รองผู้ว่าฯ กทม.มั่นใจรับมือสถานการ์น้ำได้หากผ่าน 15-17 ต.ค.สบายใจ เชื่อไม่เลวร้ายกว่าปี 38 ห่วงมวลชนมากกว่ามวลน้ำ เร่งสร้างความเข้าใจด้านข่าวลือ ชี้ประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน กทม.เป็นเรื่องเข้าใจผิด โยนอาจเกิดปัญหาจากเว็บไซต์
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงการวางแผนรับมือสถานการณ์น้ำของกรุงเทพมหานครว่า แผนฉุกเฉินผู้ว่าฯ ได้ทำมาเป็นเดือนแล้ว ขณะนี้ถือว่าเราเข้าสู่ระบบฉุกเฉินปานกลาง เพราะเราเอาอยู่ ปัญหาขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องมวลน้ำ แต่เป็นปัญหาเรื่องมวลชนเพราะคนตื่นตระหนก บางส่วนเข้าไปเอากระสอบทราย หรือไม่พอใจพื้นที่ ที่แช่น้ำ ต้องเข้าไปชี้แจงโดยปฏิบัติการจิตวิทยา เพื่อให้ความมั่นใจ เพราะเมื่อมีข่าวลือแทบจะปล้นถุงทรายกลายถุงทองแล้ว
นายพรเทพกล่าวว่า ถ้าเขื่อนพังเข้ามาคือฉุกเฉินแล้ว หน่วยเบสของเรา 10 หน่วย และศูนย์ที่ผู้ว่าฯ ตั้งไว้ที่มีนบุรี ก็จะมีอุปกรณ์ มีคนมีรถดั๊ม รถตัก ก็จะออกทำงาน ส่วนพรุ่งนี้ที่น้ำจะขึ้นสูงผู้ว่าฯ จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ สำรวจพื้นที่และจะมีการสั่งการในพื้นที่ที่อาจมีน้ำรั่ว เพราะหากน้ำขึ้นสูงกำแพงอาจแข็งน้อยลง อาจมีรั่วหรือพังบ้าง และอาจจะต้องมีการเตรียมการเป็นพิเศษเหมือนอย่างเคย แล้วพนักงาน 5,000 คน ที่จะบายน้ำก็เตรียมการไว้อยู่แล้ว ขณะนี้ก็มีการตรวจแนวเขตให้ความมั่นใจกับประชาชน
“ขณะนี้มีเรื่องข่าวลือ เราต้องมีกระบวนการบริหารข่าวลือ มีข่าวเข้ามาต้องวิ่งไปถามว่าข่าวลือหรือข่าวจริง ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวลือว่ากำแพงพัง น้ำข้ามมาแล้ว” นายพรเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าพรุ่งนี้ไม่จำเป็นต้องมีการอพยพ นายพรเทพกล่าวว่า ผู้ว่าฯ คิดว่าเราเอาอยู่ และตอนนี้น้ำค่อนข้างทรง แต่มีก้อนน้ำที่จะเข้ามา น้ำทะเลหนุนเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประกาศเตือนภัยให้กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ฉุกเฉินเฉพาะหน้า นายพรเทพกล่าวว่า อันนี้เป็นความเข้าใจผิด จริงๆ เราใช้กันเองเหมือนที่ระบายน้ำ เวลาฝนตกลงมามีจุดอ่อนที่เหมือนสะดือ เราจะบอกว่าจุดนี้เป็นจุดอ่อน เพราะเวลาเราสูบจากจุดอ่อนจุดนี้ก็จะเกิดจุดอ่อนจุดอื่น แต่นักข่าวไปเปิดเว็บไซต์ก็เลยไปเห็น
เมื่อถามว่าแต่เป็นข่าวแจกของ ศปภ. นายพรเทพย้อนถามว่า เมื่อไหร่ เป็นในเว็บไซต์ของเรา ที่เป็นความเข้าใจผิด เราเขียนว่าจุดอ่อน ก็เป็นความเข้าใจผิด เพราะแหล่งน้ำมันเต็ม ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแค่นั้นเอง ในเว็บไซต์พยายามแก้ข่าวอยู่ เพราะเปลี่ยนระบบเว็บไซต์ใหม่แล้ว
ส่วนหากผ่านสถานการณ์ช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ สถานการณ์จะสามารถเบาใจได้หรือไม่นั้น นายพรเทพกล่าวว่า คิดว่า วันที่ 15-17 ต.ค.ถ้าผ่านไปได้ก็น่าจะจบ น้ำจะขึ้นอีกครั้งประมาณ 2 เมตร 10 เซนติเมตร และคิดว่าเอาอยู่
ต่อข้อถามว่านายกรัฐมนตรีบอกว่ากรุงต้องทำชั้นในอีกชั้นเพื่อบล็อกไว้ นายพรเทพกล่าวว่า ตนคิดว่าขณะนี้ระบบดีแล้ว แต่ในคูคลองต่างๆ อาจจะมีการขุดลอกเพิ่มความลึก ความกว้างมากขึ้นเท่านั้น เราคงอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว นอกจากจะเปลี่ยนระบบท่อของเรา จาก 60 มิลลิเมตร เป็น 80 มิลลิเมตร เพราะระบบเราป้องกันน้ำฝน ส่วนระบบกันน้ำหลากไม่ได้คิดไว้มาก เพราะผ่านมาและผ่านไป แต่ปีนี้อาจจะมีระดับสูงหน่อย เท่าที่มอนิเตอร์ดูไม่ได้เลวร้ายกว่าปี 38 เรามั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
เมื่อถามว่า ศปภ.กับ กทม.ต่างคนต่างแถลง นายพรเทพกล่าวว่า วันนี้จะมีการแถลงร่วมกัน ผู้ว่าฯก็คิดว่าเป็นความตั้งใจดีของทุกคน แต่อาจจะไม่ได้สอบถามกันให้ชัดเจน เรามีหน้าที่ดูแลกรุงเทพอยู่แล้ว ถ้าปัญหาเกิดขึ้นเรารับผิดชอบตรงๆ คือ เรามาจากการเลือกตั้ง มันไม่มีทางที่เราจะให้ข่าวลวง หรือพูดเกินจริง อาจมีความเข้าใจผิดบางอย่าง แต่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจไม่ดี อาจตั้งใจดีเกินไป
