“ปลอด” เชื่อมั่น กทม.ไม่ท่วมเพิ่ม-รับผันน้ำไปตะวันออกช้าหวั่นน้ำเน่า

“ปลอดประสพ” มั่นใจสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้น หลังผ่านช่วงน้ำทะลหนุนสูงสุด 31 ต.ค. ริมแม่เจ้าพระยาน้ำลดลง 3-4 ซม. กทม.ทั้งฝั่งพระนครและธนบุรีคงไม่ท่วมไปมากกว่านี้ จับตา 15 พ.ย.น้ำทะเลหนุนอีกครั้ง แต่ไม่มากเท่าเดิม ยอมรับระบายน้ำฝั่งตะวันออกช้าเพราะพื้นที่กว้าง แต่น้ำจะไม่ท่วมสูงกว่านี้ ห่วงน้ำเน่ามากกว่า



วันที่ 1 พ.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายปลอดประสพ สุรัสวดรี รมว.วิทยาศาสตร์และโทคโนโลยี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นหลังจากพ้นวันที 31 ต.ค.ซึ่งเป็นวันน้ำทะเลขึ้นสูงสุด โดยตามริมแม่เจ้าพระยาน้ำลดลง 3-4 ซม. ถ้าน้ำลงเรื่อยๆ ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับคนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ กทม.ทั้งฝั่งพระนครและธนบุรีคงไม่ท่วมไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทุ่งหรือน้ำหลาก

“เมื่อไหร่น้ำทุ่งหมดน้ำก็จะค่อยๆ ลดขณะนี้ฝั่งตะวันตกยังไม่หมดโดยจะเทมาเรื่อยๆ และสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงต่อ คือ วันที่ 15 พ.ย. เพราะน้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นแต่น้อยกว่าก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เราผ่านจุดน้ำทะเลสูงสุดมาแล้ว แต่ส่วนที่น้ำเข้ามาแล้วใน กทม.จะเอาออกได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับระบบสูบน้ำของ กทม.เท่านั้น โดยยืนยันว่าสถานการณ์ตอนนี้อยู่ที่การเฝ้าระวังน้ำทุ่งเท่านั้น” นายปลอดประสพกล่าว

นายปลอดประสพกล่าวว่า จากภาพรวมของสถานการณ์ทั้งใน กทม.และพื้นที่โดยรอบเชื่อว่าทุกอย่างดีขึ้นภายหลังน้ำทะเลได้หนุนสูงสุดไปแล้ว แต่ยอมรับการระบายน้ำฝั่งตะวันออกเป็นไปได้ช้าเพราะพื้นที่กว้างและเชื่อว่าน้ำจะไม่ท่วมสูง น้ำท่วมไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่แต่ห่วงน้ำเน่ามากกว่าซึ่งต้องเร่งดำเนินการแก้ไขควบคู่ไปกับการระบายน้ำ

เมื่อถามถึงการประสานงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภยน้ำท่วม (ศปภ.) และ กทม. นายปลอดประสพ กล่าวติดตลกว่า “ผมรู้แต่ว่าเวลาผมพูดอะไรผู้ว่าฯ กทม.จะบอกว่าให้ผู้ว่าฯ คนเดียว ทุกคนก็ฟังที่คุณชายพูด ก็วันนี้ท่วมแล้ว เพราะฉะนั้นคุณชายอย่าพูดแบบนี้บ่อยๆ เราต่างหวังดีประชาชนต่างมีข้อมูลเหมือนกัน”

เมื่อถามว่า แบบนี้ประชาชน กทม.ควรเชื่อข้อมูลฝ่ายไหน นายปลอดประสพกล่าวว่า “ดูเหมือนผมจะสูง 176 ซม.แต่คุณชายสูงไม่ถึง เพราะฉะนั้นผมตัวสูงกว่าก็ต้องเชื่อผมมากกว่า แล้วจะให้ตอบว่าไง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายปลอดประสพได้นำอุปกรณ์ที่ระบุว่าเป็นนวัตกรรมไม้จิ้มไฟ และประชาชนสามารถประดิษฐ์ใช้เองได้ มาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมสาธิตการตรวจไฟรั่ว โดยจิ้มไปที่ช่องปลั๊กไฟโดยตรง ซึ่งมีแสงไฟปรากฏที่ปลายด้ามด้วย

ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นการนำเอาท่อพีวีซีขนาดเล็ก ความยาวประมาณ 2 เมตร มาดัดแปลงบริเวณปลายด้าม ข้างหนึ่งเป็นลวดทองแดงเปลือย ความยาวประมาณ 4 นิ้วพันรอบด้วยเทปพันสายไฟ ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ตัดเอาเฉพาะตัวขั้วจับไขขวงชนิดที่สามารถใช้วัดไฟรั่วได้มาติดไว้ที่ปลายด้าม