เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 อาจเป็นเพราะโง่แล้วอวดฉลาด หรือว่า “โง่แล้วขยัน” หรือไม่ก็สุดแล้วแต่ดุลยพินิจส่วนบุคคล หลังจากได้เห็นภาพการขนย้ายอุปกรณ์ เครื่องย้ายอพยพหนีภัยกันอย่างโกลาหล ทิ้งที่มั่นสำคัญจากทุ่งดอนเมืองไปปักหลักอยู่ที่ตึกกระทรวงพลังงานที่ 5 แยกลาดพร้าว คราวนี้ก็มั่นใจอีกครั้งว่า “เอาอยู่” ก็แหงอยู่แล้วเพราะอยู่ชั้นที่ 15 ถ้าขืนน้ำยังตามไปท่วมอีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ทุด
00 การเก็บข้าวของหนีน้ำกันแบบชุลมุนวุ่นวายของ ศปภ.ในนาทีสุดท้าย ทั้งที่เห็นสัญญาณน้ำที่ไหลทะลักเข้ามาตั้งแต่สามสี่วันก่อน มันสะท้อนให้เห็นถึงความ “ไม่เอาไหน” ของผู้นำของหน่วยงานดังกล่าวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสภาพที่เห็นทำให้ชาวบ้านที่นั่งดูอยู่ต้อง “ใจแป้ว”ขวัญเสียลงไปอีก เพราะถ้าเปรียบการรบก็ต้องบอกว่า ศปภ.ที่ดอนเมืองเป็น “ศูนย์บัญชาการใหญ่” การย้ายหนีก็เท่ากับกองบัญชาการแตก ผู้นำต้อง “หนีตาย” ถอยร่นไม่เป็นกระบวน
00 มิหนำซ้ำการย้ายหนียังเป็นแบบไร้แผนรองรับ ทำกันแบบปัจจุบันทันด่วน ทิ้งยุทธภัณฑ์ มวลชนไว้ข้างหลังเกลื่อนกลาด อย่างไรก็ดีสภาพที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เหนือความคาดหมายของชาวบ้านเพราะเลิกเชื่อถือมองเป็น “ตัวตลก” มาตั้งนานแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนแรกที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกว่ายังไงก็ไม่ย้ายศูนย์ฯอย่างเด็ดขาด แล้วผลก็ออกมาเป็นตรงข้ามทุกครั้ง
00 นาทีนี้ถือว่าความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ตัวนายกฯ รวมไปถึง ศปภ.ลดต่ำลงแทบเหลือศูนย์ จากเดิมคิดว่าจะเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ประสพภัยแต่กลายเป็นว่าเวลานี้พวกเขา “เป็นภาระ” ของสังคม กำลังเป็นผู้ประสพภัยที่ต้องการ “ถุงยังชีพ” ไปช่วยเหลือแล้ว เพราะขาดความหวังโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่นายกฯยิ่งลักษณ์ ลงมาถึงตัวประธานศูนย์คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก คนพวกนี้หมดสภาพโดยสิ้นเชิง
00 มีคนวิเคราะห์ทำไมรัฐบาลถึงไม่ย้ายศูนย์ ศปภ.ออกไปตั้งแต่แรก เมื่อเห็นน้ำเริ่มทะลักเข้ามา โดยนายกฯยิ่งลักษณ์ ยังยืนยันว่าไม่ย้าย หรือถ้าจะย้ายก็ต้องออกไปเป็นคนสุดท้ายต้องอพยพชาวบ้านที่มาอาศัยหลบภัยออกไปก่อน แต่กลายเป็นว่าเอาเข้าจริงกลายเป็นการ “พ่นน้ำลาย” ให้ฟังดูเท่ๆเท่านั้นเอง เนื่องจากมีข่าวประจานออกมาว่า ได้ทิ้งชาวบ้านอยู่ข้างในกว่า 600 คน และปล่อยให้ของบริจาคลอยย้ำเกลื่อนกลาดขาดการบริหารจัดการหรือทยอยขนออกไปถึงมือผู้ประสบภัย แต่กลับมีข่าวกั๊กของเอาไว้แจกพวกเดียวกัน รวมไปถึงให้ ส.ส.เพื่อไทยนำไปแจกเพื่อหาเสียงแบบทุเรศๆ
00 เชื่อหรือไม่บรรยากาศใน ศปภ.ยามนี้ช่างแตกต่างกับตอนแรกอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เคยเห็นพวกสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เดินกันขวักไขว่ เพื่อเตรียมฉวยโอกาสเปิดตัวก่อนกำหนด แต่เมื่อทุกอย่างพลิกผันผิดความคาดหมาย ก็ต้องรีบถอยฉาก ตอนนี้จึงไม่ค่อยเห็น สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ จาตุรนต์ ฉายแสง ออกโชว์กล้องออกสื่อให้รำคาญ
00 อย่างไรก็ดี “หนังยังไม่จบ” อย่าเพิ่งลุกออกจากที่นั่งต้องทนดูต่อไป ตอนนี้แม้ว่าจะได้เห็นความล้มเหลว สะท้อนของจริงว่าเป็นแค่พวก “มือกระจอก” ไม่สมราคาคุย แต่เพื่อให้ชัดเจนก็ต้องรออีกหน่อยให้หลังน้ำลดเสียก่อน เพราะถึงตอนนั้นของจริงกว่านี้ก็จะปรากฏให้เห็นมากขึ้นอีก และจะประจานความ “ห่วยแตก”มากกว่าเดิม เพียงแต่น้องปู อย่าถอดใจร้องกรี๊ดไปเสียก่อนละ !!