วิศวกรรมสถานฯ ออกแถลงการณ์สนับสนุนรัฐบาลออกคำสั่งเปิดประตูระบายน้ำทุกประตู ให้น้ำจากทางเหนือกรุงเทพฯ เข้าสู่ระบบระบายน้ำของ กทม.ลงสู่บ่อพักที่บึงพระรามเก้า-บึงมักกะสัน แล้วสูบเข้าอุโมงค์ยักษ์ระบายลงเจ้าพระยา
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรื่องสรุปความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ข้อความว่า วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ มีข้อสรุปความคิดเห็นในเรื่องปัญหาเร่งด่วนฉุกเฉินที่กำลังเกิดขึ้นปัจจุบัน ดังนี้
1.วสท.สนับสนุนให้รัฐบาลออกคำสั่งเปิดประตูระบายน้ำทุกประตู เพื่อให้น้ำจากทางด้านเหนือ กทม. คือที่ประตูน้ำคลองสองสายใต้ คลองพระยาสุเรนทร์ คลองสามวา และประตูน้ำที่อยู่ภายในคันกั้นน้ำด้านเหนือทุกประตู เข้ามาในระบบระบายน้ำของ กทม.ลงสู่บ่อพักน้ำที่บึงพระรามเก้าและบึงมักกะสัน โดยจะมีการสูบน้ำออกจากบึงพระรามเก้า ผ่านอุโมงค์ขนาดใหญ่ไปออกที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ส่วนที่บึงมักกะสัน ผ่านอุโมงค์ขนาดใหญ่ระบายน้ำไปสถานีสูบน้ำวัดช่องลม เพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในส่วนล่างของ กทม. โดยไม่เกิดเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนน้อยที่สุด
2.วสท.เสนอให้รัฐบาลดำเนินการขยาย ขจัดสิ่งกีดขวางตามลำคลองภายใน กทม.และปริมณฑลเพื่อให้น้ำไหลผ่านอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว
นอกจากนี้ วันเดียวกัน วสท.ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของพนังกั้นน้ำ เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ต้องการเสริมประสิทธิภาพของคันกั้นน้ำในสถานการณ์อุทกภัยให้มีความเข้มแข็งทนทานต่อการกัดไหลเซาะของน้ำ โดยคำนึงถึงการใช้วัสดุในพื้นที่ที่หาได้โดยสะดวก และมีการคำนวณตามหลักวิศวกรรมเทคนิกธรณี
ซึ่งวิธีเสริมพนังกั้นน้ำให้แข็งแรงมี 2 วิธีคือ 1.สำหรับพนังกั้นน้ำเก่าที่ทำจากดินได้เสริมฐานด้านหลังของพนังกั้นน้ำให้กว้างขึ้นด้วยดิน และหากต้องการให้สูงขึ้นให้เสริมด้วยกระสอบทราย โดยให้มีความกว้างของฐานพนังกั้นต่อความสูงพนังกั้นไม่เกิน 1 ต่อ 2.5 2.ทำการลดความดันหน้าพนังกั้นน้ำทุกพนังที่มีอยู่ ตามรายละเอียดใน แถลงการฉบับที่ 3 การเพิ่มประสิทธิภาพของคันกั้นน้ำ