ใครที่เคยได้เห็นแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม ขณะมวลน้ำมหึมาซึ่งมีพลังมหาศาลรายล้อมเมืองหลวง กรุงเทพฯ เป็นเสมือนไข่แดงเล็กๆ ที่น้ำรอวันไหลบ่าทะลักเข้ามา
คนที่ได้เห็นอดตระหนก ตกใจไม่ได้ ยังต้องลุ้นกันต่อไปเป็นรายเขตในพื้นที่แห้ง ไม่ต้องกลัวแล้วว่าน้ำจะมาหรือไม่ แต่พระแม่คงคา จะมาเยือนเราแน่ๆ เพียงแต่วันไหน และสูงเท่าไหร่ แค่นั้น
ฉะนั้น คนที่ยังปักหลัก กทม.ก็ต้องหาทางป้องกันด้วยตัวเองต่อไป
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไม่สามารถป้องกันและแก้ไขอะไรได้เลย สภาพที่เห็นหลายพื้นที่ ประชาชนต้องลอยคอ หาทางช่วยตัวเองไปวันต่อวัน
‘เอาอยู่ค่ะ’ แค่ได้ยินประชาชนก็ตระหนกตกใจแล้ว เอาอยู่ค่ะ หากเธอเอ่ยคำนี้มาเมื่อใด พ่อแม่พี่น้อง และนิคมอุตสาหกรรมแถบนั้น ให้เตรียมใจได้เลย เพราะมันเอาไม่อยู่แน่
นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมฯ ไฮเทค พระนครศรีอยุธยา นิคมฯ นวนคร ปทุมธานี ยิ่งลักษณ์ก็เคยพูดคำนี้ แล้วเป็นอย่างไร ทุกที่พังทลายไปหมด ไหนจะศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ดอนเมือง ฐานที่มั่นเก่า ก็มิอาจต้านกระแสน้ำเชี่ยวกรากได้ จนรัฐบาลต้องหนีหัวซุกหัวซุน ปล่อยทิ้งให้ข้าวของ รอจะขนไปบริจาคชาวบ้าน ต้องพังเสียหายยับเยิน
แม้จะย้ายมายัง อาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน ย่านวิภาวดี เป็นฐานที่มั่นแห่งใหม่ ห้าแยกลาดพร้าว แต่กระแสน้ำก็มาจ่ออยู่หน้าประตู รอวันทะลักเข้ามาในไม่ช้านี้แล้ว
นาทีนี้ ไม่มีใครเชื่อน้ำยารัฐบาลในการแก้ปัญหา
น้ำทะลักเข้ากรุงหลายเขตแล้ว อยู่ที่ว่าน้ำจะมามากหรือมาน้อย ตามแต่ความสูงต่ำแต่ละพื้นที่ พื้นที่แห้งใน กทม. ถือว่ายังโชคดี แต่ใช่ว่าพระแม่คงคาจะมาไม่ถึง แต่ยังไม่มาเยือนตอนนี้เท่านั้นเอง เช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ใน กทม.กำลังจะเป็นเป้าหมายต่อไป
จะว่าไปแล้ว จากข้อมูลทุกอย่างที่รัฐบาลมี ทั้งกำลังคน นักวิชาการ เครื่องมือ เจ้าหน้าที่ และอำนาจสั่งการ จะทำสิ่งใดขอเพียงแค่ ออกคำสั่ง หน่วยงานต่างๆพร้อมรับไปปฏิบัติทันที แต่ทว่า การแก้ปัญหาที่แล้วมาของยิ่งลักษณ์ ยิ่งแก้ ก็ยิ่งเละ ไปทุกที ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
ผู้นำเขลา หรือข้อมูลเคลื่อน หรือเป็นเพราะปัจจัยอื่นใด?
กระแสน้ำตามธรรมชาติ แน่นอนมันต้องไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา สถานการณ์คลี่คลายไปมากแล้ว กลายเป็นว่า มวลน้ำทั้งหมดมาจ่อกทม.แทน และกทม.ที่เป็นพื้นที่ต่ำกว่าพื้นที่ทั้งหมด ถึงอย่างไรก็คงหนีน้ำท่วมไม่พ้น อยู่ที่ว่าจะหนัก เบา แค่ไหน ต่างกันไป
เส้นทางน้ำ จากการระดมสมองนักวิชาการ รัฐบาลย่อมรู้และคาดการณ์เส้นทางที่น้ำจะไปได้อยู่ดี แต่ทำไมทุกที่ พังทลายไปกับน้ำหายนะกันหมด ไม่เพียงแค่ทรัพย์สินบ้านเรือนละลายน้ำไปนับไม่ถ้วน นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง ที่รัฐบาลกังวลนักหนาก็ทยอยจมใต้เมืองบาดาลไปจนเกือบหมด
น้ำรุกคืบมาทั้งตะวันตก ตะวันออก โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก น้ำรุกคืบมาแล้วทั้งพื้นที่ทวีวัฒนา บางบอน หนองแขม บางแค ดูจากทิศทางเป้าหมายต่อไปคือ กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำลงมา คงจะเป็นพื้นที่ที่จะต้องได้รับผลกระทบแน่นอน
มีการคาดการณ์ว่า จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่มีโรงงานเป็นหมื่นแห่ง และมีแรงงานs]kpแสนคน เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญ มีแรงงานทั้งไทยและต่างด้าว พื้นที่มหาชัย เปรียบเหมือนเป็นศูนย์กลางครัวโลก ในการผลิตและลำเลียงส่งสินค้า โดยเฉพาะ อาหารการกิน ป้อนคนกทม.และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนมาก ผลกระทบที่จะได้รับ ย่อมมหาศาลและหนักหนากว่ามาก เพราะมันเป็น ปัจจัยสำคัญยิ่งของมนุษย์ในการดำรงชีพ
คลังอาหารโลก หล่อเลี้ยงคนค่อนประเทศ และยังส่งออกไปต่างชาติอีก เมื่อตามทิศทางน้ำ ถึงอย่างไรพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีทางจะหนี เลี่ยงผลกระทบไปได้เลย หากครัวโลก ต้องพังทลายไป ไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไร
แปลกใจ รัฐบาลและทีมนักวิชาการ กลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เท่าที่ควร
ความเสียหายในพื้นที่สมุทรสาคร หากได้รับผลกระทบจริงๆ จะหนักหนาสาหัสมากกว่าพื้นที่อื่น และยังจะส่งผลกระทบต่อต่างชาติ อย่างเลี่ยงไม่ได้
กระแสน้ำที่เคยไหลท่วม นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ไฮเทค นวนคร รัฐบาลมีบทเรียน และเห็นผลที่ตามมาแล้วว่าเป็นอย่างไร แต่ดูไปแล้วจะไม่ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียนเอาเสียเลย
รัฐบาลมีอำนาจอยู่ในมือ เจ้าหน้าที่ และเครื่องมือมีพร้อมหมด แต่กลับไม่ทำอะไรเลย หรือต้องการจะปล่อยให้ เมืองมหาชัยครัวโลกต้องจมน้ำไปต่อหน้าต่อตาอีก
เท่าที่เห็น ภาคการเมือง แนวร่วมคนในพรรคเพื่อไทย ปีกเสื้อแดง พยายามโยงประเด็นการเมืองปัดสวะให้พ้นตัว โบ้ยไปยังรัฐบาลที่แล้ว และที่หยาบช้ากว่านั้น โทษไปยังเขื่อนยักษ์ 2 แห่ง เป็นต้นเหตุให้เกิดน้ำท่วม
ส่วนพี่ชายนายกรัฐมนตรี-ทักษิณ ชินวัตร ก็มีข่าวเตรียมจะหา แพะบูชายัญ ให้น้องสาว โทษไปยังรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลทำงานไม่เต็มที่ เตรียมจะปลดออก และลามไปยังต่างพรรค โดยเฉพาะ ธีระ วงศ์สมุทคร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่โทษว่า ให้ข้อมูลไม่ครบ ทำให้เกิดสถานการณ์เฉกเช่นวันนี้ และ จ้องจะปรับออกจากครม.อีกเช่นกัน เป็นเรื่องการเมืองหลังน้ำลด ที่ต้องรอดูกันต่อไป
แต่ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างที่ได้เห็นและรู้กันอยู่ ตามทฤษฎี การไหลไปของน้ำ จากสูง ลง ต่ำ ก็พอคำนวณได้แล้ว พื้นที่ต่อไป คือพื้นที่ใด และจะมีมาตรการป้องกัน เตรียมพร้อม ได้อย่างไร
ก่อนหน้าเราได้เห็นนิคมหลายแห่งจมน้ำไปแล้ว ทั้งที่เอกชนพยายามป้องกันเต็มที่ และก็ไม่อยากให้มันเกิดกับนิคมอื่นๆ เช่นกัน
แต่วันนี้ พื้นที่ จ.สมุรสาคร ครัวโลก กลายเป็นจุดเสี่ยงภัยไปทุกที โดยที่ รัฐบาล ไม่ได้มีแผนป้องกันอะไรไว้เลย ทำได้เพียงคิดจะทำ
ไม่มีใครโทษรัฐบาลที่มากับน้ำหรอก น้ำท่วมที่เป็นภัยธรรมชาติก็ไม่มีใครโทษ แต่ การแก้ปัญหาที่ใช้การไม่ได้อย่างเบาปัญญา ประชาชนเขารับไม่ได้จริงๆ
นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะมาเล่นบท บีบน้ำตาขอคะแนนความเห็นใจมันก็ไม่มีประโยชน์ น้ำตา ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา มีแต่น้ำมือกับน้ำใจเท่านั้นที่จะร่วมฟันฝ่า มหาอุทกภัย ไปได้
การแก้ปัญหาแบบโยนกันไป โยนกันมา โดยที่หลายหน่วยงานยัง กินแหนงแคลงใจกัน ยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้หนักขึ้นไปอีก โดยมีชาวบ้านตาดำๆ เป็นคนแบกภาระทั้งหมด
โดยเฉพาะพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน และพื้นที่อื่นๆ ใน จ.สมุทรสาคร คือเป้าหมายต่อไปของกระแสน้ำไหลบ่า
แต่มาตรการรัฐบาล ทั้งป้องกัน และเตรียมพร้อม ยังช้ากว่ากระแสน้ำอยู่เหมือนเดิม
คนที่ได้เห็นอดตระหนก ตกใจไม่ได้ ยังต้องลุ้นกันต่อไปเป็นรายเขตในพื้นที่แห้ง ไม่ต้องกลัวแล้วว่าน้ำจะมาหรือไม่ แต่พระแม่คงคา จะมาเยือนเราแน่ๆ เพียงแต่วันไหน และสูงเท่าไหร่ แค่นั้น
ฉะนั้น คนที่ยังปักหลัก กทม.ก็ต้องหาทางป้องกันด้วยตัวเองต่อไป
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไม่สามารถป้องกันและแก้ไขอะไรได้เลย สภาพที่เห็นหลายพื้นที่ ประชาชนต้องลอยคอ หาทางช่วยตัวเองไปวันต่อวัน
‘เอาอยู่ค่ะ’ แค่ได้ยินประชาชนก็ตระหนกตกใจแล้ว เอาอยู่ค่ะ หากเธอเอ่ยคำนี้มาเมื่อใด พ่อแม่พี่น้อง และนิคมอุตสาหกรรมแถบนั้น ให้เตรียมใจได้เลย เพราะมันเอาไม่อยู่แน่
นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมฯ ไฮเทค พระนครศรีอยุธยา นิคมฯ นวนคร ปทุมธานี ยิ่งลักษณ์ก็เคยพูดคำนี้ แล้วเป็นอย่างไร ทุกที่พังทลายไปหมด ไหนจะศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ดอนเมือง ฐานที่มั่นเก่า ก็มิอาจต้านกระแสน้ำเชี่ยวกรากได้ จนรัฐบาลต้องหนีหัวซุกหัวซุน ปล่อยทิ้งให้ข้าวของ รอจะขนไปบริจาคชาวบ้าน ต้องพังเสียหายยับเยิน
แม้จะย้ายมายัง อาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน ย่านวิภาวดี เป็นฐานที่มั่นแห่งใหม่ ห้าแยกลาดพร้าว แต่กระแสน้ำก็มาจ่ออยู่หน้าประตู รอวันทะลักเข้ามาในไม่ช้านี้แล้ว
นาทีนี้ ไม่มีใครเชื่อน้ำยารัฐบาลในการแก้ปัญหา
น้ำทะลักเข้ากรุงหลายเขตแล้ว อยู่ที่ว่าน้ำจะมามากหรือมาน้อย ตามแต่ความสูงต่ำแต่ละพื้นที่ พื้นที่แห้งใน กทม. ถือว่ายังโชคดี แต่ใช่ว่าพระแม่คงคาจะมาไม่ถึง แต่ยังไม่มาเยือนตอนนี้เท่านั้นเอง เช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ใน กทม.กำลังจะเป็นเป้าหมายต่อไป
จะว่าไปแล้ว จากข้อมูลทุกอย่างที่รัฐบาลมี ทั้งกำลังคน นักวิชาการ เครื่องมือ เจ้าหน้าที่ และอำนาจสั่งการ จะทำสิ่งใดขอเพียงแค่ ออกคำสั่ง หน่วยงานต่างๆพร้อมรับไปปฏิบัติทันที แต่ทว่า การแก้ปัญหาที่แล้วมาของยิ่งลักษณ์ ยิ่งแก้ ก็ยิ่งเละ ไปทุกที ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
ผู้นำเขลา หรือข้อมูลเคลื่อน หรือเป็นเพราะปัจจัยอื่นใด?
กระแสน้ำตามธรรมชาติ แน่นอนมันต้องไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา สถานการณ์คลี่คลายไปมากแล้ว กลายเป็นว่า มวลน้ำทั้งหมดมาจ่อกทม.แทน และกทม.ที่เป็นพื้นที่ต่ำกว่าพื้นที่ทั้งหมด ถึงอย่างไรก็คงหนีน้ำท่วมไม่พ้น อยู่ที่ว่าจะหนัก เบา แค่ไหน ต่างกันไป
เส้นทางน้ำ จากการระดมสมองนักวิชาการ รัฐบาลย่อมรู้และคาดการณ์เส้นทางที่น้ำจะไปได้อยู่ดี แต่ทำไมทุกที่ พังทลายไปกับน้ำหายนะกันหมด ไม่เพียงแค่ทรัพย์สินบ้านเรือนละลายน้ำไปนับไม่ถ้วน นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง ที่รัฐบาลกังวลนักหนาก็ทยอยจมใต้เมืองบาดาลไปจนเกือบหมด
น้ำรุกคืบมาทั้งตะวันตก ตะวันออก โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก น้ำรุกคืบมาแล้วทั้งพื้นที่ทวีวัฒนา บางบอน หนองแขม บางแค ดูจากทิศทางเป้าหมายต่อไปคือ กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำลงมา คงจะเป็นพื้นที่ที่จะต้องได้รับผลกระทบแน่นอน
มีการคาดการณ์ว่า จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่มีโรงงานเป็นหมื่นแห่ง และมีแรงงานs]kpแสนคน เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญ มีแรงงานทั้งไทยและต่างด้าว พื้นที่มหาชัย เปรียบเหมือนเป็นศูนย์กลางครัวโลก ในการผลิตและลำเลียงส่งสินค้า โดยเฉพาะ อาหารการกิน ป้อนคนกทม.และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนมาก ผลกระทบที่จะได้รับ ย่อมมหาศาลและหนักหนากว่ามาก เพราะมันเป็น ปัจจัยสำคัญยิ่งของมนุษย์ในการดำรงชีพ
คลังอาหารโลก หล่อเลี้ยงคนค่อนประเทศ และยังส่งออกไปต่างชาติอีก เมื่อตามทิศทางน้ำ ถึงอย่างไรพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีทางจะหนี เลี่ยงผลกระทบไปได้เลย หากครัวโลก ต้องพังทลายไป ไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไร
แปลกใจ รัฐบาลและทีมนักวิชาการ กลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เท่าที่ควร
ความเสียหายในพื้นที่สมุทรสาคร หากได้รับผลกระทบจริงๆ จะหนักหนาสาหัสมากกว่าพื้นที่อื่น และยังจะส่งผลกระทบต่อต่างชาติ อย่างเลี่ยงไม่ได้
กระแสน้ำที่เคยไหลท่วม นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ไฮเทค นวนคร รัฐบาลมีบทเรียน และเห็นผลที่ตามมาแล้วว่าเป็นอย่างไร แต่ดูไปแล้วจะไม่ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียนเอาเสียเลย
รัฐบาลมีอำนาจอยู่ในมือ เจ้าหน้าที่ และเครื่องมือมีพร้อมหมด แต่กลับไม่ทำอะไรเลย หรือต้องการจะปล่อยให้ เมืองมหาชัยครัวโลกต้องจมน้ำไปต่อหน้าต่อตาอีก
เท่าที่เห็น ภาคการเมือง แนวร่วมคนในพรรคเพื่อไทย ปีกเสื้อแดง พยายามโยงประเด็นการเมืองปัดสวะให้พ้นตัว โบ้ยไปยังรัฐบาลที่แล้ว และที่หยาบช้ากว่านั้น โทษไปยังเขื่อนยักษ์ 2 แห่ง เป็นต้นเหตุให้เกิดน้ำท่วม
ส่วนพี่ชายนายกรัฐมนตรี-ทักษิณ ชินวัตร ก็มีข่าวเตรียมจะหา แพะบูชายัญ ให้น้องสาว โทษไปยังรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลทำงานไม่เต็มที่ เตรียมจะปลดออก และลามไปยังต่างพรรค โดยเฉพาะ ธีระ วงศ์สมุทคร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่โทษว่า ให้ข้อมูลไม่ครบ ทำให้เกิดสถานการณ์เฉกเช่นวันนี้ และ จ้องจะปรับออกจากครม.อีกเช่นกัน เป็นเรื่องการเมืองหลังน้ำลด ที่ต้องรอดูกันต่อไป
แต่ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างที่ได้เห็นและรู้กันอยู่ ตามทฤษฎี การไหลไปของน้ำ จากสูง ลง ต่ำ ก็พอคำนวณได้แล้ว พื้นที่ต่อไป คือพื้นที่ใด และจะมีมาตรการป้องกัน เตรียมพร้อม ได้อย่างไร
ก่อนหน้าเราได้เห็นนิคมหลายแห่งจมน้ำไปแล้ว ทั้งที่เอกชนพยายามป้องกันเต็มที่ และก็ไม่อยากให้มันเกิดกับนิคมอื่นๆ เช่นกัน
แต่วันนี้ พื้นที่ จ.สมุรสาคร ครัวโลก กลายเป็นจุดเสี่ยงภัยไปทุกที โดยที่ รัฐบาล ไม่ได้มีแผนป้องกันอะไรไว้เลย ทำได้เพียงคิดจะทำ
ไม่มีใครโทษรัฐบาลที่มากับน้ำหรอก น้ำท่วมที่เป็นภัยธรรมชาติก็ไม่มีใครโทษ แต่ การแก้ปัญหาที่ใช้การไม่ได้อย่างเบาปัญญา ประชาชนเขารับไม่ได้จริงๆ
นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะมาเล่นบท บีบน้ำตาขอคะแนนความเห็นใจมันก็ไม่มีประโยชน์ น้ำตา ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา มีแต่น้ำมือกับน้ำใจเท่านั้นที่จะร่วมฟันฝ่า มหาอุทกภัย ไปได้
การแก้ปัญหาแบบโยนกันไป โยนกันมา โดยที่หลายหน่วยงานยัง กินแหนงแคลงใจกัน ยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้หนักขึ้นไปอีก โดยมีชาวบ้านตาดำๆ เป็นคนแบกภาระทั้งหมด
โดยเฉพาะพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน และพื้นที่อื่นๆ ใน จ.สมุทรสาคร คือเป้าหมายต่อไปของกระแสน้ำไหลบ่า
แต่มาตรการรัฐบาล ทั้งป้องกัน และเตรียมพร้อม ยังช้ากว่ากระแสน้ำอยู่เหมือนเดิม