กปน.ยันน้ำประปาได้มาตรฐานดื่มได้ แต่สี-กลิ่นมีปัญหาบ้าง เหตุต้องเพิ่มคลอง หลังน้ำดิบด้อยคุณภาพลง แนะรองทิ้งไว้ 1 คืน หรือนำไปต้ม-กรองก่อนบริโภค มั่นใจมีไฟฟ้าผลิตน้ำไม่ขาด หากสุดวิสัย น้ำหยุดไหลไม่เกิน 10 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องสำรองน้ำไว้มาก
วันที่ 25 ต.ค.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายเจริญ ภัสสระ ผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.) แถลงว่า ในนามของ กปน.ที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ จ.นนทบุรี สมุทรปราการ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ขอให้ความมั่นใจการให้บริการน้ำประปากับประชาชน หลังจากที่เกิดอุทกภัยน้ำเหนือไหลบ่าลงมาเข้าคลองประปา ทาง กปน.ได้ดำเนินการปรับปรุงระบบการผลิตน้ำประปาตามขั้นตอนที่เพิ่มขึ้น และดูแลเป็นพิเศษจนขณะนี้สามารถให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชน อยู่ในมาตรฐานและมีความปลอดภัยต่อการใช้อุปโภค บริโภค ทั้งนี้ด้านคุณภาพทางเคมี กปน.ได้ตรวจสอบโลหะหนัก และสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย รวมทั้งแบคทีเรียชีวะวิทยาที่จะทำให้เป็นโรคอหิวาต์ หรือโรคบิด โดยการตรวจสอบผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนปัญหาในเรื่องของสีและกลิ่น อาจด้อยคุณภาพลง แต่ได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้วในส่วนของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่รับน้ำมาผลิตที่โรงงานผลิตน้ำบางเขน สามเสน และธนบุรี ซึ่งในพื้นที่ฝั่งธนบุรีที่ผลิตน้ำจากโรงงานมหาสวัสดิ์ ถ.กาญจนาพิเศก โดยรับน้ำจากแม่น้ำแม่กลอง อ.ท่าม่วง ที่มีความยาวประมาณ 100 กม.ซึ่งได้รับผลกระทบและทางการประปากำลังเร่งแก้ไขคาดว่าไม่เกิน 1 วันจะสามารถแก้ไขปะญหานี้ได้
นายเจริญกล่าวอีกว่า ส่วนปัญหากลิ่นคลอรีนที่มีประชาชนพบปนอยู่ในน้ำประปามีกลิ่นที่รุนแรงนั้น เนื่องจากการประปาจะต้องเพิ่มปริมาณคลอรีนในจำนวนที่มากขึ้น สาเหตุจากน้ำดิบด้อยคุณภาพลง โดยวิธีการแก้ไขนั้นประชาชนสามารถรองน้ำประปาทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้กลิ่นคลอรีนระเหยไป ทั้งนี้ยืนยันว่าน้ำประปาของ กปน.ยังมีคุณภาพสามารถดื่มได้ แต่หากประชาชนไม่มั่นใจก็สามารถนำน้ำไปต้ม หรือกรองด้วยสารส้มหรือด่างทับทิมก่อนดื่มได้
นายเจริญกล่าวต่อว่า ปริมาณน้ำดิบที่จะผลิตน้ำประปาในโรงงานของ กปน.ยังมีจำนวนเพียงพอ ส่วนการป้องกันน้ำท่วมโรงงานผลิตนั้น มีการป้องกันด้วยการเสริมคันป้องกันที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 4 เมตร พร้อมทั้งเตรียมป้องกันปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง โดยมีการประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อร่วมกันแก้ไข อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาไฟฟ้าขัดข้องจริง คาดว่าจะใช้เวลาแก้ไขมาเกิน 10 ชั่วโมง ประชาชนจึงไม่จำเป็นต้องสำรองน้ำไว้จำนวนมาก เพราะน้ำจะหยุดไหลไม่เกิน 10 ชั่วโมงเท่านั้น
ด้าน นายวิชัย สวงนชัยไพวงค์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวยืนยันว่าการผลิตไฟฟ้าเพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่ จ.นนทบุรี สมุทรปราการ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จะยังสามารถให้บริการได้ แม้จะมีน้ำท่วมขัง เนื่องจาก กฟน.มีระบบการจ่ายไฟแบบสคาดา ซึ่งหากมีเสาไฟต้นไหนที่จ่ายไฟไม่ได้ก็จะมีกระแสไฟส่งจากอีกฝั่งมาแทน อีกทั้งทาง กฟน.ยังมีระบบกล้องวงจรปิดติดตามสถานการณ์ไฟฟ้าตลอดเวลา โดยหากมีปัญหาเจ้าหน้าที่จะเร่งเข้าแก้ไขโดยด่วน