กทม.ย้ำชัดยังรับมือสถานการณ์น้ำท่วมได้ เผยเตรียมตั้งศูนย์ให้ข้อมูลข่าวสารแบบบูรณาการ ขณะที่ประกาศ 2 เขตบางแค-มีนบุรี เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.ว่า ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านในพื้นที่ยังคงสามารถรับมือได้ โดยทางกทม.ได้เตรียมการในเรื่องของโครงการแก้มลิง ซึ่งได้ทำการพร่องน้ำในทุกพื้นที่ เพื่อรองรับน้ำที่จะไหลผ่านเข้าสู่กทม. และยืนยันว่าจะสามารถรองรับน้ำได้ แต่ก็ไม่ประมาท แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายที่ยังแสดงความห่วงใย ส่วนปริมาณฝนในช่วง 2-3 วันนี้ น่าจะมีปริมาณที่ลดน้อยลง ซึ่งน่าจะตกไม่เกิน 20 มิลลิเมตร ในช่วงนี้ แต่ยังต้องเฝ้าระวังในเรื่องของพายุดีเปรชชั่นนาแกล ที่ขณะนี้อยู่ในทะเลจีนใต้ และจะเคลื่อนเข้าประเทศเวียดนาม และประเทศไทย ซึ่งก็จะทำให้มีผลกระทบด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนในเรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะนักเรียนในสังกัด กทม. ในช่วงนี้คงจะไม่ได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากโรงเรียนในสังกัด กทม.ได้ปิดภาคเรียนไปแล้ว นอกจากนี้ ในพื้นที่เขตรอบนอกของ กทม. จากการสำรวจผลกระทบผู้ประสบอุทกภัยใน กทม. พบว่ามีเกษตรกรเดือดร้อนจำนวน 534 ราย ในพื้นที่ 11 เขต โดยเขตที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ เขตบางแค และมีนบุรี ซึ่งได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว ส่วนเขตอื่นๆ ก็ยังอยู่ในความดูแลของสำนักงานเขตในพื้นที่
นายพรเทพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางกทม.เตรียมจัดตั้งศูนย์บูรณาการข่าวสาร ข้อมูล เพื่อให้การประสานและการให้ข้อมูล เป็นไปอย่างเชิงรุกและทิศทางเดียวกัน โดยได้ให้กองประชาสัมพันธ์ กทม.เป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหาย กทม.เตรียมที่จะเข้าไปฟื้นฟู ทั้งด้านกายภาพถนน สุขอนามัย และบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย หลังน้ำลด
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.ว่า ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านในพื้นที่ยังคงสามารถรับมือได้ โดยทางกทม.ได้เตรียมการในเรื่องของโครงการแก้มลิง ซึ่งได้ทำการพร่องน้ำในทุกพื้นที่ เพื่อรองรับน้ำที่จะไหลผ่านเข้าสู่กทม. และยืนยันว่าจะสามารถรองรับน้ำได้ แต่ก็ไม่ประมาท แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายที่ยังแสดงความห่วงใย ส่วนปริมาณฝนในช่วง 2-3 วันนี้ น่าจะมีปริมาณที่ลดน้อยลง ซึ่งน่าจะตกไม่เกิน 20 มิลลิเมตร ในช่วงนี้ แต่ยังต้องเฝ้าระวังในเรื่องของพายุดีเปรชชั่นนาแกล ที่ขณะนี้อยู่ในทะเลจีนใต้ และจะเคลื่อนเข้าประเทศเวียดนาม และประเทศไทย ซึ่งก็จะทำให้มีผลกระทบด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนในเรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะนักเรียนในสังกัด กทม. ในช่วงนี้คงจะไม่ได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากโรงเรียนในสังกัด กทม.ได้ปิดภาคเรียนไปแล้ว นอกจากนี้ ในพื้นที่เขตรอบนอกของ กทม. จากการสำรวจผลกระทบผู้ประสบอุทกภัยใน กทม. พบว่ามีเกษตรกรเดือดร้อนจำนวน 534 ราย ในพื้นที่ 11 เขต โดยเขตที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ เขตบางแค และมีนบุรี ซึ่งได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว ส่วนเขตอื่นๆ ก็ยังอยู่ในความดูแลของสำนักงานเขตในพื้นที่
นายพรเทพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางกทม.เตรียมจัดตั้งศูนย์บูรณาการข่าวสาร ข้อมูล เพื่อให้การประสานและการให้ข้อมูล เป็นไปอย่างเชิงรุกและทิศทางเดียวกัน โดยได้ให้กองประชาสัมพันธ์ กทม.เป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหาย กทม.เตรียมที่จะเข้าไปฟื้นฟู ทั้งด้านกายภาพถนน สุขอนามัย และบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย หลังน้ำลด
