะเล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำรัสในรายการที่ผมดู พระองค์ท่านพูดชัดเจน อะไรที่ขวางกำจัดสิ่งกีดขวางไปซะ มันติดอะไรก็ทำทางลอดไปซะ นัยคือว่า วันนี้ผมยังไม่เข้าใจจนวันนี้ว่า ทำไมฝั่งตะวันออกยังแห้ง ตอบผมมาซิ ผมไม่เข้าใจ ทำไมน้ำถูกผันมาฝั่งตะวันตก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจะเล่นการเมือง หรือต้องการจะเซฟกรุงเทพฯ แต่คุณเซฟกรุงเทพฯ แล้วให้คนฝั่งธนฯ ฝั่งตะวันตก เขาต้องจมน้ำกันทั้งเมืองเลยได้ยังไง ทั้งๆ ที่น้ำฝั่งตะวันตกมันสามารถบริหารจัดการให้ไปลงฝั่งตะวันออก และลงสู่ทะเล เพราะตรงนั้นมันเป็นที่ๆ พ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด เขารู้ว่าที่นั้นคือทางน้ำที่จะต้องลงทะเล

เติมศักดิ์ - ฟลัดเวย์

สนธิ - ฟลัดเวย์ แต่ที่มันลงไม่ได้ก็เพราะว่ามีผลประโยชน์ อิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง ผลประโยชน์ อิทธิพล เกี่ยวข้องยังไง คุณดูแผนที่ดีกว่า เอาแผนที่มาดู วันนี้ต้องแฉกันให้ชัดๆ เลย จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน คุณจะเห็นเส้นนี้นะครับ เส้นนี้ลงมานี่ อย่างนี้ นี่คือคลอง 20-30 คลองที่เกิดขึ้น ขุดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คลองพวกนี้คือคลองที่รับน้ำจากเหนือลงมา แล้วก็ระบายที่คลองนี้ ลงมาทางนี้ ลงมาเรื่อยๆ แล้วมาออกสมุทรปราการ ออกบางปะกง สู่ทะเล ตรงนี้รัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านได้ทรงเวนคืนที่ไป

เติมศักดิ์ - เป็นมรดก

สนธิ - เป็นมรดก เพราะว่าพระองค์ท่านเห็นชัด ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 แล้ว พระองค์ท่านเห็นชัดว่ายังไงน้ำก็ลงมา เพราะฉะนั้นพระองค์ท่านถึงขุดคลองมาไง ขุดมาตลอด แล้วเกิดอะไรขึ้นวันนี้ เกิดการปิดคลอง คลอง 7 คลอง 8 คลอง 9 ปิด คุณไปดูสิ ตะวันออกคือทางระบายน้ำ แต่ตะวันออกแห้ง ตะวันตกไม่มีที่ระบายน้ำ แต่ตะวันตกน้ำไปขัง แล้วมันจะแก้น้ำได้ยังไง

เติมศักดิ์ - เดี๋ยวเราพักกันสักครู่หนึ่งครับ ให้ทีมงานได้ตรวจสอบเรื่องของช่องสัญญาณก่อน แล้วเดี๋ยวสักครู่เราจะมาลงรายละเอียดกันว่าภูมิศาสตร์กายภาพของประเทศไทย เพื่อค้นหาคำตอบว่าวิธีแก้ปัญหาทุกวันนี้ การผันน้ำ ความสมดุลของฝั่งตะวันตก-ฝั่งตะวันออก เราเกิดความไม่สมดุลอย่างไร และแผนผังของการระบายน้ำที่เป็นมรดกของบรรพบุรุษเรา ที่เราเรียนรู้จากน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้คืออะไร สักครู่กลับมาติดตามกับคุณสนธิ เชิญครับ

เติมศักดิ์ - เมื่อสักครู่เราฟังมุมมองของคุณสนธิ เกี่ยวกับมหาอุทกภัยในครั้งนี้โดยภาพรวม ช่วงนี้เราจะฟังเป็นประเด็นๆไป ประเด็นแรกที่เราจะมาพูดคุยในช่วงนี้ก็คือ ลักษณะกายภาพ ภูมิศาสตร์ของประเทศไทย โดยเฉพาะระบบการระบายน้ำที่เป็นมรดกตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

สนธิ - นี่คือลักษณะคลองที่เป็นเส้นลงมา คุณเติมศักดิ์ นี่คือคลองซึ่งขุดมาตั้งนานแล้ว พื้นที่ตรงนี้ไล่มาเลย รัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านเวนคืนมา เพื่อเป็นทางเดินของน้ำ ทั้งหมด 50,000 ไร่ พื้นที่ตรงนี้เหลือแค่ 3,000 ไร่ จาก 50,000 ไม่ถึง 10% เดี๋ยวขอภาพกลับไปอีกทีนะครับ เป็นภาพ 2 ส่วน
อันนี้คือปทุมธานี อันนี้คือฉะเชิงเทรา บางปะกง สมุทรปราการ ด้านตะวันออก ที่เราพูดกันว่าทำไมถึงไม่ระบายน้ำมาสู่ด้านตะวันออก เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปี 2538 วันที่ 19 กันยายน ที่พระองค์ท่านทรงประชุมอยู่ พระองค์ท่านชี้ให้แล้วว่า ทรงทำทุกวิถีทางที่จะให้น้ำมาทางตะวันออก พระองค์ท่านบอกว่า ถ้ามีถนน ต้องขุด มีอะไรกีดขวางต้องทำลาย มีสะพานซึ่งแคบไปก็ต้องเจาะรูให้น้ำออก คือวัตถุประสงค์ทั้งหมดกลับไปสู่ปรัชญาของน้ำ คือน้ำเมื่อไหลแล้วต้องรีบให้ไหลแล้วลงไปเลย อย่าให้ขัง เพราะว่าการที่น้ำขังนอกจากเป็นการเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว ยังก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บอีกมหาศาล และยังซึ่งความทุกข์ทรมานต่อประชาราษฎร์

เติมศักดิ์ - เหมือนที่เกิดขึ้นตอนนี้

สนธิ - อย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ เพราะฉะนั้นด้านนี้คุณจะเห็นชัดว่าคือด้านของฟลัดเวย์ ทีนี้มาดูข้อเท็จจริง สีเทา กับสีเขียว สีเทานี่ควรจะเป็นฟลัดเวย์ สีเขียวนี่คือพื้นที่เกษตรกรรม ดันทะลึ่งมีสนามบินสุวรรณภูมิขวางสีเทาอยู่ตรงนี้ คุณเติมศักดิ์ ไม่ทราบว่าคุณ อายุยังไม่เท่าผม แต่ผมจำได้ แล้วเบื้องหลังสนามบินสุวรรณภูมินี่ต้องให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจนิดหนึ่ง คุณรู้ไหมเกิดขึ้นได้ยังไง เกิดขึ้นเพราะความโง่ของคนไทยที่ไปฝรั่ง เพราะฝรั่งมันก็โง่ เพราะมันรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สมัยจอมพลถนอม จอมพลประพาส ใหญ่อยู่ในแผ่นดิน มีความคิดว่าต้องสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ขึ้นมา ก็เลยจ้างฝรั่ง รู้สึกจะมาจากทางกลุ่มสแกนดิเนเวีย ประเทศอะไรผมจำไม่ได้แล้ว หมอนี่เก่งในเรื่องของสนามบิน ก็ขอขึ้นเครื่องบินดูกรุงเทพมหานคร ดูไปดูมา ฝั่งตะวันออกมันว่างนี่หว่า แล้วถ้าสร้างตรงฝั่งตะวันออกมันห่างจากกรุงเทพฯ 30 กิโลฯ มันเพอร์เฟค สมบูรณ์แบบมาก ก็เอามาเสนอว่าต้องอยู่ตรงนี้ ลอจิสติกส์ เชื่อผม เพราะว่าผมชำนาญในเรื่องสนามบิน อย่างโน้นอย่างนี้ พวกนี้กำลังหลงฝรั่ง เชื่อฝรั่ง ก็เลยเสนอเข้าไป แต่ว่าฝรั่งมันขาดความรู้ทางประวัติศาสตร์เมืองไทย ว่านี่คือทางน้ำ ถูกไหมครับ ฝรั่งมันไม่รู้ว่าน้ำที่ตกมาจากทางเหนือมันต้องผ่านทางนี้มาตลอดเวลา

เติมศักดิ์ - เพื่อระบายลงสู่ทะเล

สนธิ - เพื่อระบายลงสู่ทะเล มันก็เลยสร้างสุวรรณภูมิขึ้นมา

เติมศักดิ์- ขวางทางน้ำเลยนะครับ

สนธิ - ขวางทางน้ำ พอจะปล่อยน้ำทางตะวันออก ทุกคนก็บอกว่าไม่ได้ เดี๋ยวมันจะท่วมสุวรรณภูมิ สำหรับผมแล้ว ถ้ามันจะต้องท่วมสุวรรณภูมิ แล้วให้น้ำฝั่งธนฯ แห้ง แล้วกลับไปใช้ดอนเมือง ยังคุ้มกว่าที่จะมาปกป้องสุวรรณภูมิ แล้วให้กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลาง เมืองหลวง ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ตลอดจนธนบุรี พังพินาศฉิบหายไป นี่สำหรับผมนะ นี่คือที่มาไงล่ะ ว่าหนองงูเห่าแห้ง แต่ดอน ซึ่งเป็นที่สูง ดอนเมือง น้ำท่วม เพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของคน
อีกประการหนึ่ง ที่พวกนี้สมัยก่อนเป็นพื้นที่การเกษตร เพื่อรองรับน้ำ คุณดู มีบ้านจัดสรร มีโน้นมีนี่ มีนิคมอุตสาหกรรม มีหมด แล้วผมจะเปิดเผยข้อมูลอันหนึ่ง พื้นที่ตรงนี้ สมัยก่อนตามผังเมืองของ กทม.เขากำลังทำผังเมืองใหม่ วันที่ 19 ธ.ค.2547 มีการวิ่งเต้นระหว่างผู้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และนักการเมือง นักการเมืองคนหนึ่ง นักการเมืองพรรคไทยรักไทย ชื่อ คุณวิชาญ ส.ส.มีนบุรี

เติมศักดิ์ - คุณวิชาญ มีนไชยนันท์

สนธิ - คุณวิชาญ มีนไชยนันท์ และครอบครัว มีที่อยู่ที่ฟลัดเวย์เป็นพันไร่ ที่พวกนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นจากพวกนี้วิ่งเต้นเพื่อให้ทำผังเมืองใหม่ เอาเข้า ครม. คุณวิษณุ เครืองาม ก็ช่วยพวกนี้ บอกว่า กทม.มีอำนาจในการวางผังเมืองมากจนเกินไป พวกนี้กำลังจะบอกว่า ที่ตรงนี้เยอะเหลือเกิน เพราะฉะนั้นแล้วควรทำเป็นบ้านจัดสรร ประเภทบ้านเดี่ยว หรือมีพื้นที่การเกษตร 1-2 ไร่ แต่ละคนจะมีสิทธิไปขอใบอนุญาตทำบ้านจัดสรร ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เช่น คุณวิชาญ มีนไชยนันท์ ส.ส.กทม.เขตมีนบุรี ครอบครัวมีที่ดินพันกว่าไร่ กลุ่มนายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท เวชธานี กรุ๊ป มีที่ดินพันไร่ นางราศี บัวเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ชาเลนจ์ กรุ๊ป พื้นที่เกือบพันไร่ นายประสงค์ เอาฬาร กรรมการบริษัท ฟลอร่าวิลล์ บริษัทพฤกษา จำกัด มีเนื้อที่เกือบ 500 ไร่ เคซีกรุ๊ป มีพื้นที่ 2,000 กว่าไร่ บริเวณคลองสามวา แลนแอนด์เฮ้าส์ นายอนันต์ อัศวโภคิน มีเนื้อที่พันกว่าไร่ นายวันชัย มีเนื้อที่ 100-200 ไร่ นี่เป็นเพียงตัวอย่างไม่กี่คน

คุณไล่ดูที่ที่คนจับจองไว้ พวกเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ ที่น่าสนใจ เป็นพวกที่สนิทสนมกับคุณทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น

เติมศักดิ์ - เป็นกลุ่มทุนที่ใกล้ชิด

สนธิ - เป็นกลุ่มทุนใกล้ชิดคุณทักษิณ เพราะฉะนั้นพวกทุนใกล้ชิดคุณทักษิณก็เลยไปกว้านซื้อ ไม่เชื่อไปลองไปดูชื่อเจ้าของโฉนดที่อยู่แถวนี้ มี 5 หมื่นไร่ เหลือที่เพียง 3 พันไร่สำหรับทำฟลัดเวย์ ผมเชื่อว่ามี แล้วคุณเติมศักดิ์จำได้รึเปล่า มีอยู่ช่วงหนึ่งคุณทักษิณจะใช้พื้นที่ตรงนี้ ผมเรียกว่า จ.สุวรรณภูมิ

เติมศักดิ์ - นครสุวรรณภูมิ

สนธิ - นครสุวรรณภูมิ ท่านผู้ชมต้องจำได้ช่วงนั้น นครสุวรรณภูมิ จะเป็นนครที่มีเอกสิทธิ์ สิทธิเหนือกว่ากรุงเทพมหานคร มีกฎหมายที่คนอื่นเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ โดยที่มีผู้ว่านครเกิดขึ้น เหมือนกับเป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในประเทศไทย และเอานักลงทุนมาลงทุน ช่วงที่ประกาศช่วงนั้นคือปี 48 แต่ช่วงปลายปี 47 เริ่มมีการวิ่งเต้นที่จะทำผังเมืองใหม่ เพราะรู้ว่าจะมีนครสุวรรณภูมิเกิดขึ้น เลยต้องการเปลี่ยน ต้องการจะเปลี่ยนผังเมืองนี้ จากที่เป็นฟลัดเวย์ให้เป็นที่อยู่อาศัย สร้างโรงงานอุตสาหกรรม ทำอะไรก็ได้ เปลี่ยนจากพื้นที่สีเขียวเป็นสีแสด

เติมศักดิ์ - คุณสนธิเคยพูดเรื่องนี้ไว้ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรครั้งที่ 5 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันนั้นวันที่ 21 ตุลาคม 2548 เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เราไปย้อนความทรงจำตรงนี้กันนะครับ นครสุวรรณภูมิ เชิญครับ


(VTR รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 5)


เติมศักดิ์ - แต่ว่านักการเมืองกลุ่มทุนอสังหาฯ เข้ามารุมทึ้งฟลัดเวย์

สนธิ - ทั้งๆที่ตรงนี้เป็นที่ที่พระองค์ท่านรัชกาลที่ 5 เวนคืนไปแล้ว เพื่อที่จะทำเป็นฟลัดด์เวย์ พวกนี้กลับมองว่า ไม่จำเป็นต้องไปแคร์เรื่องฟลัดด์เวย์เพราะอะไร เพราะเขาบอกว่าน้ำจะไม่ท่วม

เติมศักดิ์ - มีหลักฐานครับ นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยกุล ประธานกรรมการบริษัทเคซี กรุ๊ป เคยให้สัมภาษณ์ไว้ มีที่ดินอยู่ประมาณพันไร่ ขณะนี้เหลือ 200-300 ไร่ บริเวณเขตคลองสามวา ที่ผ่านมาได้เคยยื่นขอจัดสรรไว้ก่อนเมื่อปี 42 ช่วงผังเมืองฉบับเก่า ส่วนพื้นที่ที่เหลือต้องรอต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้วขอปรับสีผังเป็นสีเหลือง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวควรยกเลิกแนวฟลัดด์เวย์ เพราะไม่เคยปรากฏว่ามีน้ำท่วม นอกจากนี้แล้ว ในหลวงท่านให้ก่อสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ จ.สระบุรี และแก้มลิง ซึ่งไม่น่าจะมีผลกระทบเกี่ยวกับน้ำท่วมอีกต่อไปในทำเลนี้

สนธิ - ก็อาจจะเป็นความคิดเดียวกับคนซึ่งตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ว่ามีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แล้ว ฉะนั้นน้ำจะไม่ท่วมอยุธยา เหมือนกัน น้ำมันไม่ท่วมได้อย่างไรเล่า คุณเติมศักดิ์จะเห็นความโลภของคน ท่านผู้ชมนี่ต้องรู้นะครับ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากความโลภของพ่อค้า จับมือกับนักการเมืองชั่ว ฉะนั้นแล้วคุณเข้าใจหรือยังว่า แต่ละพื้นที่ที่เจ้าของโฉนดพวกนี้เป็นผู้มีอิทธิพลทั้งสิ้น เป็นผู้ซึ่งมีคุณูปการหรือไม่ก็เกี่ยวพันกับพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น ตรงนี้ถึงแห้งไงล่ะ ตรงนี้โดยพื้นฐานแล้วต้องเปียก แต่เปียกชั่วคราวไม่นาน เมื่อน้ำลงทะเลแล้วมันก็แห้งต่อ แต่ในที่สุดปีหน้าก็จะเปียกต่อ อีกปีต่อไปจะเปียก อีก 10 ปีก็จะเปียก อีกร้อยปีก็จะเปียกเพราะว่ามันเป็นทางเดินของน้ำ ง่ายนิดเดียว ฉะนั้นคุณจะเข้าใจแล้วว่าน้ำท่วมเพราะอะไร เพราะนักการเมืองชั่วๆ นอกจากโง่เขลา สติปัญญาไม่มีแล้ว ยังชั่วช้าสามานย์อีก ที่ไม่ยอมจัดการเอาน้ำมาฝั่งนี้ ถ้าเขาเอาน้ำมาฝั่งนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว ผมไม่เห็นมีปัญหาเลยคลอง 7 , 8, 9 กับคลองสามวา

ประชาชนที่อยู่ฝั่งหนึ่งของคลอง เขาบอกว่าน้ำเขาท่วมมา 2 เดือนแล้ว ไม่มีใครแก้ไขต้องระบายน้ำออก แต่ถ้าคุณจะเอาน้ำผันมาทางนี้จริงๆ มันจะยากอะไรถ้าคุณไปพูดกับเขาให้ชัดเจน ว่าบ้านใครก็ตามอยู่ฝั่งคลองสามวา มีทั้งหมดกี่บ้าน เสียหายเท่าไหร่ ทนหน่อย จดชื่อเขา จดทรัพย์สินเขาไว้ จดพื้นที่เขา แล้วบอกหลังน้ำท่วมแล้วจะซ่อมให้ฟรี แล้วจะให้เงินชดเชยต่อหลังเท่าไหร่ ก็จะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน นักการเมืองซึ่งเป็นฝ่ายพรรคเพื่อไทยก็ได้ประโยชน์ซิ เพราะนี่คือฐานเสียงของตัวเอง แก้ปัญหาแบบง่ายๆ กล้าตัดสินใจ ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบโง่ๆ แล้วก็มีผลประโยชน์ทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ นิดเดียวเท่านั้นเอง เพราะความริยำตำบอนของคนทีมีผลประโยชน์ทำให้กรุงเทพทั่วทั้งกรุงเทพ ทำให้น้ำขัง ทำให้ดอนเมืองท่วม ทำให้สายไหมท่วม ผมถึงบอกว่าผมดูข่าวแต่ละวันแล้วผมแทบไม่ต้องดู ผมรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร บอกว่าเวลาคุณเติมศักดิ์ดูเหตุการณ์ คุณเติมศักดิ์ดูแบบองค์รวมสิ แล้วคุณเติมศักดิ์จะเห็น วันนี้ผมอธิบายแค่นี้วันหลังคุณเติมศักดิ์แทบจะไม่ต้องการดูแล้วว่าน้ำจะท่วมจตุจักรมั้ย นั่นเป็นรายละเอียดแล้ว มันต้องท่วมแน่นอน

แล้วผมถามว่าไอ้คนฝั่งธนฯ มันผิดตรงไหน คุณไปทำเขาถึงขนาดนี้ แล้วพอคุณผันมาทางฝั่งตะวันตก ฝั่งธนฯ เนี่ย ฝั่งธนฯ มันคลองขวาง มันจะมีคลองลงทะเลได้ยังไง ถูก/ไม่ถูก

เติมศักดิ์ - แล้วก็ประสิทธิภาพในการจัดการน้ำในฝั่งตะวันตก ก็น้อยกว่า

สนธิ- คือมันไม่ใช่ประเด็นน้อย หรือไม่น้อย ประเด็นคือฝั่งตะวันตกมันไม่มีที่ระบายน้ำ ประเทศไทย กรุงเทพมหานครเนี่ย เขารองรับน้ำเหนือมา เขาจัดที่ระบายน้ำจากน้ำเหนือมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 ไว้ตรงนี้

เติมศักดิ์- ด้านตะวันออกนี่

สนธิ - นี่ล่ะ เขาจัดไว้ตรงนี้ แล้วทะลึ่งเสือกมาสร้างบ้านไว้ทำไม ทะลึ่งมาสร้างนิคมฯ บางชันไว้ทำไม ทะลึ่งมาทำรั้วนี้ไว้ทำไม แล้วมาขวางทางน้ำ แล้วยังให้สัมภาษณ์อย่างที่คุณเติมศักดิ์อ่าน บอกว่าเชื่อว่าไม่มีน้ำท่วมอีกแล้ว แล้ววันนี้ถ้ามีน้ำท่วมตัดคอคุณได้มั้ย ตัดคอคุณ 7 ชั่วโคตรได้มั้ย เมื่อเทียบกับประชาชนเป็นล้านคนที่เขาเดือดร้อน สัตว์เลี้ยงที่เขาต้องตายในบ้าน คนเฒ่าคนแก่ที่ต้องถูกอุ้มออกจากบ้าน ทุกวันนี้กลับบ้านไม่ได้ จะกลับบ้านต้องนั่งเรือกลับบ้าน เพราะความริยำของนักอสังหาริมทรัพย์ที่เห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นพรรคพวกของพรรคการเมือง

เติมศักดิ์- เขายังบอกด้วยว่า ทำเลนี้อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ อีกไม่นานจะเปิดใช้แล้ว ควรใช้ประโยชน์ของที่ดินให้สอดคล้องกับความจริง คือมีสนามบินแล้วก็ควรมีบ้าน ...

สนธิ- ถูกต้อง จริงๆ แล้วตั้งแต่แรกสุดไอ้สนามบินบ้านี่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ไม่ควรจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ทีนี้ตอนที่สนามบินเกิดขึ้น ผมเนี่ยสังเวชคนไทย ไอ้พวกนักวิศวะ ไอ้พวกนักวิทยาศาสตร์ ไอ้พวกที่อยู่กระทรวงคมนาคม ไอ้พวกที่กระสันอยากจะสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ไอ้นักการเมืองที่กระสันเพราะอยากได้รับเงินค่าก่อสร้าง รับเงินค่าถมทราย รับโน่นรับนี่ ไอ้พวกบ้าพวกนี้ คุณเติมศักดิ์รู้มั้ยมันคืออะไร ไอ้พวกบ้าพวกนี้ในขณะนั้นมันเถียงกับคนซึ่งไม่เห็นด้วยกับสนามบินสุวรรณภูมิ มันบอกว่าสนามบินสุวรรณภูมิถึงจะอยู่บนที่เลน ที่โคลน แต่เป็นที่เลนที่โคลนเนื่องจากเทคโนโลยีสมัยนี้สร้างได้ สร้างได้ ดูสิเขายังสร้างสนามบินในทะเล อย่างเช่นเช็ก แลป ก๊ก สนามบินโอซากา เขาสร้างบนทะเลได้ โธ่! ไอ้สันขวาน เขาไม่ได้เถียงว่ามึงสร้างไม่ได้ เขากำลังบอกว่าไอ้นี่คือช่องทางที่น้ำมันจะต้องผ่านและลงทะเล มึง...โทษนะคุณเติมศักดิ์ภาษาผม มึงไปขวางทางเขา แต่ความที่มันอยากจะสร้างเพราะตั้งแต่สมัยจอมพลถนอม จอมพลสฤษดิ์ ไปเชื่อฝรั่ง เหมือนกับที่วันนั้นคุณดูหรือเปล่า คุณเติมศักดิ์ได้ดูทีวีมั้ยที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พูดกับคุณประเสริฐ สมะลาภา ปลัด กทม. ท่านบอกว่า คุณประเสริฐโดนฝรั่งหลอก เหมือนกับข้าราชการเมืองไทยพอเห็นฝรั่งยกมือไหว้เป็นพ่อเลย เหมือนกัน ไม่พิจารณาถึงภูมิปัญญาของปู่ย่าตายาย

สมัยนั้นพอฝรั่งบอกว่าที่นี้เหมาะจะสร้าง คุณรู้ไหมสมัยก่อนใครกว้านซื้อที่ดิน ข้าราชการทั้งนั้น ข้าราชการกระทรวงคมนาคม ข้าราชการสภาพัฒนาแห่งชาติ เพราะสภาพัฒน์เป็นผู้ทำเรื่องและเสนอว่า นี่คือแผนพัฒนาแห่งชาติ บรรจุสนามบินสุวรรณภูมิเข้าไปในแผน ที่ดินของข้าราชการทั้งนั้น พอซื้อมาเป็นเครือข่าย ข้าราชการระดับซี 11 ซื้อ ซี 10 ซื้อ ซี 9 ซื้อ ซี 8 ซื้อ ซี 7 ซื้อ ในที่สุดเลยเป็นเครือข่ายที่บอกว่า สนามบินสุวรรณภูมิต้องสร้าง ไม่สร้างไม่ได้ ทุกคนประสานเสียงหมด มีผมกับอีกไม่กี่คนเป็นไอ้บ้าออกมาเถียง บอกว่าสร้างไปทำไม ดอนเมือง ที่มันดอนที่มันสูง น้ำไม่ท่วม ไม่ใช่หนอง ผมพูดมาตั้งนานแล้วว่า คนสร้างสนามบินหนองงูเห่ามันโง่หรือแกล้งโง่ คนโบราณเรียกดอนเมืองว่า ดอนเมือง เพราะอยู่ที่ดอน ที่ดอนคือที่สูง คนโบราณเรียกที่เก็บน้ำว่า หนอง เพราะอยู่ที่ต่ำ เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นหนองงูเห่า ทำไมไม่ไปสร้างดอนเมือง ขยายดอนเมือง ติดกองทัพอากาศ ผมไม่เห็นจะยากอะไรกองทัพอากาศ กองทัพอากาศพูดกับเขารู้เรื่อง คุณย้ายกองทัพอากาศทั้งกองทัพ คุณเอาเทปที่ผมเคยพูด ผมจะเห็นอะไรก่อนเวลาเสมอ ผมพูดตลอดเวลาว่า ให้ย้ายกองทัพอากาศ ไปขยายที่กำแพงแสน สร้างสนามบินให้เขา สร้างโรงพยาบาลให้เขา สร้างบ้านให้เขาอยู่ สร้างโรงเรียนให้เขา สร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา เบ็ดเสร็จใช้เงินไม่เกิน 30,000 - 40,000 ล้าน เขาอยู่ได้สบาย แล้วใช้พื้นที่ตรงนั้นสร้างอีก 2 รันเวย์ยังได้ สร้างอีกเทอร์มินอล อยู่ฝั่งโน้น แล้วใช้รถไฟใต้ดินเชื่อม มันเพอร์เฟค แต่ที่ไม่เพอร์เฟคเพราะว่า มันไปซื้อที่ไว้เก็งกำไรเรียบร้อย นี่คือนักการเมืองกับข้าราชการไทย ปัญหาส่วนใหญ่

ปัญหาทั้งหมดมันแก้ได้กรณีเดียว คนที่เข้ามาแก้ต้องมีจิตสาธารณะ เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง วันนี้ถ้าเขาจะแก้ตรงนี้ เขาเจอเจ้าของบ้านจัดสรรชื่อนั้น เจอแลนแอนด์เฮ้าส์ เขาจะทำอย่างไร อย่าว่าแต่เพื่อไทยเลย ประชาธิปัตย์ก็เหมือนกัน พรรคการเมืองทุกพรรคจะเหมือนกันหมด ชัดเจนหรือยังคุณเติมศักดิ์ ผมพูดอย่างนี้เข้าใจดีใช่ไหมว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วมันต่อเนื่องไปอย่างไร

นอกจากนั้นยังมีเรื่องเลวๆ ทรามๆ อย่างเรื่องเขื่อนภูมิพล กับเขื่อนสิริกิติ์ ถ้าคุณอ่านข่าวให้ดีๆ ตอนที่น้ำในเขื่อนทะลัก หนังสือพิมพ์เคยไปสัมภาษณ์คนๆ หนึ่ง พูดว่า เขาตัดสินใจผิดพลาดเรื่องเขื่อน คนๆ นั้นคือ ปลอดประสพ สุรัสวดี ข้อเท็จจริงที่เขาตัดสินใจผิดพลาดเพราะว่า ผู้อำนวยการเขื่อนเขาบอกแล้วต้องระบายน้ำเขื่อนออก เพราะน้ำเหนือกำลังมา เขาบอกไม่ให้ระบาย เขาบอกอย่าฟังใครฟังผมคนเดียว เขาพูดอย่างนี้ ตอนหลังพอระบายมาเขารู้ว่าเขาพลาด เขาถึงสารภาพว่าผิด

เติมศักดิ์ - ประเมินผิด

สนธิ - เขาพูดอย่างนี้เลย เขายอมรับ เพราะฉะนั้นคนที่ทำให้น้ำเขื่อนทะลัก พวกเสื้อแดงทั้งหลายให้รู้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เที่ยวมาใส่ร้ายเบื้องสูง คุณรู้ไว้ด้วยคนที่สั่งให้เก็บน้ำในเขื่อนเอาไว้ ในที่สุดรับไม่ไหวต้องปล่อย คือพวกคุณเองชื่อ นายปลอดประสพ สุรัสวดี

เติมศักดิ์- การตัดสินใจไม่ปล่อยน้ำออกมามีเบื้องหลังเป็นการเมืองด้วย

สนธิ - เป็นการเมือง ผลประโยชน์ เพราะว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ รัฐบาลเพื่อไทยต้องการให้มีการจำนำข้าว เลยต้องการเก็บน้ำไว้เพื่อทำนาปีละ 4 ครั้ง เมื่อทำนาปีละ 4 ครั้ง มีข้าวมากขึ้น จำนำข้าวแล้วโกงกินกัน สรุปทั้งหมดคือ เจตนารมณ์ของการที่จะทำงานล่วงหน้าเพื่อโกงกิน แต่เผอิญน้ำมามากจนเกินกว่าเก็บรักษาได้เลยต้องปล่อยออกมา

เติมศักดิ์ - เป็นการปล่อยออกมาเมื่อสายไปแล้ว

สนธิ - สายไปแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วผมถึงบอกว่า ภัยพิบัติวิกฤตแห่งชาติ ใช้นักการเมือง ใช้พรรคการเมืองแก้ไม่ได้ แล้ววันนี้เป็นวันที่เราต้องให้นักการเมืองหยุดเล่นการเมือง 3 ปี 5 ปี เพื่อฟื้นฟูประเทศ ถ้าให้นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็ตามดำรงอยู่ในตำแหน่งต่อไปแล้วมากุมอนาคตของชาติ คุณจะเห็นคนฝั่งธนฯ ผู้เฒ่าผู้แก่ถูกยกขึ้นรถบรรทุก เห็นคนลำบากยากเย็น ทั้งหมดประชาชนคนไทยจะถูกนักการเมืองเลวทรามทั้งหลายไม่ว่าพรรคไหนก็ตามจับเป็นตัวประกัน

เติมศักดิ์ - พักกันก่อนช่วงหน้ากลับมาดูว่า ยุทธสาสตร์ของประเทศไทยที่ควรจะเป็นหลังจากนี้คืออะไร แล้วคำว่า นิวไทยแลนด์ ที่รัฐบาลชุดนี้พยายามขายฝันกับคนในประเทศ จริงๆ ใช่คำตอบของประเทศไทยหลังน้ำลดหรือเปล่า

เติมศักดิ์ - คนเคาะข่าวช่วงสุดท้ายนะครับ วันนี้เราฟังมุมมองจากคุณสนธิ ลิ้มทองกุล กับมหาอุทกภัยครั้งนี้ คุณสนธิได้พุดถึงกายภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคกลาง รวมทั้งพื้นที่ลุ่ม เป็นพื้นที่เกษตร แต่กลายมาเป็นนิคมอุตสาหกรรม เป็นพื้นที่รับน้ำ แต่ไปสร้างสิ่งขวางทางน้ำ พื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ บรรพบุรุษตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ออกแบบไว้ให้เป็นฟลัดด์เวย์ มีการเวนคืนที่ดินของประชาชนเพื่อไปทำทางให้เป็นทางน้ำไหล แต่ปัจจุบันไปสร้างสิ่งปลูกสร้าง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปสร้างสนามบินขวางทางน้ำในที่ที่ควรจะเป็นหนองน้ำ แต่ละฝ่ายมีผลประโยชน์แอบแฝงเล่นการเมือง มีการเมืองซ่อนรูป แทนที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม คุณสนธิครับ นิวไทยเลนด์ คือคำตอบไหมครับ

สนธิ- ก่อนที่จะพูดถึงรายละเอียดนิวไทยแลนด์ หรืออะไรก็ตาม ผมอยากจะถามคุณเติมศักดิ์ และท่านผู้ชมนิดหนึ่ง เขาเอาตัวเลข 9 แสนล้านมาจากไหน คุณเติมศักดิ์นึกออกไหม เขาบอกต้องการฟื้นฟูประเทศไทยด้วยเงิน 9 แสนล้าน นี่ไงผมยังสงสัย 9 แสนล้าน ผมจะบอกให้รู้ เมืองไทยหลังจากพ้นภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ไปแล้ว ฟื้นฟูจริงๆ ผมให้เบ็ดเสร็จไม่เกิน 150,000 ล้าน ถึง 2 แสนล้านสูงสุด ไม่ถึงต้อง 9 แสนล้าน แล้วทุกอย่างจะไปได้ดี แต่ต้องไม่ใช่นักการเมืองทำ สิ่งแรก ที่เราต้องทำ เราต้องกลับไปสู่คำว่า โอลด์ ไทยเลนด์เลย ไม่ใช่นิวไทยแลนด์ คนไทยสมัยโบราณ เขาเริ่มกันด้วยความเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนที่จะมาบริหารจัดการ จิตใจต้องมีความเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เมื่อไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เขาย่อมดูปัญหาออก ว่าต้องจัดการกับฝั่งตะวันออกเรียบร้อย น้ำทางฝั่งตะวันตก จะเคลื่อนมาทางฝั่งตะวันออกได้อย่างไร โดยเร็วที่สุด เขาต้องพิจารณาภายในไม่เกิน 48 ชั่วโมง ว่าจะต้องให้น้ำเดินมันติดอะไรบ้าง ถ้ามันติดถนนเส้นนี้ ทำลายถนนไป ถ้ามันติดหมู่บ้านจัดสรรตรงนี้ ซื้อทั้งหมู่บ้านเลย บอกผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านนี้บอกว่าเดี๋ยวจะรื้อนะ แต่ว่าเมื่อน้ำไปแล้ว เดี๋ยวจะให้เงินพวกคุณสร้างกันใหม่ คุณเสียอย่างมากก็ไม่เกินกี่พันล้าน หมื่นกว่าล้าน แต่คุณทำให้ความเสียหายจากหฃลายแสนล้าน ลดลงเหลือแค่ 1 - 2 หมื่นล้านแค่นั้นได้เอง

ฉะนั้นแล้วเมื่อคุณรู้ว่าน้ำจากตะวันตกมันมาทางไหน แล้วน้ำที่อยู่เหนือกรุงเทพฯ มันจะลงตะวันออก ติดอะไรทำลายตรงนั้นซะ ติดอะไรลอดได้ลอด ลอดไม่ได้ขยาย ขยายไม่ได้ ทุบทิ้ง ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ฟังพระเจ้าอยู่หัวฯ พูดซิ คุณต้องมีคนที่พร้อมจะบัญชาการได้ เข้าใจ เหมือนพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ท่านประชุมในวันนั้นที่เราดูวีทีอาร์ มีคุณปราโมทย์ ไม้กลัด มีคุณประเสริฐ สมะลาภา ท่านผู้ว่ากฤษดา อรุณวงศ์ มีท่านเชาวน์ ณ ศีลวันต์ มีหลายคนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งสิ้น ท่านพูดชัดเจนว่าทั้งหมดต้องทำภายใน 3 เดือน แต่ต้องเสร็จภายใน 3 วัน ก็คือเป็นเรื่องเร่งด่วน ไม่ใช่มาบอกว่าขอร้อง อย่าเพิ่งไปทำลายประตูน้ำ เอาตำรวจไปกั้น ไม่ใช่

วันนี้เป็นเรื่องของความเป็นความตาย มันเป็นเรื่องของการต้องเอาน้ำลดให้แห้ง ให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวตตามปกติให้ศาลเปิดตามปกติได้ ให้คนสามารถจะออกไปทำมาหากินได้ ให้คนสามารถปลูกผัก ผักราคาถูกลง ให้ไข่ไม่ใช่ใบละ 8 บาท ให้มีน้ำดื่มให้น้ำประปาสะอาด ให้ประชาชนมีความหวังต่อชีวิตซะบ้าง ว่าชีวิตเขายังสามารถที่จะดำรงอยู่ได้ ในลักษณะตามอัตภาพที่พอแก่ตัวเองของเขา ไม่ใช่มองไปก็มืดแปดด้านเลย ไม่ใช่จู่ๆบอก เตรียมอพยพจตุจักร อพยพไปไหน ศาลสั่งหยุดไปแล้ว กรุงเทพอาญาเหนือ อาญาใต้ ศาลอาญากลาง มีนบุรี สั่งหยุด ปทุมธานีสั่งหยุด ศูนย์ราชการดีเอสไอสั่งหยุด แต่คุณไม่สั่งหยุดทำงาน ประชาชนยังต้องไปทำงานอยู่ แล้ววันดีคืนดีคุณมาบอกว่าคนแถวจตุจักรให้อพยพ แล้วให้เข้าไปทำงาน สรุปคุณกำลังจะบอว่าให้เขาช่วยตัวเองใช่ไหม คุณก็พูดมาซิ พวกคุณช่วยตัวเองก็แล้วกัน คุณอย่ามาพูดได้ไหม ไม่ว่าทั้งผู้ว่า กทม. ไม่ว่าทั้งรัฐบาล คุณเลิกพูดทีได้ไหมเพราะฉะนั้นแล้ว จะต้องเอื้ออาทรกัน จะต้องประชุม แล้วสร้างความสามัคคีกันทุกหมู่ว่า นี่เป็นปัญหาส่วนรวมพวกเรานะ ลงมาช่วยกัน แต่ประชาชนจะมาช่วยคุณได้ ก็ต่อเมื่อคุณสามารถจะผลักดันน้ำพวกนี้ให้ออกไปในทิศทางที่มันกำลังจะออก ถ้ามันจะต้องผ่านไปในที่โซนที่จะต้องเป็นฟลัดด์เวย์ ถ้าคลองมันมีอยู่ พระเจ้าอยู่หัวฯ บอกแล้วนี่การขุดคลองท่าแนะนำ คือจริงๆแล้ว วิดีโอเทปปี 2538 คือแม่แบบของการระบายน้ำ คุณแทบจะไม่ต้องไปคิดเลย คุณใช้ตัวนั้นเป็นแม่แบบ แล้วคุณทำตามแม่แบบนั้น มันได้ผลทันที ต่างกันที่ว่า คุณต้องทำ 24 ชั่วโมง แล้วคุณต้องระดมกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศมาทำงาน วันนี้เขาไม่ให้กองทัพบกทำแล้ว ให้ตำรวจทำแทน เพราะเขากลัวทหารบกจะได้หน้า เพราะฉะนั้นแล้วคนที่คิดเล็ก คิดน้อย คิดแต่ประโยชน์ตัวเอง คนที่กลัวแม้กระทั่งเงาตัวเอง มันแก้ปัญหาประเทศชาติไม่ได้ คุณเอากองทัพบก เรือ อากาศเข้ามา ให้จัดสรร ฝั่งธนฯ ทหารเรือ รับผิดชอบ กรุงเทพฯ ทหารบก รับผิดชอบ ดอนเมืองขึ้นไป ทหารอากาศรับผิดชอบ ตำรวจรับผิดชอบบางส่วน และในขณะเดียวกัน รักษาความปลอดภัย ทุกหัวถนน คุณต้องมีจุดที่จะเชื่อมต่อให้ประชาชนเขาพึ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย จะต้องขนคนออก จริงๆ แล้วเขาควรจะสั่งให้กรุงเทพฯ หยุดงาน 10 วันทำการ บวกวันหยุด 2 วัน 14 วัน แล้วใช้ 14 วันเคลียร์น้ำให้หมด จัดการกับทุกอย่างให้หมด ดึงคนออกมาให้ช่วยกันให้หมดให้ทุกคน ทุกข์ทรมาณเท่าเทียมกัน และขอให้ทุกคนทนทุกข์หน่อยแล้วขอเวลา 14 วัน แล้วจะจบ เขาไม่ทำ แต่นั่นคือวิธีการที่ควรจะทำ ไม่ต้องไปเกรงใจ ว่าที่นั้นเป็นที่ของใคร ที่คุณจะผันน้ำต่อไปเป็นที่ของใคร คุณใช้อำนาจเด็ดขาดคุณเลย ลอกคลองทันทีเลย เพื่อที่ให้มันออกมาผ่านที่ใครช่างหัวมัน (โทษที) สุวรรณภูมิคุณจะป้องกัน คุณป้องกันไป คุณป้องกันให้เต็มที่ แต่คุณเอาดอนเมืองให้แห้งก่อน ถ้ามันจำเป็น ถ้าสุวรรณภูมิมันต้องท่วม คุณก็ย้ายมาดอนเมือง

เติมศักดิ์- ถ้ามันจำเป็นต้องท่วม

สนธิ- ถ้ามันจำเป็นต้องท่วมก็ย้ายไปดอนเมือง แต่ต้องเอาดอนเมืองให้แห้งก่อน เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะเห็นว่าการที่จะทำเช่นนี้ มันต้องมีความสามัคคีเกิดขึ้น ความสามัคคีจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณสามารถทำให้ประชาชนเขาเห็นว่าคุณเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง คุณไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง คุณไม่ได้ทำเพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียง คุณไม่ได้ทำเพื่อให้ประชาธิปัตย์ขบเหลี่ยมพรรคเพื่อไทย คุณไม่ได้ทำเพื่อให้ประชาธิปัตย์เลือกตั้งงวดหน้ายกกรุงเทพฯ ทั้งกรุงเทพฯ คุณไม่ได้ทำเพื่อคุณกลัวว่าประชาธิปัตย์จะได้เสียงข้างเดียวในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นคุณต้องหาทางเข้ามาแทรกแซง ถ้าอย่างนั้นแล้วประชาชนเป็นตัวประกันหมด ผมถึงบอกว่าในขณะนี้ เพราะฉะนั้นนักการเมืองพอเริ่มรู้ทันก็จะเริ่มมาบอกว่า ให้เลิกเล่นการเมือง มาร่วมมือกัน เลิกบ้าอะไรกัน ลับหลังกันมันก็ต้องสั่งคนโน้นที สั่งคนนี้ที ขัดขวางกันไปขัดขวางกันมา คนที่ซวยก็คือประชาชน เพราะฉะนั้นแล้วนักการเมืองแก้ปัญหาวิกฤตของบ้านไม่ได้

เมื่อเรื่องนี้จบแล้ว คุณเติมศักดิ์ครับ โอลด์ไทยแลนด์ เขาทำกันยังไง โอลด์ไทยแลนด์นี่ วิธีการสำหรับผมแล้ว เอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ประชาชนที่อยู่ในเขตน้ำท่วม คุณเติมศักดิ์บ้านอยู่ในเขตน้ำท่วม

เติมศักดิ์- ใช่ครับ

สนธิ- ทะเบียนบ้านอยู่ไหน ปทุมธานีท่วมตรงไหน ทุกคนรู้ โกหกไม่ได้ เมื่อบ้านน้ำท่วม แล้วเวลาซ่อมบ้าน มีอยู่กี่อย่างที่ต้องซ่อม 3 อย่าง อย่างแรกคือพื้นบ้าน ถูก/ไม่ถูก อย่างที่สอง สนามหน้าบ้าน อย่างที่ 3 ไม่รั้วก็เป็นฝาผนังบ้าน แค่นั้นเอง ไม่เกี่ยวกับหลังคา ไม่เกี่ยวกับชั้นสอง ถูก/ไม่ถูก เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ในการซ่อมบ้านมันชัดเจน ว่ามันมีพื้นบ้าน มันมีรั้วบ้าน มันมีสนามหญ้า แล้วก็มีฝาผนัง ง่ายนิดเดียว รัฐบาลจัดงบประมาณมาก้อนหนึ่ง เจรจากับบริษัทวัสดุก่อสร้าง ขอซื้อวัสดุก่อสร้างตามที่ผมเอ่ยชื่อในราคาต้นทุนบวก 5 เปอร์เซ็นต์ แล้วตั้งศูนย์วัสดุก่อสร้างเป็นจุดๆ ตามพื้นที่น้ำท่วม ให้ประชาชนมาเบิกวัสดุก่อสร้างตามทะเบียนบ้านฟรี ฟรีไปเลย ค่าก่อสร้างคิดเป็นตารางเมตร คุณปูพื้นบ้านตารางเมตรละเท่าไรล่ะ มันมีนี่ ราคาน่ะ บ้านคุณมีกี่ตารางเมตรรู้อยู่แล้ว คำนวณเข้าไป 1.คุณทำเอง หรือ 2.คุณจะจ้างช่างมาทำ 3. รัฐบาลระดมพวกเด็กช่างก่อสร้างที่เรียนอาชีวะทั่วประเทศมาช่วยงานแล้วได้เงินด้วย

เติมศักดิ์ - ได้จ้างงานด้วย

สนธิ - ได้จ้างงานด้วย ใช่/ไม่ใช่ ใช้ไม่ถึงไม่กี่หมื่นล้าน ไม่ต้องถึงแสนล้าน คนที่ผ่อนบ้านอยู่ เจรจากับแบงก์ ให้เขาหยุดผ่อน 3 เดือน ไม่คิดดอกเบี้ยได้มั้ย แบงก์บอกไม่ได้ ให้หยุดได้แต่ดอกเบี้ยต้องไปทบ คุณก็ถามแบงก์กรุงไทย ที่เป็นของรัฐ ทำได้มั้ย นี่เป็นของรัฐ แบงก์กรุงไทยก็ต้องบอกว่าได้ ออมสินทำได้มั้ย ออมสินก็บอกว่าได้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทำได้มั้ย ได้ ก็ให้ 3 แบงก์นี้ทำ แล้วก็ประกาศว่ามีแบงก์ไหนบ้างที่ไม่ยอม ประกาศชื่อไปเลย แล้วคุณก็ สิ้นปีคุณลดภาษีนิติบุคคลสำหรับแบงก์ 3 แบงก์นี้ ที่ต้องเสีย 30 เปอร์เซ็นต์ ให้เหลือ 15 เปอร์เซ็นต์ ให้เขาเซฟภาษีไป 15 เปอร์เซ็นต์ เขาถือว่าได้กำไร แล้วลงโทษแบงก์ที่ไม่ช่วยประชาชน จบข้อ 2

3. คุณทำวิธีเดียวกันกับปทุมธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง นครสวรรค์ อยุธยา แล้วคุณต้องให้แบงก์กรุงไทย แบงก์ออมสิน ให้สินเชื่อคนทำมาหากินหาเช้ากินค่ำ ไม่ต้องมีอะไรค้ำประกัน คนละ 2 แสนบาท เพื่อให้เขาไปซื้อแผง ตั้งแผง ตั้งเตาทำผัดไท เพื่อทำมาหากิน

คุณเติมศักดิ์ น้ำท่วมครั้งนี้คนที่ลำบากที่สุดคือคนหาเช้ากินค่ำ เขาเป็นพ่อค้าแม่ขาย ที่เขาขายข้าวแกง หรือผัดไท เขาทำได้ 1 พันบาท หักค่าใช้จ่ายวันนี้กำไร 200 บาทต่อวัน 800 บาทเก็บไว้คือทุนต้องไปซื้อสำหรับทำพรุ่งนี้ 200 บาท 50 บาทเขาต้องจ่ายดอกนอกระบบ เหลือ 150 บาทใช้ทั้งครอบครัว วันนี้เขาไม่ได้ผัดไท หรือขายข้าวแกง มากี่วันแล้ว เขาเอาเงินที่ไหนกิน ณ วันนี้ คุณยังดียังมีบ้านอยู่ ยังมีญาติพี่น้อง บางคนมีเงินไปอยู่โรงแรมที่ระยอง บางคนมีญาติอยู่ภูเก็ต บางคนมีญาติอยู่หัวหิน แล้วคนหาเช้ากินค่ำมีญาติที่ไหนล่ะ คนพวกนี้คนที่ลำบาก ที่สำคัญพวกนี้เสื้อแดง รัฐบาลเสื้อแดงไม่ได้ช่วยเลย แล้วยังหลงอยู่อีก ผมไม่เข้าใจความโง่ของคนไทย ยังไม่เข้าใจ คนพวกนี้น่าสงสาร เพราะฉะนั้นเมื่อฟื้นฟูแล้วต้องให้ทุนเขามาตั้ง ไม่ต้อง 2 แสน 1 แสนก็ได้ 6 หมื่นก็ได้ เขาไปหาแผง ซื้อกระทะ เป็นทุนเริ่มต้น นี่คือสิ่งที่ต้องทำ

เสร็จเรียบร้อยสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป ธุรกิจใดก็ตามที่อยู่ในที่น้ำท่วม ถ้ามีหนี้กับแบงก์ไหนก็ตาม ขอให้แบงก์พักหนี้ ถ้าจะคิดดอกเบี้ยไม่ว่า เพราะเขามีธุรกิจ แต่ขอให้เป็นดอกเบี้ยเงินฝาก +0.5 เปอร์เซ็นต์ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากตอนนี้เท่าไหร่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 3.5 เปอร์เซ็นต์ พักหนี้ก่อน 6 เดือน ให้เขาฟื้นฟูกิจการ แล้วให้เขากู้ได้อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ของเงินกู้ที่ค้างอยู่ เพื่อเอาเงินก้อนนั้นมาฟื้นฟูธุรกิจ โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 3.5 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับเงินฝาก +0.5 เปอร์เซ็นต์ เกิดทุกอย่างเกิดหมด ไม่กี่เดือนทุกอย่างจะฟื้นฟู การค้าการขายเกิดขึ้น ถนนพังก็ซ่อม

ทีนี้สำคัญ ตามโอลด์ไทยแลนด์ ต้องมาดูว่า เราจะกำหนดฟลัดเวย์ที่ไหนบ้าง เรากำหนดเลยน้ำเหนือลงมาจากเหนือ ผ่านปิง วัง ยม น่าน มาอยู่แม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าพระยาล้นเอ่อ ในยามที่น้ำมาจริงๆ เอาตั้งแต่เหนือมาเลย ถ้าล้นเอ่อจังหวัดไหน จังหวัดนั้นมีแก้มลิงไหม ไม่มีไปขุดแก้มลิง จังหวัดนั้นแก้มลิงที่ขุด ขนาดอย่างน้อยที่สุด น้องๆ บึงบอระเพ็ด หรือน้องๆ กว๊านพะเยา เพื่อดึงน้ำเข้าไปไม่ให้ท่วมจังหวัด พอน้ำจะเต็มก็ปิดให้ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา หลายจังหวัดถ้าถูกดึงน้ำออก ปริมาณน้ำที่จะลงแม่น้ำก็จะน้อยลง

เอาละจะน้อยไม่น้อยไม่สำคัญ พอลงมาถึงปทุมธานี กำหนดได้ไหมตรงไหนเป็นฟลัดเวย์ ถ้ากำหนดได้ก็เคลียร์ซะ ที่ของใคร ตึกของใครซื้อเขา

เติมศักดิ์ - เวนคืน

สนธิ- ซื้อไปเลย แล้วทำเป็นฟลัดเวย์ แล้วเวนคืนข้างๆ ฟลัดเวย์อีกข้างละ 1 กิโล เรื่อยมาจนถึงทางภาคตะวันออก ถึงใครบ้าง เวนคืนซื้อลงทะเล เมื่อฟลัดเวย์ชัดแจ้งเราก็ประกาศแนวทางฟลัดเวย์ให้ทุกคนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง คลองสามวา ให้รู้ว่านี่คือที่ฟลัดเวย์

เติมศักดิ์ - ต่อไปนี้ต้องไม่มีสิ่งปลูกสร้าง

สนธิ - ใครอยากจะสร้างบ้านนอกเหนือจากที่ฟลัดเวย์ รัฐบาลไม่ลงทุนสาธารณูปโภคป้องกันน้ำท่วมให้คุณนะ มีใครอยากไป เจ้าของที่ดินที่ซื้อไว้เก็งกำไรทำอย่างไร ขายต่อ ราคาตก ในเมื่อนายเป็นคนเก็งกำไร ใช้ชีวิตหวังกำไรอยู่บนความฉิบหายของประเทศชาติ ถึงเวลาคุณเจ๊งได้เหมือนกัน นี่คือการทำฟลัดเวย์ เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยต้องตัดสินใจ

สุวรรณภูมิใหญ่เหลือเกิน ล้มไม่ได้หรอก แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือ หยุดขยาย เทอร์มินัล 3 ไม่ต้องสร้างแล้ว เอาเทอร์มินัล 3 ไปอยู่ดอนเมือง เฉือนเนื้อที่สุวรรณภูมิบางส่วนเป็นฟลัดเวย์ แล้วทำกำแพงดีๆ เพื่อไม่ให้น้ำเข้าสุวรรณภูมิ เพราะฉะนั้นสนามบินจะเพิ่มที่ดอนเมือง สุวรรณภูมิจะลดขนาดลง ไม่ใช่ขยายสุวรรณภูมิเพื่อบังที่ฟลัดเวย์เพิ่มเติมอีก

เติมศักดิ์ - ยิ่งไปขวางทางน้ำอีก

สนธิ - เสร็จเรียบร้อย เยียวยาประชาราษฎร์ ผมเล่าให้ฟังแล้วว่าจะต้องก่อสร้างฟรี ที่สำคัญ ถ้าทำแบบโอลด์ไทยแลนด์ ก็คือ เราต้องเดินหน้าหาความจริง ความจริงที่เราต้องหาคือ ใครเป็นคนสั่งให้กักน้ำในเขื่อน พิสูจน์ออกมาเลย ผอ.ท่านสั่งหรอ ถ้าท่านไม่กล้าพูดว่านักการเมืองคนไหนบอก คุณรับผิดชอบติดตารางตาย ถ้าคุณบอกว่าไม่ใช่ผมครับ คุณปลอดประสพ สมมตินะ เป็นคนสั่งผม คุณปลอดประสพต้องชี้แจง ต้องรับผิดชอบ ตั้งคำถามให้สังคมตอบ และให้คณะกรรมการตอบว่า ทำไมอยุธยา อ่างทองล่มทั้งจังหวัด แต่สุพรรณบุรีไม่มีน้ำเลย เพราะอะไร คุณบรรหารต้องตอบแล้วงานนี้ ทำไมประตูแม่น้ำท่าจีนถึงไม่เปิด กรมชลต้องตอบ ไม่อย่างนั้นอธิบดีกรมชลเอาตาย ถ้าอธิบดีกรมชลตัดสินใจบอกรัฐมนตรีสั่ง รัฐมนตรีก็ตาย ถ้ารัฐมนตรีบอกคุณบรรหารสั่ง คุณบรรหารก็ตาย ไล่เบี้ยไป

คำถามสุดท้าย ทำไมถึงไม่ผันน้ำไปทางตะวันออก ใครสั่ง ใครรับผิดชอบ เพราะน้ำจะไปทางตะวันตกได้ต้องมีคนสั่ง เมื่อกลับไปสู่ความจริงเราจะรู้ว่าใครผิด และเราอย่าไปลูบหน้าปะจมูก เพราะว่าคนพวกนี้เป็นคนที่ทำให้พวกชาติฉิบหาย ต้องเล่นงานให้เต็มที่ ถ้าต้องติดคุกติดตารางจนหัวโต ถ้าต้องเอามาประจานทั้งแผ่นดิน เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าน้ำท่วมคราวที่แล้วที่ประเทศชาติพังพินาศเพราะคุณก็ต้องทำ สเต็ปต่อไป โอลด์ไทยแลนด์ ก็ต้องมาพิจารณาว่า ถ้าเมืองไทยน้ำมันเยอะขนาดนี้ เมืองไทยมีอยู่ 2 อย่าง น้ำมากไปกับไม่มีน้ำเลย ถ้าเมืองไทยน้ำมันเยอะขนาดนี้ คำถามมีต่อมาว่า เมืองไทยควรจะเป็นเมืองเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ถึงเวลาแล้วที่จะต้องกำจัดอุตสาหกรรมให้มันเล็กลงแล้วก็พัฒนาเมืองไทยให้เปอร์เซ็นต์ สัดส่วนของเกษตรกับอุตสาหกรรมให้มันอยู่ในสัดส่วนที่สมดุลกัน ไม่ใช่อุตสาหกรรม 70 เกษตร 30 มันควรจะเป็นอย่างน้อยที่สุดเกษตร 60% อุตสาหกรรม 40%

ทั้งหมดนี้มันไม่ได้ใช้เงิน 9 แสนล้าน ทั้งหมดนี้มันใช้สติปัญญา ใช้ความกล้าหาญ และใช้จิตสาธารณะที่มีส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ไม่เอาส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญที่สุด ทั้งหมดนี้นักการเมืองทำไม่ได้ เพราะมันจะทำมันจะติดผลประโยชน์ตรงนั้นติดผู้มีอิทธิพล ติดผู้มีอุปถัมภ์พรรคตรงนี้ ติดตัวเอง มีการลงทุนตรงนั้น ติดเพื่อนตัวเอง ติดพ่อแม่ตัวเอง มีธุรกิจตรงนี้ ไม่มีทาง เมืองไทยต้องไม่มีนักการเมือง ไม่ว่าพรรคใดบริหารชาติบ้านเมือง อย่างน้อยที่สุด 5 ปี เราถึงจะฟื้นฟูประเทศได้ เราถึงจะมีความมั่นคง เราถึงจะสามารถเดินไปข้างหน้าได้ และเราถึงจะสามารถสลายสีได้ทุกที เพราะว่าคนที่มานำชาติบ้านเมืองนั้นจะเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง จะไม่เอาส่วนตัวเป็นตัวตั้ง จะไม่เอาคุณทักษิณเป็นตัวตั้ง จะไม่เอาอภิสิทธิ์เป็นตัวตั้ง จะไม่เอาผมหรือใครเป็นตัวตั้ง แต่เอาธงชาติไทยคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นตัวตั้ง

เติมศักดิ์ - เราต้องการโอลด์ไทยแลนด์ คือคำตอบ แต่โอลด์ โพลิติก ไม่ใช่คำตอบ

สนธิ - ไม่เอา ไม่มีทาง ทำไม่ได้ คุณเติมศักดิ์ ถ้าคุณยังยืนยันอยู่ วันนี้ถ้าคุณให้พรรคประชาธิปัตย์เข้ามา มันก็เหมือนเดิม วันนี้เพื่อไทยด่าประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ด่าเพื่อไทย แต่ตัวการที่ทำให้เกิดคือพรรคชาติไทยพัฒนา คุณบรรหาร ศิลปอาชา ไม่มีใครพูดถึงเลย เป็นอะไร เพราะทุกคนหวังว่าจะเอาคุณบรรหารไปร่วมรัฐบาล ต้นเหตุเลย นี่ไงเมืองไทย ไม่ได้เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ดันเอาคุณบรรหารเป็นตัวตั้ง แล้วก็ทะเลาะกัน กัดกันอยู่แค่เนี้ย แล้วเอาประชาชนคนไทยเป็นตัวประกัน

เติมศักดิ์ - นี่แหละครับ โอลด์ไทยแลนด์ที่สวยงาม ถ้ายังเป็นโอลด์โพลิติเชียล

สนธิ- ถ้ายังเป็นการเมืองแบบนี้ไม่มีวันที่จะเกิดขึ้น นิวไทยแลนด์ 9 แสนล้านตัวเลขมาจากไหนไม่สำคัญ คุณรู้ไหม 9 แสน โดยพื้นฐาน เงินงบประมาณ 100 บาท ลงไปถึงข้างล่างจริงเลย ถึงมือคนจริงๆ 40 บาท 60 บาทนี่มันกินเบี้ยบ้ายรายทาง คุณเติมศักดิ์ 9 แสนล้านนี่ 5 แสน 4 หมื่นล้านนี่ จะถูกโกงกินโดยนักการเมือง และกลุ่มทุนของนักการเมือง และผู้มีอิทธิพล 5 แสน 4 หมื่นล้าน ประเทศนี่อย่าว่าแต่เหลือแต่กระดูกเลย มันกินเข้าไปในปอดในตับ ไม่เหลือ คุณนึกว่าประเทศไทยรวยนักเหรอ ประเทศไทยกำลังจนนะ เพราะไอ้พวกนี้โกงชาติ โกงบ้านโกงเมือง

แล้วนายพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คิดเลยตอนนี้กำลังคิดหาช่องทางวิธีล้วงทางหลวงมา นายพิชัยคือใคร นายพิชัยคือเจ้าของร้านจิวเวลรี แม่เขาทำจิวเวลรีอยู่ตรงสีลม ทำไมนายพิชัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพราะว่านายพิชัยคอยบินตามคุณทักษิณตลอดเวลา ไปคอยดูแล เซ็นเช็คจ่ายเงินให้คุณทักษิณ คนคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก

เติมศักดิ์ - แต่ก็จะหาทางล้วงทางหลวงให้ได้

สนธิ - จะหาทางล้วงทางหลวงให้ได้ เอานิวไทยแลนด์เป็นตัวตั้ง

เติมศักดิ์ - เอาล่ะครับ นี่ก็คือบทสรุปว่าทำไมเราต้องการโอลด์ไทยแลนด์ แต่เราไม่ได้ต้องการการเมืองเก่า นักการเมืองเก่าๆ ที่น้ำเน่านะครับ ก่อนจะให้คุณสนธิได้ฝากอะไรทิ้งท้าย อยากให้คุณผู้ชม และคุณสนธิ ไปชม MV พร้อมๆ กันนะครับ เชิญครับ

MV : HBD คุณสนธิ

เติมศักดิ์ - เป็น MV อวยพรวันเกิดคุณสนธิ จากใจพนักงาน ASTV ทุกคน

สนธิ - ขอบคุณมากครับ

เติมศักดิ์ - คุณสนธิอยากฝากอะไรถึงคุณผู้ชมและพนักงานบ้างครับ เชิญครับ

สนธิ- ไม่มีอะไรครับ ซาบซึ้งมาก

เติมศักดิ์ - ขอบคุณมากนะครับคุณสนธิครับ คนเคาะข่าววันนี้ลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ



กำลังโหลดความคิดเห็น