ผู้ตรวจฯ ชงเบิกเงินบริจาค 50 ล้าน ซื้อถุงยังชีพเพิ่ม 1 แสนชุด อ้างจำเป็นหลังยอดบริจาคของลดลง แต่พื้นที่อุทกภัยขยายเพิ่ม เผยตั้ง คกก.กลั่นกรองจัดซื้อละเอียดยิบ รับประกันโปร่งใส บอกย้ำให้อุ่นใจ “ไอ้เก่ง” ไม่มีเอี่ยวเบิกของแล้ว ยันคลิปของบริจาคลอยน้ำเกลื่อนดอนเมืองถ่ายก่อนการอพยพ วอนอย่าจ้องจับผิด-ควรให้กำลังใจคนทำงาน
เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการบริหารจัดการสิ่งของบริจาคและดูแลการบรรจุถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการขออนุมัติจัดซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติมในราคาชุดละ 500 บาท จำนวน 1 แสนชุด รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยที่ได้รับการบริจาคจากประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เพื่อใช้ดำเนินการจัดซื้อ ซึ่งขณะนี้ได้รับการอนุมัติหลักการจากปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อ คาดว่าจะได้รับถุงยังชีพชุดแรกประมาณวันที่ 2 พ.ย.นี้ โดยจะทยอยจัดส่งครั้งละประมาณ 1-2 หมื่นชุด
นายจำเริญกล่าวด้วยว่า เหตุที่ต้องใช้เงินบริจาคของประชาชนมาจัดซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้กำลังการผลิตถุงยังชีพทำได้เพียง 2-3 พันชุดต่อวันเท่านั้น โดยต้องยอมรับว่ามีผู้มาบริจาคสิ่งของผ่าน ศปภ.น้อยลงด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ อีกทั้งหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดำเนินการบรรจุถุงยังชีพ ทั้งทหาร ตำรวจ หรือมูลนิธิต่างๆ รวมไปถึงผู้บังคับบัญชาก็ได้มีการเบิกจ่ายไปด้วยส่วนหนึ่งเพื่อนำไปมอบให้ประชาชนในขณะลงพื้นที่ประสบภัยต่างๆ ด้วย ดังนั้น เมื่อความเสียหายของอุทกภัยได้ขยายพื้นที่มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการความช่วยเหลือของผู้ประสบภัยที่มีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย จึงมีความจำเป็นต้องจัดซื้อเพิ่มเติมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการดำเนินการที่อาจเกิดความไม่โปร่งใสขึ้นได้ นายจำเริญชี้แจงว่า ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ จำเป็นต้องดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ แต่ขอยืนยันว่าการดำเนินการจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยมีคณะกรรมการจากหน่ยงานต่างๆ เช่น สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นต้น ในการเข้ามากลั่นกรองและพิจารณาการจัดซื้อ โดยเฉพาะในส่วนของมูลค่าสินค้าที่ขณะนี้รองอธิบดีกรมการค้าภายในรับผิดชอบในการพิจารณาราคาและสินค้าที่จะบรรจุในถุงยังชีพ
ส่วนกรณีนายการุน โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ดูแลและอนุมัติการเบิกจ่ายสิ่งของถุงยังชีพนั้น นายจำเริญยืนยันว่า ขณะนี้นายการุณ รวมไปถึง ส.ส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการเบิกจ่ายสิ่งของบริจาคแล้ว มีเพียงส่วนของข้าราชการเป็นผู้ดูแลเท่านั้น โดยมีคณะกรรมการในการเบิกจ่ายของชัดเจน และขอชี้แจงกรณีคลิปวิดีโอที่ปรากฏสิ่งของบริจาคตกค้างในคลังสินค้าท่าอากาศยานดอนเมืองที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตว่า เป็นคลิปวีดิโอเก่าที่ถ่ายไว้ก่อนที่มีการอพยพมาจากสนามบินดอนเมือง ขณะนี้ยืนยันว่าได้ขนย้ายสิ่งของต่างๆออกมาไว้ที่สนามศุภชลาสัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่มีเพียงเสื้อผ้าเก่าสภาพไม่สมบูรณ์ ที่คาดว่าอาจจะได้รับบริจาคมาจากผู้ค้าเสื้อผ้ามือสอง ส่วนห้องสุขาลอยน้ำ แพไม้ไผ่ หรือเรือนั้น อยู่ในความดูแลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นโจมตีกัน และอยากให้ช่วยให้กำลังใจในการทำงานมากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับยอดเงินบริจาคในกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ณ ปัจจุบันได้รับแล้วทั้งสิ้นประมาณ 800 กว่าล้านบาท และมีรายจ่ายรวมประมาณ 430 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เป็นจำนวนเงินประมาณ 325 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมโครงการจัดซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติม 50 ล้านบาทในครั้งนี้ ขณะที่ยังมีรายงานแจ้งด้วยว่า ได้มีการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งประมาณ 60 กว่าล้านบาทเพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยผ่านองค์กรและมูลนิธิช่วยเหลือต่างๆ อาทิ มูลนิธิกระจกเงา โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่มีข่าวว่าได้รับการสนับสนุนเป็นเงินจำนวน 3 ล้านบาทไปก่อนหน้านี้ด้วย