xs
xsm
sm
md
lg

น้ำทะลักอีก “ปู” สั่งกลับประชุม ครม.ที่ทำเนียบ-เตรียมแผนย้าย ศปภ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพน้ำท่วมหน้าสนามบินดอนเมือง วันที่ 28 ต.ค.54
น้ำทะลัก ศปภ.อีกรอบ “พงศพัศ” บอกสื่อ–จนท.ย้ายรถออกด่วน ด้าน “อำพน” เผย “ยิ่งลักษณ์” สั่งย้ายที่ประชุม ครม.หนีน้ำกลับมาทำเนียบ 1 พ.ย.นี้ ด้าน “บัณฑูร” มั่นใจ ทำเนียบฯ รับมือได้ เผยเตรียมแผนย้าย ศปภ.ขอดูสถานการณ์ก่อน ก่อกำแพงรอบทำเนียบฯ กันน้ำท่วมสูง 1.20 เมตร พร้อมใช้กระสอบทราย 30,000 ลูกกันน้ำซึม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากท่าอากาศยานดอนเมืองว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา น้ำที่ท่วมอยู่บนถนนวิภาวดี-รังสิต ได้เอ่อล้นคันกั้นน้ำเข้ามาในพื้นที่สนามบินอีกครั้ง หลังจากที่วานนี้ได้ล้นเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ โดยล่าสุดปริมาณน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากด้านที่ติดกับถนน และน้ำที่ผุดออกมาจากท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำได้ไหลเข้ามาถึงบริเวณด้านนอกอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งเป็นที่ทำการของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับบริเวณพื้นที่จอดรถ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งแจ้งให้ผู้ที่นำรถมาจอดบริเวณใต้อาคาร เคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากพื้นที่โดยด่วน เนื่องจากเกรงว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ศปภ.ได้ประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ศปภ.นำรถยนต์ทยอยออกจากพื้นที่ เนื่องจากระดับน้ำบางช่วงมีความสูงถึง 30 ซม. และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้การเดินทางสัญจรลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกให้สามารถใช้เส้นทางจราจรวิ่งย้อนศรเพื่อไปขึ้นทางพิเศษโทลล์เวย์ดอนเมืองได้ และทำการเปิดทางกลับรถพิเศษห่างจากทางขึ้นประมาณ 800 เมตร เพื่อเป็นเส้นทางมุ่งสู่ กทม.

ในส่วนของพื้นที่รันเวย์ของท่าอากาศยานดอนเมืองได้มีปริมาณน้ำท่วมแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉลี่ยความสูงของน้ำประมาณ 0.5 เมตร และมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีการเร่งสูบน้ำออกตลอดเวลาก็ตาม ทั้งนี้ยังพบว่า ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้ามาติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าสำรองที่ ศปภ. เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีที่อาจต้องมีการตัดไฟจากหม้อแปลงหลักหรือใช้การไม่ได้อีกด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 14.15 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งให้เปลี่ยนสถานที่การประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 1 พ.ย.นี้ กลับไปประชุมกันที่ทำเนียบรัฐบาล จากเดิมที่เคยประชุมกันที่อาคารวีไอพีระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง ตั้งแต่เปิด ศปภ.ที่อาคารภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำท่วมในขณะนี้ ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนสถานที่การประชุม ครม.นั้น เนื่องจากอาคารวีไอพีระหว่างประเทศนั้นมีน้ำล้นมาจากถนนวิภาวดีรังสิตเข้ามา ภายในถนนหน้าอาคารวีไอพีระหว่างประเทศ จึงทำให้การสัญจรบริเวณนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากอีกทั้งสถานที่จอดรถมีไม่เพียงพอ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจึงเป็นห่วงในเรื่องนี้

ด้าน นายบัณฑูร สุภัควาณิชย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการกลับไปใช้ทำเนียบรัฐบาลในการประชุม ครม.ว่า ส่วนของทำเนียบรัฐบาลมีการเตรียมการป้องกันไว้แล้วเช่นกัน หลังจากสถานการณ์น้ำมีการขยายพื้นที่เข้าสู่ กทม. แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหาในการประชุม ครม. ส่วนกรณีที่ท่าอากาศยานดอนเมืองน้ำเริ่มทะลักเข้าพื้นที่จนส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกกับเจ้าหน้าที่ของ ศปภ.นั้น จริงๆ แล้วเราได้เตรียมแผน 1 และแผน 2 รับมือไว้บ้างแล้ว แต่ต้องดูสถานการณ์ ทั้งนี้ รัฐบาลไม่สามารถใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ตั้งของ ศปภ.ได้ เนื่องจากสถานที่ไม่เพียงพอ เพราะ ศปภ. มีหน่วยงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงสถานที่ที่จะใช้เป็น ศปภ.นั้นจะต้องสะดวกในการทำงานและการเดินทางของเจ้าหน้าที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งมีคลองเปรมประชากรอยู่ด้านหน้าถนนนครปฐม และคลองผดุงกรุงเกษม อยู่ด้านข้าง ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีการระดมกระสอบทรายจำนวนหลายคันรถสิบล้อ และระดมกำลังข้าราชการจากหลายหน่วยงานมาก่อกำแพงซีเมนต์ และกำแพงกระสอบทรายล้อมรอบทำเนียบความสูง 2 เมตร และกระจายกำลังบางส่วนไปทำกำแพงความสูง 2 เมตร ที่บ้านพิษณุโลกไว้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ รถพ่วง 18 ล้อ และรถบรรทุก 10 ล้อ ได้ขนกระสอบทรายจำนวนมากมาไว้ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งในขณะนี้น้ำได้รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งดำเนินการในภารกิจนี้กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ขนกระสอบทราย เพื่อทำเป็นแนวป้องกันรอบทำเนียบรัฐบาล และวันนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยวิธีการทำแนวป้องกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าจะใช้อิฐบล็อกทำเป็นกำแพงก่อขึ้นไป โดยมีความสูงประมาณ 1.20 เมตร และชั้นที่ 2 ก็จะนำกระสอบทราย มาทำเป็นแนวป้องกันอีกชั้นเพราะเกรงว่าน้ำอาจจะซึมเข้ามาในพื้นที่ชั้นในได้ ซึ่งคาดว่าจะใช้ กระสอบทรายทั้งหมดประมาณ 30,000 กระสอบ
น้ำท่วมบนถนนวิภาวดีรังสิต หน้าสนามบินดอนเมือง










น้ำยังคงท่วมบริเวณรันเวย์ สนามบินดอนเมือง

กำลังโหลดความคิดเห็น